กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "บิ๊กเกรียน" โพสต์คลิปนาทีชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจบุกค้นบ้านก่อนบังคับขู่เข็น และขอตรวจสอบ ภายในคลิปมีเสียงชายหนุ่มขอดูหมาย ก่อนที่ชายฉกรรจ์จะพูดว่า “จะสู้ทำไม” ชายหนุ่มจึงยืนยันว่าไม่ได้จะสู้
โดยระบุข้อความว่า "เหตุเกิดวันที่ 11 พฤศจิกายน 64 เวลาประมาณ 13.00 น. ชายอ้างตัวเป็นตำรวจแต่งกายนอกเครื่องแบบ จำนวน 6 นาย พฤติกรรมของตำรวจได้เข้ามาค้นบ้าน โดยไม่มีหมายค้นและไม่แสดงบัตรเจ้าหน้าที่ จับผู้เสียหายใส่กุญแจมือ (การตรวจค้นไม่พบยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย) นำตัวไปโรงพักและขู่ให้เป็นนกต่อ จี้หาเคสยาเสพติดให้ได้ 3 เคส ถ้าไม่สามารถหาจี้ต่องานไม่ได้ ต้องนำเงิน 100,000 บาทมา เพื่อแลกกับอิสรภาพ"
ล่าสุดวันที่ 21 พ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว หลังทราบว่าเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 65 ม.2 ต.วังทอง อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นบ้านนายประสิทธ์ ประชุมสุข พ่อของนายสุจินธรา ประชุมสุข (ต้อมหัวจ่าย) ผู้ร้องเรียน เปิดเป็นร้านขายของชำ
โดยนายต้อม ยังมีพี่ชายคนโตหรือนายเอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี และนายต่อ (สงวนชื่อ-สกุลจริง) อายุ 21 ปี ก่อหน้านี้อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน เมื่อทีมไปถึงกลับไม่พบนายต้อม พบเพียงน้องชายคนเล็ก พ่อ และนางอำนวย หมอนแพร อายุ 53 ปี แม่
นายต่อ (สงวนชื่อ-สกุลจริง) อายุ 21 ปี เปิดเผยว่า ในวันนั้นค่อนข้างตกใจ ตั้งใจจะไปขายของ แต่ตำรวจมาถึงบ้านก็ไม่ได้ไปขายของ เมื่อตำรวจเมื่อเจอพี่ชายกลับวิ่งไปรวบตัวทันที ตนจึงมองว่าไม่ใช่การมาเยี่ยม ทั้งนี้ ตนยืนยันหลังพี่ชายพ้นโทษมาก็มาขายหมึก และขายของอยู่บ้าน พี่ชายไม่มีอะไรผิดปกติ สัญญากับพ่อแม่ว่าจะเลิกทุกอย่าง แต่ตำรวจมารวบตัวพี่ชายเหมือนคนร้าย
นางอำนวย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุนายต้อมรู้สึกกลัว กังวลความไม่ปลอดภัย และห่วงพ่อกับแม่ จึงขออานุญาตจากตนไปพักอยู่บ้านแฟนสาว ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ขณะนั้นตนและลูกชายคนเล็กนั่งเสียบหมึกอยู่หน้าบ้าน ก็มีรถ 1 คัน ขับมาจอดที่หน้าบ้าน มีชาย 2 คนเดินลงมาถามลูกคนเล็ก ที่เสียบหมึกก่อนว่าชื่ออะไร ลูกก็บอกว่า ชื่อต่อ ก่อนชาย 2 คน จะทำทีเดินเข้าไปซื้อน้ำ และจ่ายเงิน
ในจังหวะที่ตำรวจเข้าไปจ่ายเงินในบ้าน นายต้อมอาบน้ำอยู่ และได้เดินมาหยิบยาสระผม เมื่อตำรวจเห็นลูกชาย ก็วิ่งไล่จับลูกตนทั้งที่ยังนุ่งผ้าเช็ดตัว ลูกตนไม่ได้หนีด้วยซ้ำ ก่อนรถกระบะอีกคันจะขับตามมา มีชายมากันอีก 4 คน ตอนนั้นตนตกใจและกลัวมาก ๆ รู้สึกงง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
"ลูกชายไปถึงโรงพักประมาณ 14.00 เพราะได้โทรศัพท์มาว่าตำรวจเรียก 100,000 บาทแลกกับการปล่อยตัว ให้หาเงินให้ ก็รีบหยิบยืมจากญาติพี่น้องบอกลูกว่าเงินได้ไม่พอ ก่อนต่อรองไปมาเหลือ 40,000 บาท แต่ตำรวจเขาไม่รับโอน ตอนนั้นลูกสะใภ้ จึงไปกดเงินไปให้ตำรวจ ยอมรับว่าลูกชายพ้นโทษยาเสพติดเมื่อเดือนกันยายน 64 ซึ่งออกได้ 2 เดือน มาอยู่บ้านก็ช่วยขายของ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเลย" ผู้เป็นแม่ กล่าว
พล.ต.ต.ณัทพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว กล่าวชี้แจงว่า ตนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทราบว่าบุคคลที่ร้องเรียนเป็นบุคคลพ้นโทษยาเสพติดเกี่ยวพันรายใหญ่สำคัญในจังหวัด เมื่อเดือนกันยายน 64 โทษ3 ปี 9 เดือน รวมที่ผ่านมาถูกจับกุมคดียาเสพติดมาแล้วรวม 3 ครั้งใหญ่ จึงเป็นไม้เบื่อไม้เมากับตำรวจ จากการตรวจสอบพบว่าวันดังกล่าวชุดสืบได้รับแจ้งจากสาย รายงานว่ามีบุคคลพ้นโทษเรื่องยาเสพนัดพบกันกับผู้ร้อง เมื่อไปตรวจสอบผู้ร้องมีการวิ่งหนี ทั้งที่ผู้ร้องเองก็รู้จักกับตำรวจชุดสืบ เพราะโดนชุดนี้จับกุมทุกครั้ง ตำรวจจึงเรียกให้ออกมา แต่พฤติการมีเหตุต้องสงสัย จึงต้องดำเนินการตามกฎหมาย จากนั้นไม่ได้มีการค้นบ้าน มีเพียงการซักถาม พร้อมเชิญตัวมาที่โรงพักเพื่อพูดคุยกัน รวมทั้งไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงปล่อยตัวไป
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เชื่อว่าบุคคลดังกล่าว ซึ่งมีเครือข่ายเกี่ยวข้องกับยาเสพติดรายใหญ่ เกิดความไม่พอใจ จึงใช้เรื่องนี้พยายามขัดขวางการทำงานของตำรวจ เพราะพวกนี้ตำรวจกำลังติดตามขยายผลเรื่องยาเสพติดอยู่ด้วย ดังนั้น เรื่องของการเรียกรับเงินยืนยันไม่มีแน่นอน โดยเฉพาะคนกลุ่มนี้ถูกจับจ้องในเรื่องยาเสพติด การเรียกเงินกับกลุ่มนี้จึงไม่มีมูลความจริง
Advertisement