Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เคาท์ดาวน์แบบไม่เสียขวัญ เช็กข้อควรรู้ก่อนจุดพลุคืนส่งท้ายปีให้ปลอดภัย

เคาท์ดาวน์แบบไม่เสียขวัญ เช็กข้อควรรู้ก่อนจุดพลุคืนส่งท้ายปีให้ปลอดภัย

30 ธ.ค. 68
11:44 น.
แชร์

ฉลองปีใหม่ให้สดใส ไม่ต้องจบที่โรงพยาบาล วิธีจุดพลุ-ดอกไม้ไฟให้ปลอดภัยในคืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พร้อมวิธีรับมือกับอันตรายที่ไม่คาดคิด

การฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในสังคมไทย มีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับการใช้พลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรื่นเริงและการเริ่มต้นใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลเชิงสถิติทางการแพทย์บ่งชี้ว่ากิจกรรมเหล่านี้แฝงไปด้วยอันตรายที่อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรง การสูญเสียอวัยวะ หรือแม้กระทั่งการเสียชีวิต หากขาดความเข้าใจในคุณสมบัติทางเคมีและฟิสิกส์ของวัตถุระเบิดเหล่านี้

ความรุนแรงของอุบัติเหตุจากการเล่นพลุและประทัดในช่วงเทศกาลสำคัญๆ จากสถิติที่รวบรวมโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานสากล พบว่าอุบัติเหตุจากการเล่นพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ มักพุ่งสูงขึ้นในช่วง 4 เดือนสำคัญ ได้แก่ มกราคม-เทศกาลปีใหม่ , ตุลาคม-เทศกาลออกพรรษา , พฤศจิกายน-เทศกาลลอยกระทง และ ธันวาคม-เทศกาลคริสต์มาสและเตรียมปีใหม่ ข้อมูลเชิงประจักษ์ในปี พ.ศ. 2564 มีผู้บาดเจ็บจากพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟรวมทั้งสิ้น 594 ราย โดยกลุ่มอายุที่ได้รับบาดเจ็บมากที่สุดคือ เด็กอายุ 1-14 ปี (ร้อยละ 23.4) และเยาวชนอายุ 15-29 ปี (ร้อยละ 22.7) ข้อมูลนี้สะท้อนถึงปัญหาการขาดการดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้ปกครองและความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเยาวชนในการเล่นที่ผาดโผนหรือดัดแปลงอุปกรณ์ระเบิด

ผลกระทบรอบตัวที่เกิดจากการเล่นพลุ

พลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ ผลิตขึ้นจากสารเคมี ซึ่งแต่ละชนิดมีผลกระทบต่อร่างกาย รวมถึงผลกระทบด้านอื่นๆ แตกต่างกันไป ดังนี้

โพแทสเซียมไนเตรต เป็นส่วนประกอบหลักของดินปืน ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและระบบทางเดินหายใจ หากสูดดมไอระเหยเข้าไปในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการแน่นหน้าอกและไออย่างรุนแรง

แบเรียมไนเตรต สารเคมีที่ให้สีเขียว มีความเป็นพิษสูงต่ออวัยวะภายใน การได้รับสารนี้ผ่านทางการสัมผัสหรือสูดดมอาจทำลายตับ ม้าม และส่งผลต่อระบบประสาทจนเกิดอาการอัมพาตที่แขนและขา ในบางรายอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

การจุดพลุจำนวนมากจะปลดปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) และโลหะหนักกระจายสู่ชั้นบรรยากาศ ก๊าซพิษจากการเผาไหม้ การระเบิดของพลุจะปลดปล่อยก๊าซหลายชนิด เช่น ไนโตรเจนออกไซด์ , ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ , และคาร์บอนมอนอกไซด์ เหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเซลล์ร่างกาย ทำให้เกิดภาวะขาดออกซิเจนในระดับเซลล์ และระคายเคืองต่อเยื่อบุทางเดินหายใจ ก่อให้เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจของประชาชนในวงกว้าง

