จากกรณีเกิดเหตุคนถูกรถชนเสียชีวิต ในซอยเอกชัย 131 ถนนบางบอน 5 เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้เสียชีวิตคือ นายหนุนทรัพย์ จันทร์เทศ อายุ 36 ปี ชาว จ.สุรินทร์ อาชีพขายลูกชิ้นทอด
ตรวจสอบพบว่าสภาพนอนหงายจมกองเลือด ไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้นสีขาว มีแผลฉกรรจ์ที่ใบหน้าซีกซ้ายยุบ และแผลลึกที่ข้อมือข้างขวา นอกจากนี้มีเยาวชนชายอายุ 14 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บข้อมือซ้ายหัก
ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจน ขณะรถกระบะกำลังเลี้ยวขวาออกจากซอย ผู้เสียชีวิตตกจากรถกระบะ ลงไปนอนกลางสามแยก จากนั้นมีรถเก๋งขับมาอย่างเร็ว เหยียบและลากร่างของนายหนุนทรัพย์ไปไกล ประมาณ 50 เมตร
จากนั้นก็มีรถเก๋งอีกคันขับมาอย่างเร็ว เหยียบเข้าที่ร่างของนายหนุนทรัพย์ซ้ำอีก 1 ครั้ง หลังจากนั้น ลูกชายผู้ตายวิ่งลงมาดูสภาพศพของพ่อ แล้ววิ่งวนไปวนมา คล้ายช็อก และพยายามโอบกอดศพพ่อ
แม่ผู้ตาย กล่าวว่า นายหนุนทรัพย์ ผู้ตาย ซึ่งเป็นลูกชายคน 3 ตนมีลูกทั้งหมด 4 คน ลูกชายย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ประมาณ 15 ปี แล้ว โดยปกติจะกลับไปหาแม่ที่บ้านเกิดทุกเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ ล่าสุด กลับไปงานบวชน้องเขยไม่ถึงเดือน ตนรู้สึกเสียใจ ตนยังไม่รู้ว่าลูกชายเสียชีวิต พอรู้ก็เป็นลม มีลูกหลานช่วยกันประคอง
ตนอยากให้คนที่หนีคนที่ชนมารับผิดชอบหน่อย "ไม่ต้องหนี มารับผิดชอบให้คนตายหน่อย มาพูดกันดี ๆ ก็ได้ ลูกชายมีลูกอีก 2 คนที่ไม่ใครเลี้ยงให้"
นายจตุรงค์ จันทร์เทศ คนขับรถกระบะ น้องชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า พี่ชายโดยกระจกบาดมีแผลลึกเห็นกระดูก ตนเองจึงรีบพาขึ้นรถจะไปส่งที่โรงพยาบาลบางขุนเทียน 5 โดยพี่ชายได้นั่งท้ายรถกระบะกับลูกชายอายุ 14 ปี เวลา 19.00 น. กว่า ๆ พอขับรถตีโค้งจะออกจากซอยเลี้ยวขวา ออกไปยังถนนบางบอน 5 ก็ได้ยินเสียงกระทืบเท้า
พอหันไปดูก็พบว่าพี่ชายตกจากท้ายรถไปยังกลางถนน ตนรีบเบรกทันที แล้ววิ่งลงจากรถยังไม่ทันช่วยพี่ ก็เห็นรถเก๋ง 2 คัน ขับด้วยความเร็วเหยียบร่างพี่ชาย คันแรกลากร่างไปไกลเกือบ 50 เมตร พอคันที่สองขับมาก็เหยียบพี่ชายซ้ำอีก ตนและหลานชายรีบวิ่งไปหาร่างพี่ชาย ตอนนั้นเขาแน่นิ่งไปแล้ว ตนไปกอดพี่ชาย เอาแต่ร่ำไห้ ยกมือไหว้ขอให้คนช่วย ส่วนหลานชายเห็นตำตาว่าพ่อเขาถูกรถชน เขาวิ่งพล่านขาดสติ ร้องระงม จนข้อมือหลานชายหัก หลานชายเองยังไม่รู้ว่าสาเหตุอะไร เพราะเขาขาดสติมาก
นอกจากนี้ ตอนที่ตนเลี้ยวขวาออกมาก็ไม่ได้ขับเร็วหรือกระชาก ถามหลานชายว่าพี่ชายตกรถได้อย่างไร หลานบอกว่าพ่อใช้มือกดแผล ไม่ได้จับกระบะ จึงเสียหลักพลัดตนรถขณะรถเลี้ยว แต่ตอนที่เกิดเหตุไฟยังเหลืองยังกระพริบ ๆ อยู่เลย ทำไมรถเก๋งไม่ชะลอเลย ขับเหยียบพี่ชายตน แล้ก็วไม่มีใครจอดดูเลย ตอนนั้นตนนั่งกอดศพพี่ชายทั้งน้ำตา ตอนนี้ก็ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นางรุ่งเรือง ทราจารวัตร ภรรยาของผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนทำใจไม่ได้เลยสักนิดเดียว นั่งร้องไห้ข้างศพมาตลอดทางที่ไปรับศพ ไม่อยากจะเชื่อว่าสามีจะเสียชีวิตแล้วจริง ๆ สิ่งที่อยากจะบอกอยากให้รถเก๋งทั้ง 2 คันที่เหยียบสามีตนจนเสียชีวิต ออกมาช่วยรับผิดชอบ เพราะหากรถเก๋งไม่เหยียบ สามีก็เชื่อว่าสามีตนก็อาจยังมีชีวิตอยู่
สามีถือเป็นเสาหลักของบ้านขายลูกชิ้น และส้มตำ เลี้ยงลูก 2 คน ครอบครัวเราหาเช้ากินค่ำ วันนี้ขาดสามีไปแล้ว ตนก็ต้องสู้ชีวิตต่อไป ต้องเลี้ยงลูกชายทั้ง 2 คนให้ได้ หลังจากเสร็จพิธีศพสามีก็จะกลับมาขายลูกชิ้นและขายส้มตำต่อ ก่อนหน้านี้ฝันว่าพี่ชายตนเองขับรถชนตาย และเล่าให้สามีฟังก็กลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับพี่ชาย สามีจึงบอกว่าอยากจะไปทำบุญ แต่ตนบอกไม่ไปจะพาลูกไปซื้ออุปกรณ์การเรียนแทน สุดท้ายสามีไม่ได้ไปทำบุญก่อนตาย แต่ก็ไม่คิดว่าเรื่องร้าย ๆ จะมาเกิดกับสามีตน
Advertisement