
กรณีเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 26 มิ.ย.65 พ.ต.ท.พลวรรษ พรหมศร สว.(สอบสวน) สน.จักรวรรดิ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บ ภายในย่านสำเพ็ง ถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ

จึงประสานรถดับเพลิงของอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย 20 คัน รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พล.ต.ต.สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผบก.น.6, พ.ต.อ.จักรเพชร พลอยเพชรนิล รอง ผบก.น.6 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น รวมดาดฟ้า ประกอบกิจการขาย บรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ตั้งอยู่ริมถนนใจกลางย่านธุรกิจ ค้าส่งและค้าปลีกสำเพ็ง เจ้าหน้าที่พบกลุ่มควัน และแสงเพลิงพุ่งออกจากหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ บริเวณด้านหน้าอาคาร ก่อนลุกลามเข้าสู่ภายในอาคารชั้นที่ 2 และชั้นล่าง ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้าที่มีลักษณะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงโหมกระหน่ำ สร้างความเสียหายไปทั้งตึก


จากนั้น กระจายวงกว้างออกไปสร้างความเสียหายต่ออาคารข้างเคียงอีก 3-4 คูหา อย่างรวดเร็ว ฝั่งขวาเป็นร้านสะดวกซื้อเก่ายังไม่มีผู้เช่า ส่วนฝั่งซ้าย 2 คูหาถัดมาเป็นร้านของเล่น และร้านขายถุงพลาสติกได้รับความเสียหายมาก ขณะเดียวกันพบรถยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่ด้านหน้าอาคาร ถูกเพลิงลุกไหม้ไปด้วย 3 คัน รถจักรยานยนต์ 2-3 คัน และจักรยาน รวมถึงรถเข็นขายของ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันวางหัวฉีดน้ำ เข้าทำการสกัดกั้นไว้ทุกด้าน จำนวนกว่า 20 หัว รวมถึงมีการขอสนับสนุนรถกระเช้า มาจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ช่วยระดมฉีด อีก 1 คัน ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง เพลิงสงบ 14.30 น. มีชาวบ้านและอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยที่นำหัวฉีดน้ำดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ เกิดสำลักควันไฟได้รับบาดเจ็บรวม 9 ราย ถูกแยกย้ายนำตัวส่ง รพ.กลาง และ รพ.หัวเฉียว ไปก่อนหน้านี้

เวลา 14.32 น. พนักงานสอบสวนรับการยืนยันจากมูลนิธิร่วมกตัญญูพบศพผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย ติดอยู่ที่ชั้นวางสินค้า ด้านล่างของอาคาร 1 ราย ยังไม่สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลได้ ทราบเพียงว่าลูกจ้างเพศชายที่เสียชีวิต ชื่อนายเพชร เดือม อายุ 34 ปี ส่วนลูกจ้างเพศหญิงชื่อ นางสาวจิรภัทร สุ่มมาก อายุ 52 ปี เจ้าหน้าที่จึงกันพื้นที่ในรัศมี 150 เมตร ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปเกี่ยวข้อง เนื่องจากกังวลว่าอาคารจะทรุดตัว มีการตรวจสอบอุณหภูมิความร้อนสูงถึง 100.5 องศาเซลเซียส ต้องรอให้อาคารดังกล่าวคลายความร้อนลงเสียก่อน จึงจะพาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบด้านในอย่างระมัดระวังอีกครั้ง

ต่อมาเวลา 15.20 น. มูลนิธิร่วมกตัญญูรายงานอีกครั้งว่า ติดปัญหาพลาสติกละลายติดกับตัวศพ ยังไม่สามารถเอาศพออกมาได้ จึงใช้เวลานานถึง 40 นาที ลำเลียงศพผู้เสียชีวิตออกมาได้ เวลา 16.00 น. ขณะที่เจ้าของร้านยืนกอดกันด้วยความเศร้าใจ

น.ส.จิตรา อัฐใจ อายุ 34 ปี ลูกจ้างร้านค้า เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. มีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้ขับรถสีเหลืองเข้ามาตรวจสอบ และซ่อมแซมสายไฟบริเวณดังกล่าว ซึ่งพาดขนานไปกับตัวอาคารบริเวณชั้น 2 ของร้านค้าในละแวกเดียวกัน
กระทั่งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเดินทางกลับไป ตนและผู้ค้าอีก 2 คน สังเกตเห็นว่าบริเวณสายไฟที่หน้าร้านเกิดเสียงดังคล้ายไฟชอร์ตกัน ทีแรกยังบ่นว่าเจ้าหน้าที่ไม่พันเก็บสายไฟให้เรียบร้อย

