กรณีกลุ่มวัยรุ่น 4-5 คน ดื่มสุราก่อนก่อเหตุรุมกระทืบชายเร่ร่อน เหตุเกิดที่บริเวณถนนริมหาดเเสงจันทร์ ตำบลเนินพระ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 19 พ.ย.64 ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันที่ 22 พ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางมาที่ตำบลบางขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เเละได้พบกับนายวัชรินทร์ ขาวสุข หรือ อุ้ม อายุ 24 ปี ลูกข่ายของกู้ภัยสว่างเมตตาจังหวัดนครราชสีมา เเละมีอาชีพขับรถรับส่งคนงานที่สัตหีบ รวมถึงเป็นพลเมืองดีที่ช่วยเหลือชายเร่ร่อนคนดังกล่าว
นายวัชรินทร์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 พ.ย.64 เป็นวันลอยกระทง ตนกับเพื่อน ๆ รวม 3 คน ได้ไปนั่งเล่นที่ริมชายหาดเเสงจันทร์ที่จังหวัดระยอง เมื่อผ่านไป 2 ชั่วโมง กำลังจะกลับที่พักที่สัตหีบ ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ตนก็เห็นชายเร่ร่อน อายุประมาณ 50 ปี (เสื้อเหลือง) เดินผ่านหน้ารถตน จากนั้นก็มีชาย 1 คน รอยสักเต็มหน้า อายุประมาณ 30 ปี (เสื้อสีเทาดำ) เข้าไปกระชากคอเสื้อชายเร่ร่อนจนล้มลง ก่อนจะทำร้ายร่างกายด้วยการใช้เท้ากระทืบไปที่ใบหน้า เเละเตะซ้ำ ๆ เข้าที่ลำตัว ขณะนั้นตนอยากเข้าไปห้ามเเต่ก็ตกใจกลัว ไม่กล้าลงจากรถเหมือนกัน ก่อนที่จะมีกลุ่มวัยรุ่นพลเมืองดี 6-7 คนเข้าไปห้ามปราม ตนจึงเดินเข้าไปบอกให้หยุดเเละพอได้เเล้ว เเละกำลังจะโทรเเจ้ง 1669
จากนั้นชายเสื้อเทาดำ คนที่ทำร้ายชายเร่ร่อน จึงเดินกลับไปหาพรรคพวกอีก 4 คน เเละเดินกลับมา พร้อมกับถือขวดเบียร์มาด้วย เพื่อข่มขู่ตนและกลุ่มวัยรุ่นพลเมืองดีว่า “จะโทรหา 1669 ทำไม ไม่ต้องโทร รู้จักกูไหม รู้ไหมว่ากูเป็นใคร” เเต่ก็ไม่พูดชื่อตัวเอง ลักษณะเหมือนหัวโจก กร่างเหมือนเป็นเจ้าถิ่น ตอนนั้นตนไม่อยากมีปัญหา จึงถอยออกมาก่อที่นชายเป็นหัวโจกจะเดินไปหาเรื่องกลุ่มวัยรุ่นพลเมืองดี เเละชกคนในกลุ่มดังกล่าว 1 ครั้ง
หลังจากนั้นเรื่องราวระหว่างกลุ่มวัยรุ่น ตนก็ไม่ทราบเเล้ว เพราะตนเเละเพื่อนอาศัยจังหวะนี้เข้าไปช่วยชายเร่ร่อนขึ้นรถ เเละนำตัวไปส่งที่รถกู้ภัยเพื่อทำแผลเเละดูอาการ สภาพชายเร่ร่อนตอนนั้น คือ มีแผลเเตกที่คิ้ว เลือดออกเต็มใบหน้า ตนก็ไม่ได้ถามชื่อเขาพูดเเต่ว่า “ไม่รู้เรื่อง ๆ”
"ส่วนปมสาเหตุที่มันเกิดขึ้น ตนก็ไม่ทราบเช่นกัน เพราะตอนนั้นเป็นงานเทศกาล มีการเปิดเพลงเสียงดัง ตนก็ไม่ได้ยินว่าเขามีการพูดจาอะไรกันก่อนหรือไม่ ซึ่งที่บริเวณหาดแห่งนี้ ตนก็ไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีกลุ่มวัยรุ่นมามีเรื่องกันมากน้อยเเค่ไหน เพราะเพิ่งจะเคยมาครั้งเเรก เเละเท่าที่นั่งเล่นมา 2 ชั่วโมง ก็ไม่เห็นเหตุการณ์คนตีกันเเต่อย่างใด จนกำลังจะกลับบ้านถึงมาเจอเหตุการณ์นี้นั่นเอง" นายวัชรินทร์ กล่าว
หลังจากนั้นทีมข่าวเดินสำรวจบริเวณถนนเลียบชายหาด ในตอนกลางวันมีรถสัญจรไปมาตลอด เเต่เเม่ค้าเเละชาวประมงมีน้อยมาก ๆ เเละจากการสอบถามนักท่องเที่ยว เเม่ค้าขายของ เเละชาวประมงริมทะเล ก็ไม่พบข้อมูลของชายเร่ร่อนคนดังกล่าว ทีมข่าวได้เดินไปจนถึงศาลาคู่ริมหาด พบกับกองของเก่าจำนวนหนึ่ง มีทั้งขวดเบียร์เเละขวดแก้วต่าง ๆ มีถุงพลาสติกขนาดใหญ่กองไว้ รวมถึงมีจักรยานสีแดง 1 คัน ทีมข่าวเดินวนเเละรอนานกว่า 30 นาที เเต่ไม่พบเจ้าของ ซึ่งข้าวของจำพวกนี้คาดว่าเป็นของชายเร่ร่อน หรือคนเก็บของเก่าละเเวกใกล้เคียง
ในวันเดียวกันทีมข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองระยอง เพื่อสอบถามข้อมูลความคืบหน้าในทางคดี โดยพ.ต.ท.พิชญ์พล พิชญนราพนธ์ รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองระยอง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผกก.ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจประชุมหารือถึงเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นตอนนี้ยังไม่ทราบว่าตัวของชายเร่ร่อน รวมถึงคนก่อเหตุ เป็นใคร ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนหาตัวของผู้เสียหายมาเเจ้งความ
ทั้งนี้ หลังจากได้ตัวของผู้เสียหายเเล้ว ก็จะเรียกประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุมาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป ส่วนผู้ก่อเหตุ คาดว่าจะตามตัวได้ไม่ยาก เพราะบริเวณที่เกิดเหตุนั้น เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานเทศบาลเมืองระยอง เพื่อหาเเนวทางเเก้ไขปัญหาเบื้องต้น 1.ติดไฟส่องสว่างเพิ่มเติม และ 2.ติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม
Advertisement