ถอดบทเรียน ไฟไหม้คอนโดตรงข้าม ห้างพาต้า สะพัดสูญเสียแพทย์ระดับรองศาสตราจารย์ เพราะมีคนเปิดประตูหนีไฟค้างไว้ ประชาคมแพทย์ เสนอ 4 มาตรการเร่งด่วน รีเซ็ตความปลอดภัยอาคารสูง ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ
"ชีวิตที่ไม่ควรถูกพรากไป…เพราะประตูหนีไฟเปิดค้างไว้"
ในวันที่ไฟลุกไหม้ ผู้คนต่างพากันวิ่งหนีเอาชีวิตรอด แต่บางคน ไม่มีโอกาสแม้แต่จะหายใจเป็นครั้งสุดท้ายรองศาสตราจารย์ แพทย์ผู้เปี่ยมด้วยความรู้ ความสามารถ และเป็นหนึ่งในกำลังหลักของวงการแพทย์ไทย ต้องจากโลกนี้ไปอย่างไม่สมควร ไม่ใช่เพราะเขาไม่ระวัง ไม่ใช่เพราะเขาไม่รู้วิธีหนีไฟ แต่เพราะระบบที่ควรปกป้องเขา กลับกลายเป็นกับดักมรณะ และอาจความประมาทเลินเล่อเพียงเล็กน้อยของ "ใครบางคน" กลับแลกมาด้วย "ชีวิตของผู้บริสุทธิ์"
การเสียชีวิตของคุณหมอในเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2568 ไม่ใช่เพียงโศกนาฏกรรมส่วนบุคคล แต่คือภาพสะท้อนของระบบที่ยังล้มเหลว แม้จะมีอุปกรณ์ครบถ้วนตามมาตรฐาน แต่กลับพังทลายลงทันทีเมื่อมีพฤติกรรม "เปิดประตูหนีไฟค้างไว้?"
เพจฯ ประชาคมแพทย์ โพสต์ข้อความแสดงความอาลัยต่อการจากไปของคุณหมอพร้อมเสนอ 4 นโยบาย รักษาความปลอดภัยเชิงรุกที่ควรเป็นมาตรฐานระดับประเทศ เพื่อไม่ให้ "ทางหนี" กลายเป็น "ทางตัน" เสี่ยงเกิดความสูญเสียขึ้นอีกในอนาคต
ทั้งนี้ เพจฯ ประชาคมแพทย์ ระบุว่า "คุณหมอไม่ควรต้องจบชีวิต...เพราะความประมาทของผู้อื่น"
รองศาสตราจารย์ท่านหนึ่ง แพทย์ผู้เปี่ยมความรู้ ความสามารถ และยังเป็นพลังสำคัญของวงการแพทย์ไทย ต้องจากไปอย่างไม่สมควร เพียงเพราะ สำลักควันไฟขณะหนีไฟของอาคารพักอาศัย ซึ่งยังไม่ทราบว่ามีสาเหตุอื่น นอกเหนือจากนี้หรือไม่
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2568 ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ตรงข้ามห้างพาต้า ปิ่นเกล้า อาคารมีทั้ง ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm) และ พัดลมอัดอากาศ (Pressurized Fan) ติดตั้งครบถ้วน ถือว่า ระบบดี ทุกประการ
แต่กลับไม่สามารถช่วยชีวิตผู้อยู่อาศัยได้ ระบบดี แต่...
เสียงไซเรนดังขึ้นตามหน้าที่ พัดลมอัดอากาศถูกออกแบบมาอย่างดี แต่ทุกอย่างล้มเหลว...อาจเพียงเพราะ เคยมีคนเปิดประตูหนีไฟค้างไว้ก่อนหน้านี้
ปัญหาส่วนใหญ่ เมื่อประตูหนีไฟไม่ปิดสนิท ควันไฟก็ไหลย้อนเข้ามาในช่องบันไดหนีไฟ ระบบที่ออกแบบมาเพื่อชีวิต กลับกลายเป็น “ปล่องควันมรณะ” เราพบว่าสาเหตุของผู้เสียชีวิตจากเพลิง ไหม้มากกว่า 90% เกิดจาก suffocation หรือ การขาดอากาศหายใจ
แต่สำหรับ การเสียชีวิตของคุณหมอท่านนี้ ยังต้องรอการสอบสวนหาสาเหตุที่แน่นอนต่อไป ว่าการขาดอากาศหายใจ เป็นสาเหตุแห่งการเสียชีวิตใช่หรือไม่ และเกิดที่ใด
ท่านหนีออกทางบันไดหนีไฟ เส้นทางที่ควรปลอดภัยที่สุด แต่กลับต้องจบชีวิต ซึ่งต้องรอการสอบสวนอย่างชัดเจนว่าท่านเสียชีวิต หรือเกิด Asphyxia? ที่ใด? ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่สุด ในการวางแนวทางการป้องกันต่อไป
ถ้าเราไม่เริ่มเปลี่ยน...จะมี "ผู้เคราะห์ร้าย คนต่อไป" อีกกี่คน?
