สาวลาวป่วยแปลก ชักปากสั่นบอกหนูไร้หัวใจ ผัวหมดเป็นหมื่นเชื่อคำพระไล่ผี (คลิป)
จากคลิปวิดีหลายคลิปที่มีผู้หญิงนั่งอยู่บนเก้าอี้สนาม มีอาการสั่นคล้ายอาการคนกำลังชักกระตุก ปากสั่น ฟันล่างกระทบฟันบน มีผู้ชายคอยห้ามไม่ให้ผู้หญิงคนดังกล่าวกัดลิ้น ระบุว่ามีอาการมาเเล้ว 3-4 วัน ตั้งเเต่วันที่ 1 ต.ค. 64 คุยกันรู้เรื่องหรือไม่ ก่อนที่ผู้ชายในคลิปบอกว่าจะพาไปหาหมอปลา เเต่เนื่องจากติดวันพระ หมอปลาไม่สามารถทำพิธีให้ได้ เลยจะพาไปหาหลวงพ่อก่อนนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุดวันที่ 7 ต.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่ เเขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร พบตึก 2 ชั้น สีฟ้าอ่อน ไม่มีศาลพระภูมิ ส่วนภายในตึกจะเเบ่งเป็นห้องเช่าเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 3x4 เมตร ห้องของนางสาวสวน เเละสามี อยู่ห้องที่ 3 ทางขวามือ สภาพห้องพัก ไม่มีเตียงนอน มีเพียงฟูกขนาด 5 นิ้ว โดยมีนางสาวทองคูณ เพื่อนร่วมงานที่เอ็นดูเหมือนหลานคอยนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง ข้างกันก็มีนายอิดอยู่ด้วยเช่นกัน
นางสาวสวน อายุ 23 ปี สาวชาวลาว ที่มีอาการ บอกเสียงสั่น ๆ ว่า ตนพูดไม่ค่อยได้ จำอะไรไม่ค่อยได้ ตนชื่อสวน อายุ 23 ปี จำไม่ได้ไหมว่าตัวเองเริ่มป่วยวันไหน เเต่จำได้ว่าก่อนที่จะสลบไป พูดว่า "หนูไม่มีหัวใจ ๆ เเล้วก็จำแฟนจำลูกไม่ได้" ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องพูดเช่นนั้น แต่ตอนนั้นเจ็บหน้าอก เเละรู้สึกเหมือนไม่มีหัวใจ ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกเเล้ว หลังจากนั้นก็สลบเเละเป็นลมไป ตอนนั้นลืมตาขึ้นมาก็เจอนายอิด สามี เจอนายจ้าง เเละคนในตลาดคอยช่วย
ตอนนี้ขยับตัวได้บ้าง เเต่ว่ามีอาการเจ็บหน้าอก ชา ๆ บริเวณตรงกลางอก ได้ทานยาเเล้ว เเต่ยาอะไรก็ไม่ทราบ รู้ว่าตัวเองป่วย เเต่สักพักก็ลืม ไม่มีอาการอื่นนอกจากปากสั่นกับเเน่นหน้าอก อาการปากสั่นนี้ มีสามีคอยช่วยจับไว้ไม่ให้กัดลิ้นตัวเอง ส่วนพ่อเเม่ของตนอยู่ที่ประเทศลาว เลี้ยงลูกให้ ยังจำได้ว่ามีลูก 2 คน เป็นเด็กผู้ชาย "หนูจำอะไรไม่ได้ หนูทำอะไรไม่ได้เลย หนูอยากกลับบ้าน หนูไม่อยากไปโรงพยาบาลนะ หนูไม่มีเงิน"
นายอิด ชาวลาว อายุ 29 ปี สามีของนางสาวสวน เปิดเผยว่า ปกติภรรยาเป็นคนชอบทำบุญ ชอบชวนตนเองไปใส่บาตร เเต่ตนมักจะขัดใจว่า ช่วงนี้โควิด-19 ระบาดหนัก ไม่ควรไป ก่อนหน้าตนเเละภรรยาอยู่ที่ตึกแห่งนี้ เเต่ว่าอยู่ที่ห้องที่ 1 เเละห้องที่ 2 หลังจากที่ภรรยาไปคลอดลูกคนที่ 2 ที่ประเทศลาว เมื่อปี 2562 เเละเลี้ยงลูกคนเล็กจนอายุได้ 2 ปี ที่ต้องส่งภรรยาไปคลอดลูกที่ประเทศลาว เป็นเพราะด้วยภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ค่อนข้างสูง
