กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “You Yu” ซึ่งเป็นลูกสาวของลุงวัย 58 ปี ลงภาพและคลิป พร้อมเล่าเรื่องราว ระบุว่า “ช่วยแชร์ให้หน่อยค่ะ ที่อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด พ่อมีอาการเหมือนมีตัวอะไรไต่อยู่ใต้ผิวหนังเวลามันไต่ก็จะรู้สึกคันและเจ็บบางครั้งมันไต่จนผิวปูดขึ้นมันไต่ตามหัวใจไปทั้งตัว พ่อเลยเอาน้ำมันมะกอกมาทาตัวแล้วมันก็ออกมาเป็นตัวสีดำแบบนี้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่หายก็จะรู้สึกมีตัวยาวๆไปอยู่ในตัวเหมือนเดิมแต่ตัวที่หลุดออกมามันจะเป็นสีดำตัวเล็กๆหลุดออกมาตามรูขุมขนไปหาหมอมาแล้วก็ยังไม่ได้มีอะไรดีขึ้นแล้วก็ไม่มียาให้กินมีใครพอจะรู้บ้างไหมว่าต้องไปรักษายังไงกินยาอะไร” นั้น
วันที่ 27 พ.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านอัคคะคำ ตำบลอัคคะคำ อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านของนายกสิน แดนดงเมือง อายุ 58 ปี มีอาการแปลกจะมีแมลงตัวเล็กคล้ายหนอน บางครั้งมีปีก โผล่ออกมาตามรูขุมขน แต่จะไม่มีชีวิต คล้ายตายแล้ว
ระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่ สังเกตว่าตามแขน ขา หลัง หัว และมือ ของนายกสิน มีแผลเป็นรู และแดงเป็นจุดตามตัว บางแผลเป็นแผลขนาดใหญ่สีดำ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าบางครั้งรู้สึกมีอาการคัน จำเป็นต้องใช้มีดกรีด เข็มแทง เพื่อแหวกดูข้างในรอยแผลเพื่อดูว่ามีไข่แมลงหรือไม่ และการที่กรีดหรือใช้เข็มแทงถือว่าเป็นการบรรเทาอาหารคันได้ในระดับหนึ่ง
นายกสิน พิสูจน์ให้ทีมข่าวดู มีการใช้น้ำมันพืช หรือความเปรี้ยวจากมะนาว มะกรูด ทาชะโลมจุดที่คัน หรือมีอะไรบางอย่างกำลังไต่หรือซอนไซ โดยนายกสินหยิบขวดน้ำมันพืชมาทาตามแขน ขา พร้อมกับนำมีดพับ 1 เล่มมาใช้สำหรับเขี่ยสิ่งปริศนาที่จะออกมา
หลังทาน้ำมันพืชทิ้งไว้ ไม่ถึง 1 นาที ปรากฏว่าจะมีเศษสีดำ ๆ เล็กเท่าหัวสิว เป็นสีดำ ค่อย ๆ โผล่ออกมาจากรูขุมขน โดนมีการกระจายออกมาทั่งแขนขา เมื่อวัตถุปริศนาโผล่ออกมา นายกสินก็จะเขี่ยเอามารวมกัน สังเกตว่าไม่มีชีวิต คล้ายหนอนที่ตายแล้ว แต่บางครั้งก็ดูคล้ายหัวสิวหัวดำ แต่มีลักษณะนิ่ม สามารถบดขยี้แหลกได้ และบางช่วงที่ทาน้ำมันพืชมีตัวปริศนาโผล่ออกมา มีปีก มีตัว มีหัวโผล่ออกมา
จากนั้น เมื่อเปลี่ยนเป็นทาด้วย น้ำมะกรูดซึ่งมีความเปรี้ยว มีการทาช้ำลงไปที่แขนขา ก็มีตัวปริศนาสีขาวโผล่มาจากผิวหนังนายกสิน แต่ก็ไม่มีชีวิตเหมือนกัน เพียงแค่ต่างกันกับสีแรกที่โผล่ออกมาด้วยน้ำมันพืชเท่านั้น แต่การทาด้วยน้ำมะกรูดไม่มีตัวลักษณะที่มีปีกออกมาแต่อย่างใด และสังเกตว่าออกมาน้อยกว่าทาด้วยน้ำมันพืช
