ตำรวจ สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ รับเเจ้งเหตุมีการทะเลาะวิวาทมีผู้บาดเจ็บถูกแทงด้วยอาวุธมีด ได้รับบาดเจ็บสาหัส เกิดขึ้นใกล้กับ สภ.แม่ริม จุดถนนสายเชียงใหม่-แม่ริม บริเวณสะพาน ต.ริมใต้
เบื้องต้นภายหลังได้รับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกู้ชีพได้เข้าตรวจสอบพบชายวัยกลางคน ทราบชื่อ นายสันชัย หลวงวิโรจน์ อายุ 39 ปี นอนจมกองเลือด ข้างรถจักรยานยนต์สกู๊ปปี้ไอสีแดง ป้ายทะเบียน 433 เชียงใหม่ สภาพได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าท้องด้วยอาวุธของมีคม บาดแผลมองเห็นลำไส้โผล่ออกมา ก่อนที่ทางเเพทย์จะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
คนก่อเหตุคือ นายพงศ์นเรศวร์ เกิดพฆัคย์ อายุ 32 ปี หลังก่อเหตุทางเจ้าตัวได้มีการหลบหนีขี่จักรยานยนต์เวฟร้อยสีขาว ทะเบียน 533 เชียงใหม่ กลับไปที่บ้านพักส่วนตัวหาางจุดเกิดเหตุ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปจับกุมตัวในเวลาต่อมา พร้อมอาวุธมีดที่ใช้ในการก่อเหตุ
เบื้องต้นทางผู้ก่อเหตุได้ยอมรับสารภาพ และอ้างว่าก่อนเกิดเหตุนั้น ผู้บาดเจ็บบรถจักรยานยนต์ปาดหน้ากันไปมา ก่อนที่ทางผู้บาดเจ็บได้เรียกให้ทางเจ้าตัวลงมาคุยบริเวณหน้าร้านทองใกล้กับสะพานลอย คนเจ็บเข้ามาชกต่อย ทำให้ทางเจ้าตัวเองต้องป้องกันตัว และนำอาวุธมีดที่เอาไว้ในการทำงานจ้วงแทงคนบาดเจ็บ ก่อนจะขับรถหนีไป อ้างว่าที่พกไว้เพราะมีอาชีพเป็นช่าง มีติดตัวอยู่ที่รถ ไม่ได้ตั้งใจจะพกเพื่อเอามาก่อเหตุ เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส รวมไปถึงเรื่องของพกพาอาวุธมีดในที่สาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต
ล่าสุด วันที่ 10 ก.ค. 65 ที่ สภ.แม่ริม ตำรวจได้มีการควบคุมตัว นายพงศ์นเรศวร์ หรือ ราม แม่สา คนดังในพื้นที่ เนื่องจากเคยมีประวัติทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายหลายคดีมาก่อน ตำรวจให้ข้อมูลว่าหลังรับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ก็รีบไปตรวจสอบซึ่งจากพยานในจุดเกิดเหตุ ชี้ชัดว่าเป็น "ราม แม่สา" ตำรวจเลยติดตามและจับกุมได้ในเวลาประมาณ 21.00 น. กว่า พร้อมหลักฐานในการก่อเหตุ
ทีมข่าวเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ สะพานลอยตรงข้ามกับเทศบาลตำบลแม่ริม หน้าร้านทอง ร้านขายอุปกรณ์มือถือ มีคราบเลือดติดอยู่บนบริเวณริมฟุตพาท นางเจี๊ยบ เจ้าของร้านยาใกล้จุดเกิดเหตุ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้ ประมาณ 20.00 น. ตนกำลังเปิดร้านอยู่ตามปกติกับทางด้านลูกสาว ได้ยินเสียงทางแม่ค้าฝั่งตรงข้ามได้ตะโกนว่ามีคนทะเลาะกัน ตนเลยออกจากร้านมาดู พบว่ามีคน 2 คนกำลังชกต่อยกันอยู่ ไม่เห็นชัดว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง นึกว่าผัวเมียทะเลาะกัน เลยไม่ได้สนใจ
