โจ๋ละอ่อนยิงตร.ตาย ภาพมัดยัดกระสุนสังหารตกดึกร้องไห้ เมียดาบหวังเป็นบทเรียน (คลิป)

วันที่ 14 มิ.ย.65 เวลา 01.30 น. พ.ต.ท.ภาดร บัวเพ็ง สารวัตรสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิตภายในซอยเอราวัณ 12 ม.13 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อ ดาบตำรวจอนันต์ อ้อสุวรรณ อายุ 48 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.คลองหลวง สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด แต่งกายในชุดตำรวจ

จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณท้ายทอยทะลุหน้าผาก ภายในซอยยังมีเศษระเบิดปิงปองตกกระจายอยู่เต็มซอย ห่างไปฝั่งข้ามคลอง พบปลอกกระสุนปืนขนาด .380 ตกอยู่จำนวน 2 ปลอก จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ภายในซอยเอราวัณ 12 ม.13 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 1 ได้เข้ามาเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติมภายในซอย ใช้เครื่องสแกนโลหะเดินหาวัตถุปลอกกระสุนปืนและโลหะจากระเบิดปิงปอง

โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจพบปลอกกระสุนปืน .38 ที่ตกอยู่ภายในซอย และบริเวณถนนหลักทางเข้าซอย จำนวน 8 ปลอก

นอกจากกล้องวงจรปิดที่หน้าปากซอยที่จะเห็นกลุ่มรุ่นขี่รถเข้ามาก่อเหตุยิงดาบตำรวจอนันต์จนเสียชีวิต ยังมีภาพวงจรปิดที่จะได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นสลับกับเสียงปืน เป็นระยะ จำนวน 7 ครั้ง ซึ่งเหตุการณ์นี้ เป็นเหตุการณ์ที่กลุ่มเด็กพยอมบุกมาทะเลาะกับกลุ่มเด็กในซอยเอราวัณ 12

ซึ่งวันนี้ ทีมข่าวยังไปได้กล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่กลุ่มวัยรุ่นซอยพยอม พากันขี่รถเข้าไปในที่เกิดเหตุ ทั้งหมด 14 คัน โดยตามรายงานของตำรวจ สืบสวนทราบมาว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุ คือกลุ่มซอยพยอม ไปกันทั้งหมด 30 คน

หลังจากนั้น พอก่อเหตุเสร็จ กลุ่มวัยรุ่นซอยพยอม ก็พากันขี่รถกันออกมาจากที่เกิดเหตุด้วยความเร็ว ผ่านหน้ากล้องวงจรปิดของชาวบ้าน ที่อยู่ห่างจากจุดที่ไปยิงดาบตำรวจอนันต์ ประมาณ 700-800 เมตร ซึ่งขากลับจะมีภาพ 2 มุมเป็น มุมตัวเดียวกันกับขาไปและมุมหน้าบ้านของชาวบ้านที่บันทึกภาพเอาไว้ได้ ที่จะเห็นกลุ่มวัยรุ่นซอยพยอมขี่รอออกมาจากจุดเกิดเหตุ ไม่ต่ำกว่า 20 คัน

นอกจากนี้ กล้องวงจรปิด นาทีที่นายกาย มือยิงตำรวจ เตรียมการนำปืนมาใส่กระสุนบริเวณหน้าร้านชำ ในซอยพยอม 8 ที่เป็นร้านค้าของทางญาติ โดยการบรรจุกระสุนทั้งหมด 5 นัด ตามคำรับสารภาพของนายกาย

ตำรวจชุดสืบสวนของจังหวัดปทุมธานีได้มีการลงพื้นที่ไปยัง ซอยพะยอม 1 และ 8 เป็นบ้านของนายเป้ อายุ 26 ปี ที่เป็นคนรับฝากปืนที่ใช้ก่อเหตุ จากนายกาย อายุ 18 ปี ซึ่งเมื่อตำรวจไปถึงก็ไปเจอกับ นายนพ (นามสมมติ) เจ้าของบ้าน ปฏิเสธกับตำรวจว่าไม่ได้ร่วมก่อเหตุ แต่รู้ว่านายเป้เอาปืนมาซุกไว้ที่บ้าน จากการตรวจค้น ตำรวจไปได้ปืนที่ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านของนายนพ เป็นปืนบาเร็ตต้า ขนาด 9 มม.

