วันที่ 2 เม.ย. 65 เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันภายในโรงเรียนประจำจังหวัดชลบุรี บริเวณหน้าอาคาร 8 หลังเสาธงของโรงเรียน มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย ได้แก่ นายอนุชา ธีรนรเศรษฐ์ อายุ 50 ปี ถูกยิงเข้าที่ขมับขวาทะลุขมับซ้าย ข้างตัวพบอาวุธปืนซิกซาวเออร์ สีดำขนาด 9 มม. พร้อมลูกกระสุน 1 หัว และปลอกกระสุน 4 ปลอก ตกอยู่ อีกรายคือเด็กชายองศา อายุ 13 ปี ถูกยิงบริเวณหน้าผาก 1 นัด ทะลุท้ายทอย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุคาชุดนักเรียน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 1 ราย คือ นางสาวอารีสศรา ธีรนรเศรษฐ์ อายุ 49 ปี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่แขนและลำตัวช่วงชายโครง 2 นัด อาการสาหัส หายใจรวยริน กู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์เร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลชลบุรี
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าเป็นวันมอบตัวของนักเรียนที่สอบผ่านการคัดเลือกเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ในเวลา 07.00 น. นางอารีสศราได้ขับรถยนต์ ภายในมีกระเป๋าเสื้อผ้าและเสื้อผ้าแขวนอยู่เต็มรถพาเด็กชายองศา รอมอบตัวเข้าโรงเรียนใหม่ ขณะนั้นนายอนุชาก็ขับรถยนต์ตามเข้ามาจอดข้าง ๆ แล้วเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง นายอนุชาจึงได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่เตรียมมายิงเข้าไปที่ลำตัวและแขนของภรรยา จากนั้นนายอนุชาก็ได้หันปืนมายิงลูกชายของตัวเองเข้าที่บริเวณกลางหน้าผาก สุดท้ายจึงได้ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงที่ขมับของตัวเอง เพื่อฆ่าตัวตายตาม
จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่านายอนุชามีปัญหาในครอบครัว โดยนางอารีสศราได้ขอแยกทาง อีกทั้งในวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา ฝ่ายหญิงยังได้เดินทางมาแจ้งความฝ่ายชายไว้ที่ สภ.เสม็ด ฐานทำร่างกาย ทำให้เชื่อได้ว่าสาเหตุที่พ่อเดินทางมายิงภรรยาและลูกชายนั้น น่าจะเกิดจากปัญหาครอบครัวที่สะสมมานาน
เวลา 12.00 น. ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังโรงเรียนที่เกิดเหตุ มีการนำทรายมาถมกองเลือดเรียบร้อยแล้ว นายณัฐวุธ มหากาณฑ์ ครูผู้ดูแลที่จอดรถ บอกว่า หลังเกิดเหตุตนได้เดินทางไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจแล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลาประมาณ 07.00 น. ผู้ปกครองและนักเรียนต่างเดินทางรอมอบตัวในเวลา 08.00 น.
ตนมีหน้าที่ตรวจดูแลความเรียบร้อยของสถานที่ ตนเป็นคนโบกรถให้ผู้บาดเจ็บ จากนั้นตนก็ได้เดินเข้าไปในอาคาร ตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3-4 นัดติด ขณะนั้นตนว่าเป็นเสียงประทัดไล่นก เนื่องจากปกติแล้วจะมีครูและภารโรงคอยจุดประทัดไล่นก ไม่ให้มาขับถ่ายบริเวณอาคารเป็นประจำ
จากนั้น ตนก็ได้เดินออกมานอกอาคาร เพื่อจะเดินไปตรวจความเรียบร้อยอีกอาคารหนึ่ง ตนจึงได้ทราบว่าเกิดเหตุยิงกัน เนื่องจากมีคนตะโกนบอก ตนรีบวิ่งมายังที่เกิดเหตุ พบว่าพ่อและลูกชายเสียชีวิตแล้ว ส่วนผู้เป็นแม่พยายามบอกตนว่า "ช่วยดูลูกให้หน่อย" เพราะยังไม่ทราบว่าลูกเสียชีวิตแล้ว