หลังจากนั้นเมื่อช่วงเดือน มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ภรรยาก็เดินทางกลับมาที่ประเทศไทย ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ได้ย้ายมาอยู่ที่ห้องที่ 3 ที่เป็นที่อยู่ปัจจุบันนี้เเล้วตั้งเเต่ช่วงต้นปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อภรรยาเดินทางมาอยู่ที่ห้องเช่าห้องที่ 3 นี้ ได้ 3 วันก็เกิดอาการปวดหัวรุนเเรง เเละดวงตามองไม่ค่อยเห็น ตนเองก็ไปหาซื้อยามาให้ทาน ตัดเเว่นมาให้ใส่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ต่อมาภรรยาก็ไปทำงานขายข้าว เเละขายลูกชิ้นได้ 3 วันก็บอกว่าไม่ไหวเเล้ว จะขอลาออกจากงานจะไปทำงานที่อื่นเเทน ทางด้านนายจ้างของภรรยาก็ขอร้องให้มาช่วยขายของให้ก่อน ภรรยาของตนเป็นคนขี้เกรงใจคนอื่นอยู่เเล้ว จึงตกลงไปช่วยขายของ ซึ่งในวันที่ 3 ตุลาคม 2564 ตนก็เป็นคนไปช่วยภรรยาขายลูกชิ้น จนช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. จัดร้านขายลูกชิ้นเสร็จ ภรรยาก็บอกว่าเเน่นหน้าอก จำอะไรไม่ได้ เเล้วก็บอกว่า "ม่มีหัวใจ ๆ เเละเริ่มจำใครไม่ได้" จากนั้นก็เป็นลมสลบไปเลย
หลังจากนั้น ตนก็พาภรรยาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เเต่อาการไม่ดีขึ้น ตนจึงพาไปหาหลวงพ่อที่วัดทุ่งลานนา ซึ่งหลวงพ่อก็บอกว่า ภรรยาของตนอาจจะไปโดนของมา จะทำพิธีอาบน้ำมนต์ให้ ซึ่งทางวัดบอกว่าให้ออกจากวัดตอนช่วงประมาณ 21.00 น. เเล้วจะหาย เเต่พอกลับมาก็ไม่หาย เเละเป็นหนักกว่าเดิม หมอก็บอกว่าไม่มีอะไร อาการปกติเเละให้ยามาทาน 1 ตัว เป็นยาช่วยลดอาการปากสั่น กินไป 3 คืนเเล้ว เเต่อาการก็เหมือนเดิม ส่วนตัวก็เชื่อว่าภรรยาอาจถูกผีเข้า เพราะตนเคยพาภรรยาไปหาหมอธรรมชื่อสร ที่อยู่ไม่ไกลจากห้องเช่าของตนมากนัก เเจ้งตนว่าถ้าให้เอาของออกทีเดียวหมด นางสาวสวนจะอาการเเย่ได้ ต้องค่อย ๆ เอาของออกทีละนิด หมอธรรมก็ได้ผูกตะกรุดให้กับภรรยาที่ข้อมือขวา ตอนนี้มีเรื่องเครียดคือเป็นหนี้สินจากการหยิบยืมเงินญาติพี่น้องอยู่ประมาณ 40,000 บาท
รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว ให้ข้อมูลเชิงการแพทย์ว่า จากลักษณะอาการหญิงสาวลาว น่าจะมีอาการทางจิตเวช ส่วนเป็นโรคใดต้องให้จิตแพทย์ ตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งดูจากยาที่ผู้ป่วยได้รับมา คือยาโคลนาซีแพม (Clonazepam) เป็นยากันชัก และรักษาโรคตื่นตระหนก และความผิดปกติของการเคลื่อนไหวที่เรียกว่าอาการนั่งไม่ติดที่
ผลข้างเคียงของยามีทั้งง่วงนอน ร่างกายทำงานไม่ประสาน และกระวนกระวาย สับสน หงุดหงิดและก้าวร้าว กระวนกระวาย บางครั้งอาจไม่กระตือรือร้น เคลื่อนไหวผิดปกติร่างกายทำงานไม่ประสานกัน เสียดุลเวียนหัว ประสาทหลอน ซึ่งพบว่าผู้ใช้ยาบางรายอาการคล้ายเมาค้าง คือง่วงนอน ปวดหัว เฉื่อยชา และหงุดหงิดเมื่อตื่นขึ้น ถ้าทานยาก่อนนอน
Advertisement