จากการสอบสวน นายกาย อายุ 18 ปี ได้รับสารภาพกับตำรวจว่าเป็นคนลั่นไกยิงดาบตำรวจอนันต์เสียชีวิต แต่ไม่ได้รับว่าตั้งใจยิงใส่ตำรวจ ตอนที่ยิงใส่ตำรวจ ลั่นไกไปทั้งหมด 1 ครั้ง เป็นกระสุนที่ออกจากลำกล้องแบบออโต้พร้อมกัน 3 นัด ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่าตั้งใจจะยิงเข้าไปในซอยจำนวน 5 นัด แต่กระสุนออกไปแค่ 3 นัด ยิงเสร็จก็เอาปืนไปฝากไว้กับพี่เขย ที่ชื่อนายเป้

โดยต่อมาตำรวจได้ไปคุมตัวนายเป้ พี่เขยของนายกายมาที่ห้องสอบสวน แต่นายเป้ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนยิง แต่ไปร่วมกับนายกาย ที่เป็นน้องเขยก่อเหตุมีเรื่องกับคู่อริ

น.ส.อร อายุ 20 ปี พี่สาวของนายกาย เป็นภรรยาของนายเป้ ยอมรับว่ารู้ว่าน้องชายออกไปมีเรื่องกับคู่อริ ซึ่งตอนไป สามีคือนายเป้ก็ออกไปกับน้อง แต่ไม่รู้ว่าตอนไปล้างแค้นคู่อริ น้องชายกับสามีไปทำอะไรบ้าง โดยเมื่อเช้านี้ก็ตกใจ ตำรวจบุกมาถึงบ้าน มาขอค้นปืนแล้วก็บอกว่าน้องชายคือนายกาย สารภาพแล้วว่าเป็นคนยิงตำรวจเสียชีวิต

ตนยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวคิดว่าน้องไม่ได้ตั้งใจยิงตำรวจ และที่ยิงปืนเข้าไปในซอย เป็นการล้างแค้นที่ 3 วันก่อน กลุ่มซอยเอราวัณเคยบุกมาทำร้ายกลุ่มของน้องชายด้วยการยิงปืนและปาระเบิดใส่บ้าน อย่างไรก็ตาม ก็อยากจะขอโทษทางครอบครัวของตำรวจที่เสียชีวิตแทนน้องด้วย ยืนยันว่าน้องไม่ได้ตั้งใจยิงตำรวจ วันนี้มารอประกันตัวน้อง ไม่รู้ว่าตำรวจจะให้ประกันตัวหรือไม่

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง ได้เตรียมแจ้งข้อหาและขออนุมัติออกหมายจับ 1.นายกาย อายุ 17 ปี มือยิง และนายบอล อายุ 18 ปี คนขับ ในข้อหา 1.ร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงาน 2.ร่วมกันพกพาอาวุธปืนติดตัวในเมือง หมู่บ้าน หรือทาง สาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต 3.ร่วมกันยิงปืนในที่สสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

โดยจากรายงานแจ้งว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง ได้พาตัวกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงมาสอบสวนที่สถานีตำรวจจำนวน 17 คน คาดว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 31 คน ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 12-18 ปี

นางสาวน้ำ อายุ 45 ปี ญาติของนายกาย มือยิง บอกว่า หลังจากเกิดเหตุยิง นายกายพร้อมเพื่อน ๆ ได้เดินทางกลับมาที่บ้านพัก ซึ่งได้พูดคุยกันในกลับว่าเกิดการยิง แต่ไม่รู้ว่ากระสุนถูกใคร จนกระทั่งในคืนนั้นทางครอบครัวทราบข่าวว่าดาบตำรวจถูกยิงเสียชีวิต ตนและนายกายก็รับรู้ในทันทีว่าเป็นฝีมือของนายกาย ทำให้นายกายนอนร้องไห้ทั้งคืน พร้อมบ่นว่าไม่รู้ว่ายิงถูกดาบตำรวจ เพราะเป็นการยิงมั่วและที่เกิดเหตุค่อนข้างมืด

ครอบครัวเตรียมที่จะพานายกายเข้ามอบตัวที่ สภ.คลองหลวง ซึ่งคิดว่าจะพาเข้ามอบตัวในเช้าวันนี้ แต่ตำรวจเดินทางไปที่บ้านก่อน การวิวาทระหว่างนายกายกับกลุ่มอริเกิดขึ้นมาตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 10 มิ.ย. แล้วมีการแก้แค้นกันไปกันมา

สำหรับนายกายเพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กำลังจะหางานที่ดีทำ และเรียนต่อในปีหน้า ขณะนี้นายกายหลาบจำกับเหตุที่ก่อขึ้นแล้ว ขอยืนยันว่านายกายไม่ได้ตั้งใจ ตนอยากจะขอโทษครอบครัวของดาบตำรวจ นายกายรู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่ยิงตำรวจตาย

