บุกจับคาเตียง โจ๋ยิงอริตายคา รพ. อ้างยัวะเห็นกอดกับแฟน ลั่นไกเสร็จกราบยายลาไปคุก (คลิป)

วันที่ 9 เม.ย. 65 เมื่อช่วงตี 01.20 น. ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ปากคาด จ.บึงกาฬ รับแจ้งเหตุ มีคนร้ายบุกเข้าไปยิงคู่อริถึงห้องฉุกเฉิน ภายในโรงพยาบาลปากคาด ทำให้มีคนเสียชีวิตภายในที่เกิดเหตุ 1 ราย ทราบชื่อนายสุริชัย สุนันทนาม อายุ 21 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 4 นัด (อกขวา 2 นัด คิ้วซ้าย 1 นัด หัวไหล่ซ้าย 1 นัด) เสียชีวิตคาที่ภายในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล ต่อมาทราบชื่อคนร้าย คือ นายบุญญฤทธิ์ พลขันธ์ หรือ บิว อายุ 21 ปี ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ผู้ตายและผู้ก่อเหตุได้ทะเลาะมีปากเสียง และยกพวกตีกันภายในร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ในตัวอำเภอปากคาด เนื่องจากนายสุริชัย ผู้ตาย ได้เข้าไปพูดคุย และกอดคออดีตแฟนสาว ซึ่งเดินทางมากับนายบุญญฤทธิ์ แฟนหนุ่มคนปัจจุบัน จากนั้นเกิดทะเลาะมีปากเสียงกันขึ้น ยกพวกตีกันภายในร้าน มีการไล่ตีและปาขวดใส่กันอย่างชุนมุน

จนสุดท้ายนายสุริชัยได้ถูกกลุ่มนายบุญญฤทธิ์ทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่งโรงพยาบาล แต่ฝั่งนายบุญญฤทธิ์ไม่ยอมจบ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกับเพื่อนอีก 1 คน เข้าไปจอดอยู่ด้านหน้าโรงพยาบาลปากคาด

วงจรปิดด้านหน้าห้องฉุกเฉิน รพ.ปากคาด บันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ ช่วงเวลา 01.20 น. จะเห็นว่านายบุญญฤทธิ์สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ ใส่รองเท้าแตะ เดินเข้ามาหน้าห้องฉุกเฉิน ซึ่งนายสุริชัยกำลังนอนอยู่บนเตียงคนไข้ พยาบาลกำลังตรวจอาการเบื้องต้นอยู่ จากนั้นนายบุญญฤทธิ์ได้มองซ้ายมองขวา ควักปืนที่เหน็บไว้ที่เอว ชักมาจ่อยิงนายสุริชัยที่กำลังนอนอยู่ 2 ครั้ง แต่กระสุนปืนยิงไม่ออก นายบุญญฤทธิ์จึงเดินออกจากหน้าห้องฉุกเฉิน เพื่อไปเปลี่ยนแม็กกาซีน

จากนั้นไม่ถึงนาที นายบุญญฤทธิ์ได้เดินกลับมาอีกรอบ เวลานั้นพยาบาลได้เข็นคนไข้ คือนายสุริยันเข้าห้องฉุกเฉินไปแล้ว แต่นายบุญญฤทธิ์ก็ยังเดินบุกเข้าไปในห้องฉุกเฉิน และไล่ยิงนายสุริชัย 4 นัด จนล้มลงจมกองเลือด กล้องตัวที่ 2 ด้านในห้องฉุกเฉิน จับภาพได้อย่างชัดเจน และจะเห็นว่านายสุริชัยพยายามคว่ำเตียงคนไข้ หลบเพื่อกำบังกระสุน แต่ก็ถูกนายบุญญฤทธิ์ตามมาและเอาปืนจ่อยิงระยะเผาขนไม่ยั้ง จนนายสุริชัยล้มลง

จากนั้นนายบุญญฤทธิ์ได้เดินออกจากห้องฉุกเฉิน ขี่รถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไปทันที หลังเกิดเหตุ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากคาด อยู่ระหว่างเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี

เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวน จนกระทั่งทราบว่านายบุญญฤทธิ์ ผู้ก่อเหตุ ได้หลบหนีมารักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล เพื่อทำการควบคุมตัวและแสดงหมายจับแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากคาด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นางสายัญ พลขันธ์ อายุ 71 ปี ยายของนายบิว ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า นายบิวเป็นหลานชายของตนเอง พ่อกับแม่นายบิวหย่าร้างกันไปนานแล้ว ตนเองเลี้ยงนายบิวมาตั้งแต่เล็ก ก่อนเกิดเหตุ ตนเองกำลังนอนอยู่ในบ้าน นายบิวได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่บ้านและมาปลุกตนเองให้ตื่น

โดยนายบิวหลานชายมีสีหน้าตื่นกลัว ก่อนจะบอกตนเองว่า "ผมไปยิงคนตาย เขามาหาเรื่องผมก่อน" ก่อนจะก้มลงกราบเท้าตนเอง ตอนนั้นตนเองพยายามบอกให้หลานรีบติดต่อตำรวจเข้ามอบตัว และอย่าหนี แต่หลานชายไม่ฟัง และรีบขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากบ้านทันที ซึ่งหากหลานฟังอยู่ก็อยากให้หลานเข้ามอบตัวกับตำรวจ อย่าหนีไปไหนเลย เพราะยังไงก็หนีไม่พ้น