เพราะยังมีอาคารอีกนับพันทั่วประเทศ โรงแรม โรงพยาบาล สำนักงาน หอพัก ที่อาจมี "ประตูหนีไฟเปิดค้างไว้" อยู่ในขณะนี้ ถ้าไม่มีใคร ให้ความสำคัญที่จะสำรวจอย่างจริงจัง ในประสบการณ์ของ Admin เอง ยังเคยเจอว่าบางตึกมีการเอาวัสดุ หรือ สิ่งของ ไปขวางประตูไว้ เพื่อสะดวกในการเดินขึ้นลงระหว่างชั้น
คำถามคือ... เราจะรอให้ใครอีกคนต้องตายก่อนหรือ ถึงจะลงมือจริงจัง?
เพื่อไม่ให้ "บันไดหนีไฟ" กลายเป็น "ทางตันของชีวิต"
1. ตรวจสอบระบบความปลอดภัยเชิงรุก (Proactive Audit) : บังคับให้อาคารสูงทุกแห่งต้องตรวจสอบระบบ Pressurized Fan, Fire Door และ Fire Alarm ทุก 6 เดือน ผลตรวจต้องเผยแพร่บนเว็บไซต์กรมโยธาฯ เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้
2. เพิ่มโทษผู้ละเลยหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร : หากนิติบุคคล/ผู้จัดการอาคารละเลยการดูแลระบบป้องกันอัคคีภัยจนเกิดความเสียหายแก่ชีวิต → ให้ถือว่าเป็น "การกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย"
3. สร้างช่องทางร้องเรียน FireCheck Platform : จัดตั้งระบบร้องเรียนออนไลน์สำหรับประชาชน แจ้ง "ประตูหนีไฟเปิดค้าง" หรือ "ระบบอัดอากาศไม่ทำงาน" ได้โดยตรง มีทีมตรวจสอบเฉพาะกิจในแต่ละเขต เพื่อเข้าตรวจภายใน 48 ชั่วโมง
4. รวมข้อมูลระบบหนีไฟไว้ในทะเบียนกลางอาคาร (Building Safety Registry) : ให้หน่วยงานท้องถิ่นบันทึกข้อมูลระบบความปลอดภัยของอาคารทุกแห่ง และเปิดให้ตรวจสอบผ่าน QR Code บริเวณทางเข้าอาคาร
ขอบคุณภาพข่าวจาก The Standard
Credit ข้อมูล ทางระบบ ไฟฟ้า จาก นายวัตต์ดี (สุวัฒน์ ภควาภาคภูมิ) วศ.บ.ไฟฟ้า, สฟก.2863
แอดมิน ประชาคมแพทย์ ขออนุญาตปกปิดชื่อผู้เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการให้เกียรติผู้เสียชีวิตครับและขอส่งความปรารถนาดีให้กับ ผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 10 คน ให้กลับมาแข็งแรงโดยเร็วและหวังว่าผู้เกี่ยวข้องที่จัดวางระบบจะได้ร่วมกันหาสาเหตุ และหาทางป้องกันเหตุในอนาคตเพื่อความปลอดภัย ของทุกคน และท้ายที่สุดขอแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิต ด้วยใจจริงครับ
13 ต.ค. 2568 #คุณหมอไม่ควรต้องมาจบชีวิตเพราะความประมาทของผู้อื่น #FireSafetyMatters #ประชาคมแพทย์
Advertisement