นางสาวนาว อายุ 35 ปี แม่ของนายบอล คนขับรถ บอกกับทีมข่าวว่า ตนไม่ทราบเหตุกระทั่งช่วงบ่ายวันนี้ เนื่องจากปกติแล้วแม่ของตน หรือยายของนายบอลเป็นผู้เลี้ยงนายบอลมาตั้งแต่เกิด ตนไม่ค่อยถูกกับลูกชาย เพราะตนเป็นคนขี้บ่น ทำให้ลูกชายไม่ค่อยชอยตน โดยขณะนี้ตนเชื่อว่าลูกชายสำนึกผิด เพราะลูกชายร้องไห้กับยายตลอดคืนหลังจากทราบข่าวว่าดาบตำรวจเสียชีวิต

สำหรับข้อหาร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงาน ตนคิดว่าแรงเกินไป แต่หากศาลพิจารณาแล้วเห็นสมควรที่จะแจ้งข้อหานี้ ตนก็ต้องยอมรับ ตนอยากจะบอกลูกชายว่าอยากเริ่มต้นความสัมพันธ์แม่ลูกกันใหม่ แล้วตนจะไม่ทอดทิ้งลูกชาย

ทีมข่าวเดินทางไปงานศพของดาบตำรวจอนันต์ อ้อสุวรรณ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.คลองหลวง อายุ 48 ปี ผู้เสียชีวิตที่วัดโดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ทันทีที่นำศพมาที่วัด นางสุภาพร ทรัพย์สนอง อายุ 44 ปี ภรรยาได้จุดธูปเชิญวิญญาณ และเดินนำก่อนที่พระสงฆ์เดินถือสายสิญจน์นำศพขึ้นมาวางไว้บนศาลา มีธงชาติคลุมศพ

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เดินทางมาร่วมงาน หลังจากนั้นเป็นพิธีรดน้ำศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง ทยอยกันเข้ามารดน้ำศพ ตามด้วยภรรยา และลูกสาวของผู้เสียชีวิต ที่ร้องไห้ด้วยความเสียใจตลอดเวลา

นางสุภาพร ทรัพย์สนอง ภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดใจด้วยเสียงสะอื้นว่า ตนขาดผู้นำครอบครัว ขาดเสาหลัก ถ้าเลือกได้และปาฏิหารย์มีจริง อยากขอชีวิตสามีคืน เตือนตลอดเรื่องการระงับเหตุให้ระวังตัว แต่การปฏิบัติหน้าที่เป็นคนของประชาชนมันก็เลือกไม่ได้ ก่อนเกิดเหตุสามีแวะเอาขนมมาให้ลูก จนกระทั่งมีเหตุแจ้งมา สามีจึงออกไปตรวจจุดเกิดเหตุ ทางด้านลูกสาวก็ร้องไห้เสียใจบอกว่าอยากได้พ่อคืน และเคยบอกว่าโตขึ้นอยากรับราชการเป็นตำรวจเหมือนพ่อ

อยากฝากถึงคนที่ก่อเหตุ เรื่องสถาบันครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ ให้หันกลับมาดูลูกหลานจะได้ไม่สร้างปัญหากับสังคม การเกิดเหตุแบบนี้อย่าไปโทษเจ้าหน้าที่หรือไปโทษใคร ครอบครัวต้องดูแลไม่ใช่ปล่อยให้วัยรุ่นยิงกัน ทะเลาะกันทุกวัน วัยรุ่นเป็นวัยคะนอง ตนเองก็เคยเตือนสามีว่าให้ระวัง เพราะวัยรุ่นโดนจับก็เข้าศาลเยาวชน พ้นโทษก็กลับออกมาอีก คอยให้กำลังใจสามีให้อดทน พ่อแม่ชอบโทษว่าเพื่อนชวน ชักจูงลูกไปทำไม่ดี แต่ไม่หันกลับมาดูตัวเองบ้างว่า ดูแลเอาใจใส่ลูกดีพอแล้วหรือยัง ตนเองภูมิใจที่สามีทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว อยากให้สามีหลับให้สบาย ไปสู่ภพภูมิที่ดี เขาทำหน้าที่ได้สมศักดิ์ศรีแล้ว

ทั้งนี้ ก่อนตายสามีแวะเอาขนมมาให้ลูก ยังคุยแหย่ลูกสาวตนเองมารู้ข่าวตอนที่โทรหาสามี มีคนรับสายแล้วบอกว่าขอแสดงความเสียใจด้วย ความรู้สึกตอนนั้นน้ำตาตกใน เสียใจมากไป อยากให้สามีไม่ต้องห่วงลูก ให้วิญญานไปสู่สุคติ ตนเองจะดูแลลูกเอง