สักพักก็มีของเหลวไหลทะลักออกจากหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ คาดว่าเป็นน้ำมันและได้กลิ่นไหม้ จึงโทรศัพท์หาเจ้าของร้าน หรือ นายรัฐนันท์ กิตติฤดีกุล ให้ออกมาดู ยืนดูไม่ถึง 1 นาทีมีเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง ทำให้ตนต้องรีบวิ่งหนีตายไปอยู่ฝั่งซ้าย พร้อมกับตะโกนเรียกให้เพื่อนพนักงานอีก 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน ว่าให้ออกมา ได้ยินแค่เสียงพนักงานหญิงบอกว่าไม่เป็นไร และแสงเพลิงก็ลุกลามจากหม้อแปลงไฟฟ้าเข้าสู่ตัวอาคารอย่างรวดเร็ว จากนั้นเสียงระเบิดในอาคารดังขึ้นอีก 1 ครั้ง ไม่รู้ว่าเกิดจากถังแก๊สภายในร้านหรือเกิดจากอะไร แต่หันไปพบไฟไหม้กำลังหัวพนักงานชาย ได้แต่ร้องขอความช่วยเหลือ "ตอนนั้นอยากช่วยเพื่อน แต่เข้าใจว่าตนน่าจะไม่ไหว เพราะทางออกร้านออกได้ แค่ทางเดียวคือหน้าร้าน"
สำหรับทั้งคู่รวมงานมานาน ตนใจหายมาก พยายามร้องให้คนช่วยแล้วว่า "มีคนอยู่ข้างใน" แต่ก็ไม่ทัน ส่วนตนคิดว่าถ้าไม่รีบออกมาคงตายอยู่ในนั้นเช่นกัน

เมื่อเวลา 16.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมายังพื้นที่เกิดเหตุ หลังจากเสร็จภารกิจลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางจราจร บริเวณใต้สะพานสี่แยกหนองแขม เปิดเผยว่า ขณะนี้คุมเพลิงไว้ได้ระดับหนึ่ง น่ากังวลคือเรื่องของอาคารอาจจะทรุดตัวและถล่มลงมาได้ ตอนนี้ตรงกลางในอาคารมีการยุบตัวลง อาคารได้รับความเสียหายจากการฉีดน้ำเพราะมีมวลน้ำจำนวนมาก ขณะที่สาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้มาจากหม้อแปลงด้านนอกระเบิด สายสื่อสารที่มีจำนวนมากจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี รวมถึงในอาคารก็มีเชื้อเพลิงอย่างดีเช่นเดียวกัน ทำให้ไฟลุกลามไปอย่างรวดเร็ว

ส่วนหม้อแปลงลูกนี้ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีเหตุมาหลายครั้งแล้วนั้น มองว่าเป็นเรื่องที่การไฟฟ้านครหลวงต้องปรับปรุง และถือเป็นบทเรียนราคาแพงที่ทุกคนและทุกหน่วยงานจะต้องประสานงานช่วยกันทำงาน กรุงเทพมหานครจะช่วยประสานและสำรวจจุดเสี่ยงเพิ่มเติม พร้อมจะเร่งตัดสายที่ไม่ใช้ซึ่งเป็นไปตามนโยยาย และประชาชนจะต้องร่วมในการแจ้งเหตุด้วย สามารถแจ้งผ่านแพลตฟอร์มที่กรุงเทพมหานครทำไว้ได้เลย รวมถึงประชาชนก็ต้องช่วยกันสำรวจสิ่งของและอุปกรณ์ภายในบ้านตัวเองด้วย
สำหรับเรื่องต้องมีการตรวจสอบว่าหน่วยงานใดรับผิดชอบบ้าง โดยกรุงเทพฯ จะเป็นตัวกลางในการสื่อสารให้ ให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย ส่วนวันพรุ่งนี้จะให้วิศวกรรมโยธาเข้ามาตรวจสอบตัวอาคารเ พื่อจะดำเนินการทุบทิ้ง หรือจัดการอย่างไรต่อไร พร้อมฝากไปยังพี่น้องประชาชนกลุ่มเที่ยวกลางคืน ให้ระมัดวังเรื่องการเที่ยวผับบาร์ ให้คนในพื้นที่รับรู้ว่ามีทางออก เพราะสถานที่ที่เราไปอยู่ไม่คุ้นเคยจะช่วยเหลือตัวเองลำบาก
ทั้งนี้ ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่เสียชีวิตและผู้ที่บาดเจ็บ เหตุการณ์แบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปปรับปรุง ไม่รู้ว่าไฟฟ้าสายไฟต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงอยู่ข้างนอกจะทำให้เพลิงลุกลามได้มากแค่ไหน แต่ก็จะต้องไปตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมย้ำว่ามีเหตุการณ์ไฟไหม้ 2 ครั้งติดต่อกัน ไม่ทำให้ กทม. หนักใจ เพราะเป็นหน้าที่ของ กทม. ที่จะต้องดูแลพี่น้องประชาชน

