จากกรณีเมื่อช่วงสาย วันที่ 14 ก.ค. 65 บริเวณปากซอยชุมชนเทพารักษ์ 4 ถ.หลังศูนย์ราชการ เขตเทศบาลนครขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการกันพื้นที่พร้อมกันการจราจร หลังมีเหตุชายใช้อาวุธระเบิดจับชาวบ้านเป็นตัวประกัน โดยเมื่อเวลา 08.00 น. ก่อนเกิดเหตุตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายเข้าลักทรัพย์ ภายในพิพิธภัณฑ์ขอนแก่น ขับรถจักรยานยนต์พร้อมมีรถเข็นพ่วงท้าย
จากนั้นตำรวจสายตรวจได้ตามมาถึงบริเวณชุมชนเทพารักษ์ 4 ก่อนจะขอตรวจค้นตัใชายคนดังกล่าว ทราบชื่อนายชัย อายุ 50 ปี เป็นอดีตทหารพราน เมื่อตำรวจค้นที่รถเข็นแล้ว อค้นกระเป๋าสะพายข้าง แต่นายชัยปฏิเสธ ก่อนจะมีการวิ่งไล่จับ จากนั้นนายชัยเปิดกระเป๋าพร้อมควักระเบิดออกมา ใช้นิ้วสอดเข้าไปในสลักวิ่งไปที่ร้านซ่อมจักรยานยนต์ พร้อมกับจับภรรยาเจ้าของร้านเป็นตัวประกัน
ด้าน พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น, พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น พยามยามเกลี้ยกล่อม ตำรวจ EOD ได้นำหุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิดเตรียมพร้อม
วงจรปิดก่อนเกิดเหตุ ขณะที่นายสุนทรเข็นรถผ่านหน้าบ้านของชาวบ้าน ในเวลา 09.11 น. หลังจากนั้นก็จะเห็นว่ามีสายตรวจขี่รถเข้ามาจอดก่อน 1 นาย ก่อนจะบีบแตร 1 ครั้ง เรียกนายสุนทร มีตำรวจสายตรวจทยอยขี่รถเข้ามาในที่เกิดเหตุ
กล้องอีกมุมที่จะจับภาพและเสียงได้ชัดเจน ขณะที่นายสุนทรพยายามวิ่งเข้าไปจับตัวประกันในร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ เห็นว่านายสุนทรเดินข้ามมาจากบริเวณทางแยกตำรวจและชาวบ้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุต้องถอยออกมา หลังจากนายสุนทรเข้าไปที่ร้านซ่อมรถ ตำรวจก็พยายามโบกมือให้ทุกคนออกจากพื้นที่ พยายามเรียกคนในร้านซ่อมรถวิ่งหนีข้ามฝั่งมาหาตำรวจ จนนายประสบ สามีของตัวประกัน วิ่งอุ้มลูกออกมาแล้วก็ล้มลงที่พื้น ก่อนจะส่งลูกสาวให้กับญาติที่อยู่กับตำรวจอย่างปลอดภัย
เวลา 11.30 น. มีการปิดถนนเส้นทางหลังศูนย์ราชการ ตัดเทพารักษ์ (ตชด.) ขณะนั้น ผู้ก่อเหตุยังคงจับนางเเมว อายุ 53 ปี เป็นตัวประกันอยู่ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น, ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น, ตำรวจ EOD ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมอาวุธครบมือ ทั้งอาวุธปืนและโล่เข้าควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ กั้นโพลิซไลน์ไม่ให้เข้าไปในพื้นที่อันตราย ในระยะห่างประมาณ 200 เมตร มีชาวบ้านอยู่โดยรอบจำนวนมาก
จนกระทั่งเวลา 11.53 น. นางเเมว ตัวประกันหนีออกจากร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ มีผู้ก่อเหตุวิ่งตามพร้อมในมือขวาถือระเบิด ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะยิงปืนไปที่ผู้ก่อเหตุ 1 นัด กระสุนเข้าคอด้านขวา ทะลุท้ายทอยซ้าย ล้มฟุบคว่ำหน้าลงกับพื้นถนน มือขวายังคงไม่ปล่อยระเบิด
เวลา 11.55 น. เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิดเข้าไปตรวจสอบตัวของผู้ก่อเหตุ ยังไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ เนื่องจากยังไม่หมดสติ มีการขยับแขนขวาที่ถือระเบิดเข้าใกล้ปาก คล้ายกับกำลังจะถอดสลักระเบิด