ทีม่ขาวได้คลิปวงจรปิดช่วงที่ผู้ตายและผู้ก่อเหตุได้ทะเลาะมีปากเสียงและยกพวกตีกันภายในร้านเหล้า มีการไล่ตีและปาขวดใส่กันอย่างชุนมุน จนสุดท้ายนายสุริชัยได้ถูกกลุ่มนายบุญญฤทธิ์ทำร้ายได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลไปนั้น

นางบาง สุนันทนาม 63 ปี แม่ของผู้ตาย เปิดใจว่า ลูกชายก่อนจะเกิดเหตุได้ออกไปหาเพื่อนเมื่อ 16.00 น. เมื่อวานนี้ ตนเองก็นั่งรอที่บ้าน เวลา 22.00-23.00 น. ลูกชายก็ยังไม่กลับบ้านมาสักที จึงเริ่มใจคอไม่ดี ตนเองจึงบอกให้ลูกชายตนเองช่วยออกตามหาแต่ก็ไม่พบ

กระทั่งเวลาตี 3 มาทราบข่าวอีกทีว่าลูกชายตนเองถูกยิงตายในห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาล ก็ตกใจมาก ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เพราะโรงพยาบาลถือเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย คงไม่มีใครตามมาทำร้ายลูกชายได้แล้ว แต่กลับถูกผู้ก่อเหตุ บุกเข้าไปยิงถึงที่ โดยตนเองขอให้ตำรวจเร่งจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

ส่วนเรื่องที่ลูกชายเคยมีแฟนสาว หรือเคยคบหาผู้หญิงคนไหน ตนเองไม่ทราบจริง ๆ เพราะปกติลูกชายเป็นคนไม่ค่อยพูด เงียบ ๆ อยู่แล้ว

ทีมข่าวยังได้สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยหน้าโรงพยาบาล ซึ่งได้เข้าเวรในคืนวันเกิดเหตุ เจ้าตัวเล่าว่าช่วงเกิดเหตุเวลา ตี 1 ผู้ก่อเหตุคาดว่าได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าโรงพยาบาล ก่อนจะเดินเข้าไปในโรงพยาบาลปกติ ตอนนั้นตนเองเห็นคนร้ายเพียงคนเดียว ซึ่งท่าทางปกติมาก จากนั้นผ่านไปไม่นานก็เห็นว่าพยายามชักปืนที่พกมา จ่อยิงคนไข้ที่กำลังนอนอยู่บนเตียง หน้าห้องฉุกเฉิน 2 ครั้ง แต่ปืนยิงไม่ออก ผู้ก่อเหตุจึงเดินออกมานอกโรงพยาบาล

ไม่ถึงนาทีก่อนจะวิ่งไปยิงซ้ำ ตนเองได้ยินเสียงปืน ด้วยความกลัวและต้องการนำโทรศัพท์ไปบันทึกเหตุการณ์ จึงวิ่งกลับมาที่ป้อมยาม แต่เมื่อวิ่งกลับมาคนร้ายก็ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว ไม่รู้ว่าวิ่งหนีหรือขึ้นรถไป เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าคนร้ายอุกอาจมาก เพราะถึงขั้นยิงกันตาย

ก่อนหน้านี้เมื่อตุลาคม 2562 ก็เคยมีกลุ่มวัยรุ่นยกพวกตีกันในห้องฉุกเฉินแห่งนี้มาแล้ว 1 ครั้ง ไม่คิดว่าจะมีรอบ 2 และครั้งนี้รุนแรงถึงขั้นฆ่ากันตาย

ด้านพลตำรวจโทยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดบึงกาฬ ชุดสืบสวน สภ.ปากคาด ได้ร่วมกันประชุมติดตามไล่ล่านายบุญญฤทธิ์ ผู้ก่อเหตุ โดยชุดสืบสวน ได้นำตัวพยานที่เห็นเหตุการณ์ ญาติของทั้งสองฝ่ายสอบปากคำอย่างละเอียด และรวบรวมหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวคนร้าย

เบื้องต้นตำรวจออกหมายจับ นายบุญญฤทธิ์ ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองและพกพาไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนผู้ที่พาไปยิงกับคนพาหนี ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนว่าเป็นใคร

กระทั่งล่าสุดเมื่อ 17.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 4 ได้ติดตามจับกุมตัวนายบุญญฤทธิ์ หรือ บิว ได้แล้ว โดยชุดสืบสวนได้แกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิด

ขณะเดียวกัน ระหว่างการสอบปากคำเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ตำรวจชุดสืบสวนได้ข้อมูลว่าหลังเกิดเหตุนายบิวพยายามติดต่อแฟนสาวคือนางสาวบีอยู่ตลอดจึงได้ควบคุมตัวนางสาวบี มาสอบปากคำที่ สภ. โดยทันทีที่นางสาวบีมาถึงชุดสืบสวนได้พาตัวนางสาวบีเข้าไปในห้องทันที นางสาวบี ท่าทางลุกลี้ลุกรน และพูดกับทีมข่าวเพียงแค่ว่าตนเองคือแฟนสาวนายบิว ผู้ก่อเหตุจริง ส่วนเรื่องที่ขัดแย้ง ระหว่างแฟนหนุ่มกับนายสุริชัย