อันตรายจากพลังงานเสียงและแสงจ้า

ความดังของเสียงจากประทัดและพลุระเบิดอาจสูงกว่า 130 - 140 เดซิเบลเอ (dB) ซึ่งเกินกว่าระดับความปลอดภัยที่หูมนุษย์จะรับได้ ไม่ควรเกิน 90 dB หากรับฟังนานเกิน 8 ชั่วโมง) เสียงกระแทกระดับนี้สามารถทำให้เยื่อแก้วหูฉีกขาด เกิดอาการหูดับชั่วคราวหรือถาวร และมีเสียงรบกวนในหู (Tinnitus) ตลอดชีวิต ในส่วนของดวงตา สะเก็ดไฟและความร้อนอาจทำให้เกิดภาวะผิวกระจกตาไหม้ หรือกระจกตาหลุดลอก ซึ่งนำไปสู่ความพิการทางสายตาอย่างถาวร

ผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยง

ความรื่นเริงของมนุษย์อาจเป็นฝันร้ายของสิ่งมีชีวิตอื่นและส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมในระยะยาว เสียงระเบิดที่ดังและแสงที่วูบวาบทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดความเครียด ตกใจกลัวจนอาจวิ่งหนีออกจากบ้านและได้รับอุบัติเหตุได้ ควรนำสัตว์เลี้ยงเข้าไว้ในบ้าน ปิดหน้าต่างและผ้าม่านให้มิดชิดเพื่อลดเสียงและแสง รวมถึงตรวจสอบให้สัตว์เลี้ยงสวมปลอกคอพร้อมป้ายชื่อและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อในกรณีพลัดหลง

เล่นพลุอย่างไรให้ปลอดภัยจากอันตราย

ความปลอดภัยในการใช้งานไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยพฤติกรรมการเล่นที่ถูกต้องตามหลักการนิรภัยสากล ควรเตรียมความพร้อมและสถานที่จุด โดยเลือกสถานที่สำหรับการจุดพลุและประทัดควรเป็นพื้นที่โล่งแจ้ง ห่างไกลจากอาคารบ้านเรือน ต้นไม้ และวัตถุไวไฟอย่างน้อย 10-15 เมตร หากเป็นการจุดพลุขนาดใหญ่ ต้องมีระยะห่างตามมาตรฐานความปลอดภัย ดังนี้

  • พลุแบบวางพื้น เช่น พลุน้ำพุ ผู้ชมควรอยู่ห่างอย่างน้อย 10.7 เมตร
  • พลุแบบยิงขึ้นฟ้า ควรมีระยะห่างอย่างน้อย 45-60 เมตร เพื่อป้องกันสะเก็ดไฟที่อาจร่วงหล่นใส่ฝูงชน
  • ควรยืนในตำแหน่งเหนือลม เพื่อป้องกันไม่ให้ควันพิษและสะเก็ดไฟพัดย้อนกลับเข้าหาตัว

ในการใช้งานจริง ผู้เล่นควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ ได้แก่

  • ห้ามจุดในมือ ควรวางดอกไม้เพลิงบนพื้นราบที่มั่นคงและแข็งแรง เช่น พื้นคอนกรีต ห้ามจับถือไว้ในขณะที่จุดชนวนเด็ดขาด ยกเว้นประเภทที่ออกแบบมาให้ถือโดยเฉพาะ
  • การใช้อุปกรณ์จุดไฟ ควรใช้ธูปหรือไฟแช็กที่มีด้ามยาว เพื่อรักษาระยะห่างระหว่างมือและใบหน้ากับชนวนพลุ
  • จุดทีละชิ้น ให้จุดไฟครั้งละหนึ่งชิ้นเท่านั้น และถอยห่างออกมาทันทีอย่างน้อย 1 ช่วงแขนหรือไปตามระยะปลอดภัยที่กำหนด
  • ห้ามก้มหน้าเข้าใกล้ ในขณะที่จุดชนวนหรือหากพลุไม่ทำงาน ห้ามก้มหน้าเข้าไปดูใกล้ๆ เพราะพลุอาจระเบิดขึ้นมาในขณะนั้นได้
  • การจัดการพลุที่จุดไม่ติด ห้ามพยายามจุดซ้ำเด็ดขาด ให้รออย่างน้อย 20 นาที แล้วจึงใช้น้ำราดให้เปียกชุ่มหรือแช่น้ำไว้ก่อนนำไปกำจัดทิ้งเพื่อป้องกันการระเบิดภายหลัง

หลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเกิดอุบัติเหตุ การปฐมพยาบาลที่รวดเร็วและถูกวิธีเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความพิการและช่วยให้การรักษาของแพทย์มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • หากถูกเปลวไฟหรือสะเก็ดพลุ ให้รีบล้างทำความสะอาดบาดแผลด้วยน้ำสะอาดที่อุณหภูมิปกติ โดยเปิดน้ำให้ไหลผ่านแผลต่อเนื่องประมาณ 15-20 นาที หรือแช่อวัยวะที่เป็นแผลในน้ำสะอาดจนกว่าอาการปวดแสบปวดร้อนจะทุเลาลง
  • ถอดเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับในบริเวณที่ถูกความร้อนออก หากเสื้อผ้าติดกับแผลแน่น ห้ามดึงออกเด็ดขาด ให้ใช้กรรไกรตัดเสื้อผ้ารอบๆ แผลแทน และใช้ผ้าสะอาดคลุมทับไว้
  • ห้ามใช้น้ำปลา ยาสีฟัน ยาหม่อง หรือครีมทาผิวทุกชนิดมาทาบนบาดแผล เพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อและรักษาได้ยากขึ้น
  • หากผู้บาดเจ็บมีอาการหนาวสั่นจากการสูญเสียผิวหนัง ให้ใช้ผ้าสะอาดบางๆ คลุมร่างกายเพื่อรักษาอุณหภูมิให้คงที่

การจัดการในกรณีอวัยวะส่วนปลายขาด การเก็บรักษาอวัยวะที่ขาดอย่างถูกวิธีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการผ่าตัดต่อคืนได้

  • การห้ามเลือด ใช้ผ้าสะอาดกดปิดบาดแผลให้แน่นและยกส่วนที่บาดเจ็บให้สูงขึ้น ห้ามใช้เชือกหรือสายรัดเหนือแผลเด็ดขาดเพราะจะทำลายหลอดเลือดและเส้นประสาทที่เหลืออยู่
  • การเก็บรักษาอวัยวะ นำชิ้นส่วนอวัยวะที่ขาดใส่ในถุงพลาสติกที่สะอาดและแห้ง ปิดปากถุงให้สนิท
  • การแช่เย็น นำถุงพลาสติกที่บรรจุอวัยวะไปใส่ในภาชนะที่มีน้ำแข็งผสมน้ำเล็กน้อย (ห้ามให้อวัยวะสัมผัสน้ำแข็งหรือน้ำโดยตรง เพราะเนื้อเยื่อจะเน่าเสียจากความเย็นจัดหรือการดูดซึมน้ำ)
  • นำส่งโรงพยาบาล รีบส่งผู้ป่วยพร้อมอวัยวะที่เก็บรักษาไว้ไปยังโรงพยาบาลที่มีศูนย์ศัลยกรรมต่ออวัยวะโดยเร็วที่สุด
  • การจัดการเมื่อดวงตาได้รับบาดเจ็บ หากสะเก็ดพลุเข้าตาหรือเกิดแรงกระแทกบริเวณดวงตา ห้ามขยี้ตาโดยเด็ดขาด ให้ใช้ผ้าสะอาดหรือฝาครอบตา ปิดตาข้างที่บาดเจ็บเบาๆ เพื่อลดการเคลื่อนไหวของลูกตา และรีบไปพบจักษุแพทย์ทันทีเพื่อตรวจเช็กว่ามีสิ่งแปลกปลอมทะลุเข้าไปในลูกตาหรือไม่

ความปลอดภัยในการเล่นพลุ ประทัด และดอกไม้เพลิงในช่วงปีใหม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับดวงหรือโชคชะตา แต่ขึ้นอยู่กับ ความไม่ประมาทและความรู้เท่าทันอันตรายของผู้เล่น การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน มอก. การปฏิบัติตามกฎระเบียบในพื้นที่ที่เล่น และการรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดได้

Advertisement

แชร์
เคาท์ดาวน์แบบไม่เสียขวัญ เช็กข้อควรรู้ก่อนจุดพลุคืนส่งท้ายปีให้ปลอดภัย