กระทั่งผ่านไปประมาณ 3-4 นาที มีคนตะโกนว่าคนโดนแทง ตนเลยวิ่งไปดูอีกครั้ง พบว่าเป็นชายคนเดิมที่มีการชกต่อยกันก่อนหน้านี้ ตนและลูกสาวเลยวิ่งไปดู พบคนบาดเจ็บนอนจมกองเลือด ลักษณะกุมหน้าท้อง ก่อนที่ทางชาวบ้านจะช่วยกันปฐมพยาบาล ไส้ทะลักออกมาบริเวณหน้าท้องด้านขวา มีเลือดกองโต ตอนแรกทางเจ้าตัวยังมีสติและสามารถสื่อสารได้ ผ่านไปสักพักกลับพบว่าทางเจ้าตัวร้องด้วยเสียงเจ็บปวด แน่นิ่งไป เจ้าหน้าที่ตำรวจกู้ชีพเข้าปฐมพยาบาลและนำตัวส่งโรงพยาบาล
ส่วนตัวตกใจและไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แทงกันถึงขั้นขนาดไส้ทะลัก มองเห็นคนก่อเหตุอนข้างโหด ทำร้ายกันต่อหน้าโรงพัก ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ส่วนตัวไม่รู้จักคนก่อเหตุและคนบาดเจ็บ จึงไม่ทราบว่าปัญหามาจากอะไร
นางสาววชิรญา กาฬพรรณลึก อายุ 34 ปี แฟนสาวของผู้บาดเจ็บ เปิดใจว่าเบื้องต้นที่ทราบเหตุการณ์นั้นมาจากที่เมื่อวานตนได้โทรหาทางแฟนหนุ่มช่วงประมาณ 20.00 น. กว่า แต่ตำรวจรับสายและบอกว่าทางแฟนของตนโดนแทง ให้รีบมาที่โรงพยาบาล ตนและทางคุณแม่ของแฟน ได้เดินทางมาปรากฎว่าเขาเองบาดเจ็บหนัก ถึงขั้นไส้ทะลักออกมา หมอต้องนำตัวเข้าห้องผ่าตัดเป็นการด่วน และไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางแพทย์เองได้มีการผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แพทย์เองบอกพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังคงพักรักษาอาการต่อในห้องไอซียู เนื่องจากเขาเองยังไม่สามารถสื่อสารหรือพูดได้ ส่วนตัวตนเองไม่รู้จักกับคนก่อเหตุ ไม่ทราบเลยว่าเขาคือใคร ตอนนี้ก็ยังไม่เคยเห็น ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดจะไม่ขอยอมความ
นางสายฝน หลวงวิโรจน์ อายุ 66 ปี แม่ของคนเจ็บ เปิดใจว่าตอนนี้หัวอกคนเป็นแม่ค่อนข้างเครียด และวิตกกังวล เพราะเป็นห่วงลูกชายคนเดียวของตน เนื่องจากไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ครั้งนี้ครั้งแรก หลังทราบข่าวถึงขั้นตนเองกินไม่ได้ นอนไม่หลับ แม้ว่าตอนนี้เองทางคุณหมอจะบอกว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ในใจคนเป็นแม่ก็ยังแอบเป็นห่วงไม่หาย ภาวนาและไหว้พระขอให้ลูกชายหายไวไว ยืนยันว่าลูกชายของตนเองไม่เคยมีเรื่องหรือมีปัญหากับใครมาก่อน เขาเองตั้งใจทำงานเลี้ยงแม่ และครอบครัว เป็นเสาหลักของครอบครัว มาเจอแบบนี้แม่เองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
