กรณีหญิงสาวชาวเมียนมา อายุ 21 ปี หายตัวลึกลับไปจากหอพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังจากกลับจากทำงาน เวลาประมาณ 08.00 น. ของวันที่ 14 พ.ย.64 ที่ผ่านมา พี่สาวคาดว่าน้องอาจจะถูกลักพาตัวหรือเกิดเหตุอันตรายหรือไม่ เพราะญาติ ๆ ได้ออกตามหามานาน 3 วันแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววและข้อมูลของน้องสาว
กระทั่งในช่วงกลางดึกของวันที่ 18 พ.ย.64 เวลาประมาณ 20.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัว นายบุญหลาย บัวพันธ์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาได้ในพื้นที่ ม.12 ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โดยนายบุญหลาย ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้เข้าไปทำร้ายร่างกาย เเละหวังขืนใจ ก่อนที่นางสาวมิน มิน ข่าง จะขัดขืน จึงเตะไปที่ปากฝ่ายหญิง ก่อนจะลากไปข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ที่หลังสวนปาล์ม และกลัวว่าคนจะเห็นจึงล็อกคอฝ่ายหญิงกระโดดลงน้ำ จนนางสาวมิน มิน ข่าง จมน้ำเสียชีวิต ก่อนที่นายบุญหลาย จะนำศพไปเผาอำพรางกลางป่ายูคาลิปตัสในพื้นที่เขาไม้แก้ว
ล่าสุดวันที่ 19 พ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่บ้านของนายช้าง (นามสมมติ) อายุ 36 ปี พี่ชายของนายบุญหลาย เปิดเผยว่า นิสัยของน้องชายเป็นคนไม่พูดอยู่เเล้ว นิ่ง ๆ เงียบ ๆ ส่วนเรื่องยาเสพติดตน ยืนยันว่าน้องชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน และเรื่องที่ดื่มสุราก็ดื่มกับเพื่อนฝูงเท่านั้น ตนทราบข่าวน้องชายไปก่อเหตุจากโลกโซเชียลฯ ตอนทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตนก็ไม่ได้ไปดูเพราะไม่กล้าออกจากบ้านกลัวคนจะครหา
"ตอนนี้พ่อเเม่เเละน้องสาวยังคงอยู่ที่โรงงานเหมือนเดิม ยังไม่ได้ออกมาเลย ส่วนภรรยาของน้องชาย เมื่อคืนหลังจากตำรวจเอาตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ก็พามาส่งที่บ้าน ตอนนี้ก็ออกไปที่โรงพักอีก ผมยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือน้องชายหลบหนี 100% ตอนที่ครอบครัวเกิดปัญหา ผมไม่รู้อะไรเลย มารู้อีกทีในข่าวหรือในโซเชียลฯ ส่วนประเด็นช่วงเย็นวันที่ 14 พ.ย.64 ที่น้องชายและน้องสาว รวมถึงน้องสะใภ้มีการไปกินหมูกระทะกัน และมีการพูดคุยว่าน้องชายไปฆ่าคนตาย เรื่องนี้ผมไม่ทราบมาก่อน ขนาดเขาไปกินหมูกระทะวันเกิดสามีของน้องสาว ผมก็เพิ่งจะรู้เหมือนกัน" นายช้าง กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนยังไม่ได้ติดต่อครอบครัวว่าจะดำเนินการอย่างไร ตนคาดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนรับไม่ได้เเละทำใจไม่ได้ ตนอยากจะขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดการสูญเสีย ส่วนเรื่องของการรับผิดชอบ ตนก็ยังไม่ได้ปรึกษากับครอบครัว ส่วนทางด้านครอบครัวผู้สูญเสีย ตนก็ยังไม่รู้ว่าเขาว่าอย่างไรบ้าง ตนยืนยันว่าจะไม่มีการจ่ายเงินปิดปาก ครอบครัวของผู้เสียหายแน่นอน เนื่องจากครอบครัวของตนก็ไม่ได้มีฐานะอะไร
เวลา 15.30 น. นางสาว ยู เซน พี่สาวคนกลางของผู้เสียชีวิต พร้อมล่าม เดินทางมาที่ สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เพื่อเจอหน้าผู้ต้องหา ก่อนเจอหน้าผู้ต้องหา นางสาว ยู เซน ให้สัมภาษณ์ผ่านล่ามว่า "ถ้าวันนี้เจอหน้านายบุญหลายแล้วเขามาขอโทษ จะไม่มีทางให้อภัยนายบุญหลายอย่างแน่นอน"
เวลา 15.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพานายบุญหลาย ออกมาจากห้องสอบสวน เพื่อมาขมาพี่สาวของผู้เสียชีวิต เมื่อมาถึงบริเวณม้าหินอ่อน นายบุญหลาย ได้เผชิญหน้ากับพี่สาวผู้เสียชีวิต จากนั้นนางสาวยู เซน ถามผ่านล่ามว่า "ทำไมก่อเหตุฆ่าน้องสาวเพราะอะไร" นายบุญหลาย ตอบว่า "เหตุที่เกิดขึ้นผมไม่เคยมีปัญหาอะไรกับผู้ตาย และผมก็ได้ทำผิดพลาดไปแล้ว" พี่สาวผู้เสียชีวิตจึงถามว่า "ฆ่าคนแล้ว ทำไมต้องเผาศพเขาด้วย" นายบุญหลาย ตอบว่า "ที่ผมต้องเผา เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร แค่อยากจะทำลายศพเพื่อปกปิดคดี ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่วันนี้ผมอยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต" พี่สาวของผู้เสียชีวิต ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า จะไม่ให้อภัยผู้ก่อเหตุอย่างเด็ดขาด
จากนั้น นายบุญหลาย ได้ยกมือไหว้พี่สาวผู้เสียชีวิต พร้อมบอกว่า "ผมขอโทษที่ได้ล่วงเกินไป และขอโทษที่ทำให้น้องสาวเสียชีวิต ขออโหสิกรรมให้ด้วยครับ" หลังได้พูดคุยกับผู้ต้องหา นางสาว ยู เซน ก็ได้แต่นั่งร้องไห้
เวลา 19.57 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน คุมตัวนายบุญหลาย มาให้พนักงานสอบสวนเพื่อส่งตัวเข้าห้องคุมขัง โดยระหว่างที่ผู้ต้องหาเดินมากับเจ้าหน้าที่ ทีมข่าวได้สอบถามผู้ต้องหาว่า "ในวันนี้หลังจากได้เจอญาติคนตาย แล้วขอโทษญาติคนตาย รู้สึกสบายใจขึ้นไหม" ผู้ต้องหาไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด ได้แต่พยักหน้าตอบรับว่า "ใช่"
ทีมข่าวจึงถามนายบุญหลาย ต่ออีกว่าอยากบอกสังคมว่าอย่างไรบ้าง นายบุญหลาย ตอบกลับว่า "อย่าเป็นคนใจร้อน" ทีมข่าวจึงถามผู้ต้องหาอีกว่าแสดงว่าขณะก่อเหตใจร้อนใช่หรือไม่ ผู้ต้องหาก็พยักหน้าตอบรับว่า "ใช่"
Advertisement