ช่วงเวลา 12.06 น. ชุดเก็บกู้ระเบิดเข้าไปใกล้ผู้ต้องหาอีกครั้ง ก่อนจะระบุเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในความสงบ การเก็บวัตถุระเบิดเวลา 12.11 น. กู้ภัยได้เดินทางเข้าพื้นที่เพื่อรับผู้ก่อเหตุที่อยู่ในอาการสาหัสไปส่ง รพ.ศูนย์ขอนแก่น
พิสูจน์หลักฐานได้เดินทางเข้าพื้นที่ เพื่อเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ เครื่องกระสุน .45 เกือบ 30 นัด ระเบิดลูกเกลี้ยง M61 จำนวน 1 ลูก กระเป๋าสะพายสีน้ำตาล 1 ใบ เสื้อยืดกางเกง 1 ชุด รองเท้าผ้าใบ 1 คู่ อาวุธมีดปลายเเหลม 1 เล่ม พระเครื่อง ของขลังจำนวนหนึ่ง แบงค์ปลอม 500 บาท แหวนทอง ส่วนที่รถเข็น 3 ล้อ พบมีพลาสติกเก็บของเก่า มีขวดน้ำพลาสติกภายใน มีเเบงก์ปลอมจำนวน 500 บาท
ด้านนายประสพ ตาเเสงสา อายุ 54 ปี เจ้าของร้านซ่อมรถ จยย. เป็นสามีของตัวประกัน เปิดใจทั้งเสียงสั่นว่า เมื่อช่วงเช้าประมาณ 08.00 น. ตนเปิดร้านตามปกติมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ นางแมว ผู้เป็นภรรยา ก็ไปส่งหลานอีก 2 ที่โรงเรียน ก่อนจะกลับมาถึงบ้านช่วงประมาณ 09.00 น. ตอนนั้นนางแมวก็ยืนอุ้มหลานสาววัย 4 ขวบ ยืนอยู่หน้าร้าน ส่วนตนก็ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เห็นตอนที่ตำรวจกำลังค้นตัวผู้ก่อเหตุ ก่อนตำรวจจะบอกว่าผู้ต้องหามีระเบิดของจริง ส่วนอาวุธปืนถูกยึดตั้งแต่แรก
ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะวิ่งมาทึ่ร้าน จะเอาหลานสาววัย 4 ขวบเป็นตัวประกัน ตนจึงรับอุ้มหลานออกมา ก่อนจะหกล้มกลางถนน ตนมีแผลที่ข้อมือขวา เข่าขวาถลอก นิ้วเท้าบาดเจ็บ ส่วนหลานสาวมีแผลที่คาง ส่วนนางเเมวหนีไม่ทัน ผู้ก่อเหตุจึงล็อกตัวไว้ มือหนึ่งถือระเบิด อีกมือก็ดึงคอเสื้อ พฤติกรรมตอนที่ผู้ก่อเหตุจับภรรยาของตนเป็นตัวประกันนั้น เห็นว่ามีการยืนเหยียบเท้านางเเมวไว้ไม่ให้หนี ตนเป็นห่วงเมียมาก นางเเมวมีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจ กลัวภรรยาจะช็อก แต่เท่าที่เห็นผู้ก่อเหตุก็นั่งห่าง ๆ ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ใช้การเจรจาไล่เกลี่ยอยู่นานพอสมควร ก่อนผู้ก่อเหตุจะออกไปเอาน้ำอาหารที่ตำรวจส่งมาให้ นางเเมวอาศัยจังหวะนั้นวิ่งหลบหนีออกมา ตำรวจจึงยิงสกัดผู้ก่อเหตุ
ตอนนี้ภรรยาถูกนำตัวส่ง รพ. เนื่องจากเป็นลมหลังจากหนีออกมาได้ มีบาดแผลคือเข่าข้างขวาแตก มีแผลถลอกที่ข้อศอกด้านซ้าย ตอนนั้นตนกลัวมากว่าภรรยาจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก เพราะตัวเหลืองซีดหมดแล้ว เหมือนหายใจไม่อิ่ม เป็นโรคหัวใจก็เหนื่อยง่ายอยู่แล้ว ยังมีเจอเหตุการณ์รุนแรงอีก ส่วนตนเองและหลานสาวตอนแรกก็ตกใจและช็อกมาก หลังเห็นนางแมวถูกจับเป็นตัวประกัน ตอนนี้อาการของตนและหลานสาวปลอดภัยดี แต่ก็เจ็บแผลบ้าง
ส่วนคนก่อเหตุ ตนเองก็เคยเห็นประจำ เมื่อก่อนจะขับรถ จยย. เก็บของเก่าขาย ต่อมาก็เข็นรถเข็น 3 ล้อแทน เห็นมานานประมาณ 3 ปีแล้ว ไม่เคยเห็นครอบครัวของนายชัย ไม่เคยเห็นจะพกอาสุธปืนหรืออาวุธอื่น ๆ มาก่อน ปกตินายชัยก็เป็นคนเสียงดังโวยวาย เคยบอกกับตนว่าเป็นทหารผ่านศึกมาก่อน รู้จักอาวุธสงครามทุกชนิด ส่วนตัวเชื่อว่าผู้ก่อเหตุไม่น่าจะดื่มเหล้า แต่ไม่ทราบว่ามีการเสพยาเสพติดหรือไม่
Advertisement