ส่วนงานมอบตัวเข้ารับการศึกษายังคงดำเนินต่อไปตามปกติ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ไม่กังวลกับเหตุที่เกิดขึ้น เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นค่อนข้างเช้า ทางโรงเรียนจึงทำการปิดล้อมพื้นที่ไม่ให้ใครเข้า
เด็กชายบอม (นามสมมติ) อายุ 11 ปี เพื่อนของเด็กชายองศา ผู้ตาย สะอื้นบอกว่า ตนรู้จักกับเด็กชายองศามา 5 ปี ปกติจะปั่นจักรยานเล่นกันเป็นประจำ โดยเด็กชายองศาไม่เคยเล่าอะไรเกี่ยวกับพ่อแม่ให้ฟังเลย
จากการตรวจสอบข้อมูลของสภ.เสม็ด จ.ชลบุรี ทราบว่าในวันที่ 11 มี.ค. 65 เวลา 12.38 น. นางอารีสศราได้เดินทางมาแจ้งความ เนื่องจากในเวลา 80.40 น. นางอารีสศราถูกนายอนุชาใช้มีดคัตเตอร์กรีดหน้าผาก จนเป็นแผลยาว 10 เซนติเมตร ลึก 2 เซนติเมตร ภายในบ้านพัก ซึ่งมีการระบุไว้ว่าจะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ทีมข่าวได้เดินทางมายังที่อยู่ของผู้ก่อเหตุและผู้ตาย พบว่าเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น สีน้ำเงิน ประตูปิดสนิท นางสุพร โสตถิวรรณ อายุ 66 ปี เพื่อนบ้าน บอกว่า บ้านหลังดังกล่าวผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่กับภรรยาและลูกชาย ซึ่งนางอารีสศราได้ขับรถหายออกจากบ้านไปตั้งแต่ประมาณ 2 วันก่อน ตอนแรกนั้นทุกคนรักกันดี แต่ช่วงระยะหลังที่ผ่านมา ตนมักจะได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทของสามีภรรยาอยู่เป็นประจำ แต่เวลาที่ทั้งคู่เดินออกมานอกบ้าน จะไม่แสดงอาการให้ใครเห็นว่าผิดใจกัน
ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าทั้งคู่ทะเลาะหรือผิดใจกันในเรื่องอะไร เนื่องจากผู้ก่อเหตุและภรรยาไม่ค่อยสุงสิงกับใคร มีเพียงเด็กชายองศาที่ออกมาปั่นจักรยานเล่นกับเด็ก ๆ ในพื้นที่เท่านั้น ส่วนประเด็นการทำร้ายร่างกายถึงขั้นที่ฝ่ายหญิงเดินทางไปแจ้งความนั้น ตนไม่เคยทราบ และไม่เคยสังเกตเห็นบาดแผลของฝ่ายหญิง เพราะกิจวัตรของสามีภรรยาคู่นี้คือไม่ออกจากบ้าน หากออกจากบ้านก็ขึ้นรถไปในทันที ตนเสียดายชีวิตของเด็กชายองศา เพราะทั้งเรียนเก่ง ฉลาด และหน้าตาดี ไม่น่าต้องมาเสียชีวิตแบบนี้
ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจเฟซบุ๊กของน้ององศา ในวันที่ 26 ต.ค. 64 น้ององศาได้โพสต์ผลสอบคณิตศาสตร์ระดับจังหวัดชลบุรี ซึ่งผลคือน้ององศาสอบได้ที่ 1 ของจังหวัดชลบุรี ที่ 6 ของภาคตะวันออก และที่ 85 ของประเทศ
โพสต์ผลการแข่งขันคิดเลขเร็ว ระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน น้ององศาได้เหรียญทองในการแข่งขัน
ด้านเฟซบุ๊กของนางอารีสศรา แม่ของน้ององศา โพสต์รูปน้ององศาพร้อมผลกิจกรรมการแข่งขันทางวิชาการ ระดับเขตพื้นที่การศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยน้ององศาได้คะแนน 89 จาก 100 คะแนน ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1
มีโพสต์รูปเกียรติบัตรของน้ององศา ซึ่งระบุว่าน้ององศาสอบได้คะแนนรวมสูงสุดอันดับ 1 ในภาคตะวันออก ของระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีรูปน้ององศากับกลุ่มเพื่อนในวันแข่งกีฬาสี ซึ่งน้ององศาได้เหรียญทอง อีกทั้งมีโพสต์ผลการแข่งขันคณิตคิดเร็วของน้ององศา ซึ่งขณะนั้นเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยแข่งขับได้อันดับ 2
Advertisement