นายกสิน บอกว่า ตนเองทรมารมากกับสิ่งที่เป็นอยู่ ไปรักษาที่โรงพยาบาลก็หาสาเหตุไม่ได้ ได้แค่ยาผิวหนัง ยาแก้อักเสบมาทาน และยาถ่ายพยาธิ ทานไปแล้วอาการก็ไม่ดีขึ้น โดยอาการนี้เริ่มเป็นตั้งแต่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา ตนเองกำลังเข้านอนจากนั้น เริ่มคันหัวเหมือนมีอะไรมาไต่ จากนั้นให้ลูกหลานและเมียดู ก็ไม่เจอสิ่งผิดปกติ มีแต่เศษดำ ๆ อยู่ที่หัวศีรษะ จึงไม่ไดเอะใจอะไร จนกระทั่งวันถัดมาเริ่มคันทั่วตัว ทั่วหน้าคล้ายมีตัวอะไรมาไต่ เหมือนหมัดเห็บ จากนั้นก็เริ่มหนักขึ้นทุกวันไปหาหมอ ก็บอกแต่ว่าเป็นเชื้อรา เอายามาทามาทานก็ไม่หาย จากนั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ มีตัวอะไรมาไต่ทั่วร่างกายเยอะมาก
ย้อนกลับไปช่วงกลางเดือน ต.ค.64 ตนเองไปกรีดยางกลางคืน ที่สวนยาง มีไฟส่องกบติดที่หัว แต่ไม่ได้มีการใส่อะไรปิดบังใบหน้า จังหวะกำลังกรีดยาง มีแมลงชนิดหนึ่งไม่รู้อะไร บินเข้าจมูก ตนเองพยายามสั่งขี้มูกออก แต่ตัวที่เข้าไปก็ไม่ออก จึงคิดว่าคงไม่มีอะไร กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ จนระยะหลังก็เริ่มมีอาการคัน และมีตัวคล้ายหนอนโผล่ที่ผิวหนัง
แพทย์หญิงเกศกมล เปลี่ยนสมัย เจ้าของเกศกมลคลินิก คลินิกความงามและโรคผิวหนัง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เผยว่า กรณีที่คุณลุงรายหนึ่งมีแมลงออกมาจากลำผิวหนัง จนทำให้รู้สึกเจ็บปวดนั้น ในมุมของการแพทย์จะมีโรคที่เกิดจากพยาธิ หรือหนอนชอนไชผิวหนัง อยู่ 3 ชนิด คือ โรคพยาธิไชผิวหนัง ซึ่งเกิดจากการเดินด้วยเท้าเปล่า และเดินย้ำบนพื้นดิน ทราย ที่มีพยาธิอาศัยอยู่
กรณีที่สอง โรคพยาธิหอยคัน ซึ่งเกิดจากการเดินลุยน้ำ ส่งผลให้พยาธิไชเข้าไปในผิวหนัง และมีอาการผื่นคันได้ สุดท้ายหนอนไชผิวหนัง เกิดจากการที่ไม่รักษาความสะอาดทำให้แมลงวันเข้าไปฟักไข่จนเกิดเป็นตัวหนอนได้ สำหรับกรณีของคุณลุงน่าจะมีอาการเกี่ยวกับโรคหลงผิดคิดว่ามีแมลงหรือพยาธิไชผิวหนัง หรือทางการแพทย์เรียกว่า Delusions of parasiteosis ซึ่งที่จริงแล้วอาจจะเป็นแค่ผื่นคัน และสะเก็ดแผล รวมถึงแมลงที่อยู่ในบ้าน ทั้งนี้ หากยังมีอาการอยู่แนะนำให้เข้าพบจิตแพทย์ เพื่อที่จะได้รักษาอาการให้ดีขึ้น
ด้าน รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า กรณีที่ลุงอ้างว่ามีแมลงเข้าไปในโพรงจมูก เข้าไปยังระบบทางเดินอาหาร หรือภายในหลอดลม จะถูกย่อยสลายก่อน เนื่องจากร่างกายมีระบบการย่อยโดยโปรตีน หรือพวกใคอิตินหรือโพสิคาราย หรือพูดเป็นภาษาชาวบ้านคือ หากมีสิ่งชีวิตแปลกปลอมเข้าไปภายในร่างกาย สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นก็จะตาย และถูกย่อยโดยทันที
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าไปฟักไข่ในร่างกายในคน และเป็นการเติบโตจนกระทั่งมุดออกมาบริเวณผิวหนัง หรือตามร่างกายของคนได้ และถ้าหากเทียบกับลักษณะของร่างกายคน โดยเฉพาะรูขุมขน ค่อนข้างมีขนาดเล็ก เล็กกว่า 2.5 ไมครอน แต่ถ้าเทียบกับไข่ของแมลงจะมีขนาดที่ใหญ่กว่ารูขุมขน จึงไม่สามารถที่จะฟักอยู่ภายในตัวและมุดออกมาที่รูขุมขนได้
Advertisement