ทำความรู้จัก ตึกแฝดปิโตรนาส สัญลักษณ์แห่งมาเลเซีย อดีตอาคารที่สูงที่สุดในโลก ใครเป็นสถาปนิกผู้ออกแบบ
ตึกแฝดปิโตรนาส (Petronas Towers) ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถาปัตยกรรมที่สูงตระหง่านเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิสัยทัศน์ของประเทศมาเลเซียอย่างชัดเจน ตึกคู่นี้ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ และเคยครองตำแหน่งตึกที่สูงที่สุดในโลกมานานกว่า 6 ปี (ตั้งแต่ปี 1998-2004 ก่อนจะถูกแซงหน้าโดยตึกไทเป 101 ที่ไต้หวัน) ทำให้ชื่อเสียงของมาเลเซียเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
ตึกแฝดปิโตรนาสได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวอาร์เจนตินา-อเมริกัน เซซาร์ เพลลี (César Pelli) โดยได้รับแรงบันดาลใจจากลวดลายเรขาคณิตแบบอิสลาม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี ความมั่นคง และความสมบูรณ์แบบในศาสนาอิสลาม รูปแบบอาคารเป็นรูปดาวแปดแฉกที่ซ้อนกัน ทำให้โครงสร้างมีความแข็งแรงและงดงามในเวลาเดียวกัน ซึ่งตึกแฝดปิโตรนาสกลายเป็นผลงานที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และเขายังเคยได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในสถาปนิกที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกจากการจัดอันดับโดยนิตยสาร TIME ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อปี 2019 ด้วยวัย 92 ปี
ตึกทั้งสองมีความสูง 451.9 เมตร มีทั้งหมด 88 ชั้น และเชื่อมต่อกันด้วยสะพานลอยฟ้า (Skybridge) โดยตึกแรกส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทน้ำมันและก๊าซแห่งชาติมาเลเซีย ปิโตรนาส ส่วนอีกตึกเป็นที่ตั้งของบริษัทและองค์กรอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีศูนย์การค้า Suria KLCC ที่อยู่บริเวณฐานของตึก
หนึ่งในจุดเด่นที่สุดของตึกแฝดปิโตรนาสคือ สะพานลอยฟ้าที่เชื่อมต่อหอคอยทั้งสองไว้ที่ชั้น 41 และ 42 สะพานนี้ไม่ได้ยึดติดกับโครงสร้างของตึกอย่างถาวร แต่ถูกออกแบบให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเพื่อรองรับการสั่นสะเทือนจากลมแรงหรือเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยม และทำหน้าที่เป็นทางเดินฉุกเฉินสำหรับผู้ที่ทำงานในอาคารด้วย
การก่อสร้างเป็นความร่วมมือที่น่าทึ่ง โดยมีการแข่งขันกันระหว่างสองบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ คือ ฮาซามะ คอร์ปอเรชั่น (Hazama Corporation) จากญี่ปุ่นที่รับผิดชอบหอคอยที่ 1 และบริษัทร่วมทุนจากเกาหลีใต้ ซัมซุง ซีแอนด์ที (Samsung C&T) ที่สร้างหอคอยที่ 2 การแข่งขันระหว่างสองบริษัทนี้ทำให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยหอคอยของเกาหลีใต้สร้างเสร็จก่อนหอคอยของญี่ปุ่นประมาณหนึ่งสัปดาห์ ทำให้บริษัท Samsung C&T ได้รับการยอมรับในวงการก่อสร้างอาคารสูงระดับนานาชาติอย่างมาก
นอกจากนี้ ตึกแฝดปิโตรนาส ยังกลายเป็นภาพจำของผู้คนทั่วโลกผ่านภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่อง The Entrapment ฝ่ากับดักพยัคฆ์เหนือเมฆ (ปี 1999) ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ใช้ฉากของตึกแฝดปิโตรนาสเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญและโดดเด่นที่สุด โดยเล่าเรื่องราวการปล้นสุดท้าทายของ เวอร์จิเนีย "จิน" เบเกอร์ (รับบทโดย แคทเธอรีน ซีต้า โจนส์) และ โรเบิร์ต "แม็ก" แม็คดูกัล (รับบทโดย ณอน คอนเนอรี่) ที่ต้องบุกเข้าไปในอาคารเพื่อขโมยของสำคัญ ฉากที่อยู่ในความทรงจำของผู้ชมมากที่สุดคือฉากที่ทั้งสองคนต้องฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อข้ามสะพานลอยฟ้าและปีนป่ายไปบนส่วนโค้งของอาคารในคืนวันส่งท้ายปีเก่า ซึ่งเป็นฉากที่ตื่นเต้นและน่าหวาดเสียวอย่างยิ่ง และยังเป็นฉากที่ช่วยเน้นย้ำถึงความสูงอันน่าทึ่งและความงามของตึกได้เป็นอย่างดี
ในแต่ละปี ตึกแฝดปิโตรนาสเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวหลายล้านคน ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสประสบการณ์การขึ้นไปชมวิวที่ชั้น 86 ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของกรุงกัวลาลัมเปอร์ได้อย่างกว้างไกล รวมถึงการเดินบนสะพานลอยฟ้าที่เป็นสัญลักษณ์ของความสูงและนวัตกรรม
ตึกแฝดปิโตรนาสจึงเป็นมากกว่าแค่ตึกระฟ้า แต่เป็นผลงานชิ้นเอกที่ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับรากฐานทางวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว และยังคงยืนหยัดในฐานะสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของชาวมาเลเซียจวบจนปัจจุบัน
ขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/petronastwintowersofficial
Advertisement