นางแดง พ่วงคำ อายุ 63 ปี เพื่อนบ้านที่คอยดูแลนายมิน บอกว่า จริง ๆ แล้วทางนายพงศ์นเรศวร์เขาอยู่กับพ่อและภรรยา ที่บ้านหลังแต่ที่ผ่านมาชาวบ้านเเถวนี้จะรู้ดีว่าพฤติกรรมของนายพงศ์นเรศวร์จะเป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบทะเลาะวิวาทกับคนในพื้นที่จนหลายคนไม่อยากยุ่ง ขนาดตนเองยังเคยจะโดนทุบมาแล้วหลายครั้ง เพราะเอาข้าวมาให้พ่อของเขา แล้วเขาไม่พอใจ
เนื่องจากที่ผ่านมาเขาเองมักจะทำร้ายกับทางตามิน พ่อบุญธรรม หลังที่ทราบเรื่องว่าเขาเองไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ถึงขั้นผลักและทุบตีพ่อ ขังพ่อไว้ในบ้าน ด้วยความที่พ่อเขาป่วย และเดินไม่ได้ก่อนหน้านี้ ทำอะไรไม่ได้ ตนเองและชาวบ้านบางครั้งต้องแอบมาเปิดหน้าต่าง แล้วเอาข้าวเอาอาหารแขวนไม้ ส่งให้ตามินทางหน้าต่าง แต่ก็กลับโดนตามินเข้ามาทำร้ายทุบตี หาว่ามายุ่ง จนชาวบ้านในพื้นที่ต่างเอือมระอาทั้งคู่ ขณะที่หลายคนเอาของมาให้ตามิน แต่กลับโดนทางนายพงศ์นเรศวร์เอาไปกินด้วย
โตขึ้นมานิสัยเริ่มเปลี่ยน กินเหล้ากินยาแล้วอาละวาด เจ้าตัวมักทุบตีพ่อผลักให้พ่อเขาหล่น เพียงเเค่อารมณ์หงุดหงิด ขนาดพี่น้องแท้ ๆ ของเจ้าตัวเองยังไม่เอา เพราะมองว่าทางนายพงศ์นเรศวร์เกิดมาดวงฆ่าแม่ แต่ทางตามินสงสารเลยเอามาเลี้ยง สุดท้ายพอทางเจ้าตัวรู้ว่าไม่ใช่พ่อแท้ ๆ เลยรู้สึกโมโหและบอกว่า "ไม่ใช่พ่อกู เมื่อไหร่มึงจะตาย" ส่วนตัวรู้สึกโล่งใจที่เขาเองโดนดำเนินคดี
สอดคล้องกับข้อมูลที่ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ให้ข้อมูลกับทางทีมข่าวว่าเมื่อช่วง พ.ค. ที่ผ่านมา โดยเป็นเหตุการณ์ที่นายพงศ์นเรศวร์ จุดไฟด้วยกากมะพร้าวภายในบ้าน หวังให้ไฟไหม้ และมีการรมควันภายในบ้าน เพื่อให้ทางพ่อบุญธรรมเสียชีวิต โชคดีที่ชาวบ้านเองช่วยไว้ทัน หลังเกิดเหตุทางขาวบ้านเองก็รู้สึกโล่งใจ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ย้อนกลับไปประมาณ 1 ปีที่แล้ว ทางเจ้าตัวเริ่มมีอาการผิดปกติ มักจะทุบตีทำร้ายพ่อบุญธรรมของตัวเอง ทราบภายหลังว่าเขาตั้งใจจะทำร้ายพ่อให้เสียชีวิต เพื่อจะเอาเงินสงเคราะห์คนชรา หรือเงินฌาปนกิจศพ หนำช้ำใครที่เข้าไปยุ่งจะโดนทางเจ้าตัวอาละวาด หาว่าไปยุ่งพ่อของเขา ทั้งที่ทางเจ้าตัวเองพยายามขังพ่อไม่ให้กินข้าวกินน้ำ คล้ายกลับทรมานให้ท่านเสียชีวิต
Advertisement