กรณี พ.ต.ต.สมบัติ มุสิกิม หน.สภ.โคกชะงาย นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สถานีตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ชุดสืบสวนสอบสวนพร้อมด้วย ร.ต.อ.จิรเชษฐ์เสริมแก้ว บุกเข้าช่วยเหลือ นายดุสิต ขิตนาคินทร์ หรือ เอ็ม และนายศักดา เกื้อเส้ง หรือ เจ อายุ 25 ปี ที่บ้านใน ม.7 ต.โคกชะงาย อ.เมืองพัทลุง บ้านของนายอภิรัตน์ ซังทราสิต หรือ ติ๊ก จนสามารถช่วยเหลือเหยื่อทั้ง 2 คนออกมาได้ หลังนางกนกรัตน์ ภรรยาของนายเอ็ม โทร.แจ้งขอความช่วยเหลือ เนื่องจากนายติ๊กเรียกเงินจำนวน 11,000 บาทนั้น
วันที่ 6 พ.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายัง สภ.โคกชะงาย จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบปากคำผู้ก่อเหตุ และเหยื่อทั้ง 2 คนนั้น นายดุสิต ขิตนาคินทร์ หรือ เอ็ม เล่าว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 18.00 น. นายอภิรัตน์ หรือ ติ๊ก ผู้ก่อเหตุ ได้ขับรถเก๋งมาหาตัวเองที่วัดแห่งหนึ่ง
ตอนนั้นตัวเองทำธุระกับรุ่นน้องอยู่ จากนั้นนายอภิรัตน์ก็บอกกับตัวเองว่าขอเคลียร์ค่าหนี้ยาเสพติด ให้ตัวเองขึ้นรถเพื่อไปที่บ้านของเขา แล้วให้น้องชายของตัวเองที่ยืนอยู่ที่วัดด้วยกันให้ไปเตรียมเงินมาให้เขาที่บ้าน เป็นเงินจำนวน 11,000 บาท ที่ตัวเองติดค่ายาเสพติดกับนายอภิรัตน์
พอมาถึงที่บ้านนายอภิรัตน์ได้ถามตัวเองว่า ที่ผ่านมาทำไมตัวเองไม่รับโทรศัพท์เขา ตัวเองจึงบอกว่า ตัวเองกลัวนายอภิรัตน์เพราะเวลานายอภิรัตน์เขาโทรหาตัวเองแต่ละครั้ง ชอบขู่ว่าจะเอาปืนมายิงถล่มบ้านตัวเอง อีกทั้งยังขู่ว่าจะมาอุ้มภรรยาตัวเองไปขาย ทำให้ตัวเองไม่กล้ารับสาย จากนั้น นายอภิรัตน์ก็เอาตัวเองไปขังไว้ในห้องครัวของบ้าน ประมาณ 20 นาที แล้วนายอภิรัตน์ ได้ให้ตัวเองโทรหานายศักดา หรือ เจ ซึ่งเป็นลูกน้องของตัวเองให้ขับรถมารับตัวเองที่บ้านของเขา
กระทั่งนายศักดามาถึง นายอภิรัตน์เขาก็ไม่ยอมปล่อยตัวเองไป เพราะยังไม่มีเงินให้เขา ซ้ำยังจับนายศักดามาขังไว้ในห้องครัวพร้อมกับตัวเองอีกด้วย จากนั้นตัวเอง นายศักดา และนายอภิรัตน์ ผู้ก่อเหตุ ได้อยู่ในห้องครัว 3 คน แล้วนายอภิรัตน์ก็ล็อกประตูห้องครัวไว้เพื่อกันพวกตัวเองหลบหนี พร้อมกับขู่ตัวเองว่าถ้าหาเงินจำนวน 11,000 บาทมาให้เขาไม่ได้นั้น เขาจะให้ลูกปืนแทน ระหว่างที่พูดคุยกันนั้น นายอภิรัตน์เขาก็ยังวางอาวุธปืน SK33 ไว้ที่ข้างลำตัวเขาอีกด้วย
กระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น. นายศักดาได้แอบโทรหาภรรยาของตัวเองให้มาช่วย ภรรยาตัวเองได้โทรหากำนันในชุมชน และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมายังบ้านหลังเกิดเหตุ จนพวกตัวเองได้ออกมาอย่างปลอดภัย ตัวเองก็อยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ทั้งนี้ ตอนที่ถูกนายอภิรัตน์ขังในบ้าน เขาไม่ได้ทำร้ายตัวเองแต่อย่างใด ตอนกลางคืนได้กินข้าวมื้อเดียว กินข้าวกับแกงส้มปลาช่อน ที่นายอภิรัตน์เตรียมเอาไว้ให้
นายอภิรัตน์ ซังทราสิต หรือ ติ๊ก ผู้ก่อเหตุ และเป็นเจ้าของบ้าน กล่าวว่า ตัวเองขอยืนยันว่าตัวเองไม่ได้กักขังนายดุสิต และนายศักดา แต่อย่างใด ยืนยันว่าทั้ง 2 คนเต็มใจมาที่บ้านตัวเอง ตัวเองไม่ได้บังคับพวกเขา แล้วตัวเองก็พูดคุยกับนายดุสิต หรือ เอ็มดี ว่าเขาติดค่ายาเสพติดตัวเองจำนวน 11,000 บาท ให้เขาไปคุยกับตัวเองที่บ้าน แล้วให้เขาบอกญาติพี่น้องให้เอาเงินมาให้ตัวเองด้วย
ส่วนเรื่องอาวุธปืนที่ตำรวจยึดได้ที่บ้านตัวเองนั้น ก็เป็นปืนของนายดุสิตที่นำมาฝากไว้ เนื่องจากนายเอ็มทะเลาะกับลูกเลี้ยง และใช้อาวุธปืนดังกล่าวตีหัวลูกเลี้ยง หลังจากนั้นก็อามาฝากตัวเอง ตัวเองจึงนำไปเก็บไว้ในช่องหัวเตียงเก่า เพราะกลัวความผิด
ด้านนายศักดา เกื้อเส้ง หรือ เจ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. นายดุสิตได้โทรมาบอกมห้ตัวเองไปรับเขาที่บ้านของนายอภิรัตน์ หรือ ติ๊ก กระทั่งตัวเองไปถึงนายอภิรัตน์ก็ล็อกตัวเองเอาไว้ ไม่ให้ตัวเองกลับบ้าน ถ้าตัวเองอยากกลับบ้าน ต้องมีเงินจำนวน 11,000 บาทมาให้เขา จากนั้นนายอภิรัตน์เขาก็พาตัวเองไปนั้งอยู่ในห้องครัวพร้อมกับนายอภิรัตน์ มีข่มขู่ว่าถ้าพวกตัวเองหลบหนีออกจากบ้าน เขาจะเอาปืนยิงพวกตัวเอง โดยอาวุธปืนดังกล่าว เขาก็วางไว้ข้างตัวเขาตลอดเวลา
สำหรับความคืบหน้าทางคดีเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวกับนายติ๊ก และข้อหาครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
Advertisement