นายรัฐนันท์ กิตติฤดีกุล เจ้าของร้านบรรจุภัณฑ์ดังกล่าว และนายสุรชาติ กิตติฤดีกุล พ่อเจ้าของร้านบรรจุภัณฑ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุไม่มีลูกค้า มีเพียงพนักงานร้าน 3 คน และเจ้าของร้าน แต่ตอนนี้ไม่พบพนักงานร้านอีก 2 คน คาดว่าไม่รอดแล้ว ทั้งคู่เป็นพนักงานขาย คือนางจิราพัช สุ่มมาศ อายุ 52 ปี พนักงานเก็บเงิน ทำงานมานานกว่า 20 ปี และนายเพชร เดือม ชาวกัมพูชา อายุ 35 ปี พนักงานขายทำงานเกิน 10 ปี
ช่วงเที่ยงนางนางจิราพัช วิดีโอคอลมาหา แต่ก็ไม่มีเสียงการตอบโต้จึงคิดว่าใกล้หมดสติ เพราะไฟก็รุกโหมหนักมาก สำหรับทั้งคู่ทราบเหตุการณ์พร้อม ๆ กัน แต่น่าจะตกใจและสิ่งเข้าไปในร้าน ทั้งนี้ หม้อแปลงนี้มีความผิดปกติมาหลายรอบ วันศุกร์ที่ 24 มิ.ย. 65 ชาวบ้านมีการโทรแจ้งไปว่าหมอแปลงมีควัน จากนั้นการไฟฟ้ามาดำเนินการก็กลับไปไม่ได้แจ้งว่ามีปัญหาอะไร วันนี้ควันก็ขึ้นอีก สักพักมีน้ำไหลออกมา และการไฟฟ้าเจ้าดำเนินการ แต่การไฟฟ้าบอกว่าไม่มีอะไรแล้ว มาอัดไฟฟ้าให้ไม่ต้องตกใจ ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้มีการสูญเสียและสาเหตุมาจากหม้อแปลง ขอฝากไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ดำเนินการตรวจสอบแก้ไขหม้อแปลงให้บ่อยขึ้นและละเอียดมากกว่านี้

ขณะที่นายแก้ว กัณรัตนะ อายุ 30 ปี ลูกพี่ลูกน้องนายเพชร เปิดเผยว่า ตนและน้องทำงานอยู่ประเทศไทยประมาณ 20 ปีแล้ว ไม่เคยเปลี่ยนงานเลยทำงานที่ร้านนี้ตลอด ยอมรับว่าประเทศไทยดีมาก ทำให้มีอยู่มีกินไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับครอบครัวของตน วันนี้มาตามหาน้องไปหาที่โรงพยาบาลตำรวจก็ไม่พบ ซึ่งตอนทราบว่าเกิดเหตุไฟไหม้ ไม่คิดว่าเกิดที่อาคารที่น้องทำงาน แต่พอทราบจากข่าวว่าน้องเสียชีวิตแล้ว ก็รีบเดินทางมา
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ครอบครัวทราบเรื่องแล้วทุกคนเสียใจมาก ตนเองก็ไม่รู้หลังจากนี้จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอะไรบ้าง ไม่รู้สิทธิของตัวเองเลย จึงอยากฝากแรงงานทุกคนที่ทำงานขอให้ดูแลตัวเองด้วย
Advertisement