เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 22 ก.ค. 65 ร.ต.อ.อัสดงคำแปงคำ พนักงานสอบสวน สภ.สูงเม่น จ.แพร่ รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตที่บ้าน ม.7 ต.สูงเม่น อ.สูงเม่น จ.แพร่ เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูงที่ใต้ถุนบ้าน พบร่างผู้เสียชีวิตนอนหงาย ลำตัวพาดอยู่บนแคร่ไม้ สวมเสื้อสีน้ำเงิน กางเกงขาสามส่วนสีน้ำเงิน รองเท้าแตะสีดำ ถูกยิงด้วยปืนลูกซอง
บริเวณใบหน้าซีกขวาฉีกขาดขนาดใหญ่ ที่ลำตัวพบมีรอยถลอก 2 รอย จากกระสุนบริหน้าอกด้านซ้าย ซึ่งเป็นรอยสักรูปอักขระโบราณ กลางอกมีรอยกระสุน แต่ยิงไม่เข้า ติดกันข้างราวนมข้างซ้ายมีรอยกระสุนถาก เลือดออกเล็กน้อย ทราบชื่อคือ นายสมบูรณ์ ท้าวองค์การ อายุ 62 ปี ผู้ก่อเหตุ คือ นายพิศ ข้ามเขา อายุ 69 ปี หลังก่อเหตุเข้ามอบตัวทันทีที่ สภ.สูงเม่น พร้อมอาวุธปืนลูกซองสั้นเบอร์ 12
ทีมข่าวได้วงจรปิดวินาทีนายพิศ ขับรถไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังก่อเหตุเสร็จ เวลา 17.19.59 น. ของวันที่ 22 ก.ค. 65 กล้องจับภาพผู้ก่อเหตุขับรถมอเตอไซค์คันสีน้ำเงิน และมีนายมานพ ญาติคนก่อเหตุนั่งซ้อนท้าย ซึ่งรถคันดักล่าวขับออกจากบ้านหลังเกิดเหตุ มุ่งหน้าโรงพัก
ล่าสุด วันที่ 23 ก.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายัง สภ.สูงเม่น จ.แพร่ ช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำนายสมบูรณ์ตั้งแต่ช่วงเช้า เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายสมบูรณ์ ผู้ต้องหา ส่งฝากขัง ทีมข่าวสอบถามผู้ก่อเหตุว่าปมก่อเหตุมาจากเรื่องอะไร เจ้าตัวตอบว่า "บันดาลโทสะ และตัวเองก็ไม่อยากขอโทษคนตายอีกด้วย"
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูครึ่งไม้ บ้านหลังดังกล่าว ผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ อาศัยอยู่กัน 2 คน แบ่งพื้นที่การอยู่อาศัยกันอย่างชัดเจน ที่ชั้นล่างของบ้าน ฝั่งด้านซ้ายเป็นที่อยู่ของนายพิศ คนก่อเหตุ และข้างบ้านฝั่งซ้ายจะเป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุเลี้ยงไก่ชน ส่วนด้านขวาของบ้าน และชั้น 2 ของบ้านเป็นฝั่งที่นายสมบูรณ์อยู่อาศัย โดยที่ชั้น 1 ของบ้าน ตรงกลางจะมีผ้าขลึงกั้นเขตแดนไว้อย่างดี
ส่วนจุดเกิดเหตุ จะอยู่บริเวณแคร่ไม้ใต้ถุนบ้าน ฝั่งที่ขวาของบ้านที่ผู้ตายอยู่อาศัย พบคราบเลือดของผู้เสียชีวิตติดตามพื้นดิน และตู้เย็น ส่วนที่แคร่ไม้ที่นายสมบูรณ์นอนเสียชีวิต ทางครอบครัวได้นำน้ำมาชำระล้าง และนำลูกมะกรูดมาใช้ในการดัลกลิ่นแล้ว
นางสุพรรณ ผาแก้ว อายุ 59 ปี น้องสาวคนก่อเหตุ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ที่บ้านหลังเกิดเหตุ นายสมบูรณ์ ผู้เสียชีวิต และนายพิศ ผู้ก่อเหตุ เขาจะแบ่งโซนที่อาศัยกันคนละครึ่งชัดเจน และใช้ผ้าขลึงกั้นตรงกลางของบ้านอีกด้วย ซึ่งคนก่อเหตุเป็นคนกั้นผ้าดังกล่าว คนตายจะอาศัยโซนฝั่งขวาของบ้าน ส่วนคนก่อเหตุจะอาศัยอยู่ฝั่งซ้ายของบ้าน
ที่ผ่านมาคนตายและคนก่อเหตุมีปากเสียงกันเป็นประจำ ตัวเองยอมรับว่าส่วนหนึ่งมาจากนายพิศ พี่ชายตัวเองเขาได้เลี้ยงไก่ชนนับ 100 ตัว ที่โซนฝั่งซ้ายของบ้าน ทำให้เสียงไก่และกลิ่นของขี้ไก่ไปสร้างความรำคาญความเดือดร้อนให้กับนายสมบูรณ์ ผู้เสียชีวิต ที่ผ่านมาตัวเองเคยคุยกับพี่ชายเรื่องเลี้ยงไก่ว่ามันส่งกลิ่นเหม็นให้ผู้ตาย และเพื่อนบ้านละแวกนนี้ พี่ชายก็บอกว่าเขาจะทยอยขาย เพื่อลดจำนวน แต่ก็ยังไม่มีเวลาขาย สำหรับนายพิศ พี่ชายตัวเอง มีอาชีพเป็นช่างก่อสร้างรายวัน และเลี้ยงไก่ชน ส่วนนายสมบูรณ์ ผู้เสียชีวิต เป็นช่างทำเฟอร์นิเจอร์
ตอนเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ แต่จากที่นายพิศ พี่ชายตัวเอง เล่าให้ญาติฟังเมื่อเช้าวันนี้ ว่าเมื่อวานนี้ก่อนเกิดเหตุ มีบิลค่าไฟส่งมาให้นายสมบูรณ์ จำนวน 700 บาท จากนั้นนายสมบูรณ์ เขาก็บ่นเรื่องค่าไฟ ด้วยความที่เขาเมาเหล้า นายสมบูรณ์ได้เอาปัญหาเรื่องเก่าในบ้านมาพูด นายพิศ พี่ชายตัวเอง จึงกลับเข้าห้อง ไปสวดมนต์สงบสติอารมย์ และสวดเสียงดัง เพื่อให้ผู้ตายได้ยินด้วย แต่ผู้ตาย ก็ไม่เลิกบ่น
จากนั้นนายพิศ ผู้ก่อเหตุ ได้ออกมาจากห้องมาหาผู้ตายที่โถงหน้าบ้าน พกปืนเหน็บเอวมาด้วย แล้วนายพิศก็ถามผู้ตายว่า "บ่นอะไรนักหนา ทำงานมาเหนื่อย ๆ กัน มีค่าใช้จ่ายอะไรก็บอกมา จะได้ออกช่วย" แต่คนตายตอบกลับพี่ชายตัวเองว่า "มึงไม่เกี่ยว ไม่ต้องมายุ่ง" โดยพี่ชายตัวเองไม่ชอบคนพูดไม่เพราะ จึงได้ถามคนตายไปว่า อยากอยู่ที่นี่หรืออยากกลับบ้าน คนตายจึงตอบว่า "อยากอยู่ที่นี่" นายพิศ พี่ขายตัวเอง จึงพูดต่อว่า "งั้นมึงได้อยู่ที่นี่แน่นอน เดี๋ยวกูจัดการให้" หลังจากพี่ชายพูดเสร็จ เห็นผู้ตายใช้สายตามองไปหามีดที่เหน็บไว้ พี่ชายตัวเองจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิต 2 นัด หลังจากก่อเหตุ พี่ชายตัวเองได้ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปหาญาติ แล้วให้ญาติพาไปมอบตัวที่โรงพัก
นางสุพรรณ น้องสาวของผู้ก่อเหตุ บอกว่า หลังจากเกิดเหตุพบว่าศพของนายสมบูรณ์มีกระสุนยิงไม่เข้าที่บริเวณหน้าอก ที่เป็นรอยสักอักขระ ตัวเองจึงเชื่อว่าการที่นายสมบูรณ์สักยันต์น่าจะมีส่วนให้กระสุนไม่เข้าร่าง เพราะก่อนหน้านี้ตัวเองได้ยินชาวบ้านเล่ามาว่ามีคนเคยใช้มีดฟันคนตาย แต่ฟันไม่เข้า สำหรับทางครอบครัวไม่ประกันตัวพี่ชาย เพราะทางครอบครัวไม่มีเงิน คงปล่อยเป็นไปตามกฎหมาย
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังบ้านเกิดของผู้เสียชีวิต บ้านเอนแท่น ต.ดอนมูล อ.สูงเม่น จ.แพร่ นายไกรพันธ์ ท้าวองค์การ อายุ 59 ปี น้องชายของผู้เสียชีวิต เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตัวเองเชื่อว่ายันต์อักขระที่อยู่กลางหน้าอกของพี่ชาย มีส่วนช่วยให้กระสุนยิงไม่เข้า สำหรับพี่ชายสักยันต์ที่หน้าอกและที่หลัง ตั้งแต่อายุประมาณ 17-18 ปี ตอนนั้นตัวเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
โดยตอนที่พี่ชายเป็นวัยรุ่น มีอาจารย์สักยันต์มาจากต่างจังหวัด มาตระเวนสักยันต์ที่หมู่บ้านของตัวเอง ซึ่งพี่ชายก็ได้สักยันต์ดังกล่าว ส่วนตัวเองนั่งดู โดยยันต์ที่พี่ชายสักไม่รู้ว่าคือยันต์อะไร ได้ยินแต่หมอสักยันต์เขาบอกว่ามีพุทธคุณแทงฟันและยิงไม่เข้า หลังจากพี่ชายสักยันต์เสร็จ อาจารย์สักยันต์ได้ทดสอบด้วยการใช้มีดฟันเข้าที่กลางหลังพี่ชาย แต่ก็ฟันไม่เข้าแต่อย่างใด นอกจากนี้ เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา พี่ชายก็เคยขับรถมอเตอร์ไซค์ลงคลอง แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่เล็กน้อย และคลาดแคล้วเกี่ยวกับอุบัติเหตุมาแล้วหลายรอบ
Advertisement