ในช่วงฤดูฝนเป็นช่วงที่น้ำทะเลมีการเปลี่ยนแปลง จึงมีโอกาสพบสัตว์ทะเลมีพิษได้มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะ "แมงกะพรุนพิษ" ที่แพร่กระจายในน่านน้ำไทยทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน
การไปเที่ยวทะเลช่วงหน้าฝนสามารถสนุกได้ แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและคนรอบข้าง จากการสำรวจและรวบรวมข้อมูลของ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ด้วยการวางอวนลอยกุ้งสามชั้น ลากอวนลอยผิวน้ำ ลากอวนทับตลิ่ง และเดินสำรวจบริเวณชายหาด ตามแต่ลักษณะของพื้นที่ ปีละ 2 – 10 ครั้ง
รวมถึงจากการรับแจ้งเหตุและรับตัวอย่างแมงกะพรุนจากเครือข่ายชาวประมงและผู้ประกอบการในพื้นที่ ระหว่างปีงบประมาณ 2553 – 2566 พบแมงกะพรุนพิษจำนวน 9 ชนิด แพร่กระจายในน่านน้ำไทยทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน โดยพื้นที่อ่าวไทยตอนใน พบแมงกะพรุนจำนวนน้อยชนิดกว่า เมื่อเทียบกับพื้นที่ชายฝั่งที่ติดต่อกับทะเลเปิด เช่น อ่าวไทยฝั่งตะวันออก อ่าวไทยตอนกลาง อ่าวไทยตอนล่าง หรือทะเลอันดามัน
ซึ่ง "แมงกะพรุนพิษ" 9 ชนิด จำแนกตาม "ลักษณะความเป็นพิษ" ได้ 5 กลุ่ม ดังนี้
1. แมงกะพรุนกล่อง วงศ์ Chirodropidae จำนวน 3 ชนิด
มีพิษรุนแรงต่อระบบประสาท กล้ามเนื้อหัวใจ และการไหลเวียนของเลือดในปอด สามารถทำให้เสียชีวิตได้ พบแพร่กระจายในพื้นที่อ่าวไทยฝั่งตะวันออก อ่าวไทยตอนกลาง-ตอนล่าง และทะเลอันดามัน โดยในช่วงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ พบมากบริเวณพื้นที่จังหวัดตราด ส่วนในช่วงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พบมากบริเวณพื้นที่เกาะสมุย และเกาะพงัน
2. แมงกะพรุนกล่อง : วงศ์ Carukiidae จำนวน 2 ชนิด
มีพิษทำให้บริเวณที่สัมผัสมีอาการปวดอย่างรุนแรง และอาจทำให้จมน้ำได้ พบแพร่กระจายในเกือบทุกพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเล และพบได้ตลอดทั้งปีในพื้นที่อ่าวไทยตอนกลาง-ตอนล่าง และทะเลอันดามัน
3. แมงกะพรุนกล่อง : วงศ์ Chiropsalmidae จำนวน 1 ชนิด
มีพิษทำให้บริเวณที่สัมผัสมีอาการ ปวดแสบปวดร้อนและเป็นผื่นแดง พบแพร่กระจายเกือบตลอดทั้งปี ในพื้นที่อ่าวไทยตอนกลาง-ตอนล่าง และทะเลอันดามัน
4. แมงกะพรุนหัวขวด : วงศ์ Physaliidae จำนวน 1 ชนิด
มีพิษทำให้บริเวณที่สัมผัสมีอาการ ปวดแสบปวดร้อน แน่นหน้าอก หายใจลำบาก พบแพร่กระจายฝั่งอ่าวไทยช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน และฝั่งทะเลอันดามันช่วงเดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายน
5. แมงกะพรุนไฟ : วงศ์ Pelagiidae จำนวน 2 ชนิด
มีพิษทำให้บริเวณที่สัมผัสมีอาการ ปวดแสบปวดร้อน พบแพร่กระจายตลอดทั้งปี ทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน
ภาพ : https://km.dmcr.go.th
แมงกะพรุนกล่อง (Box Jellyfish)
การสังเกตลักษณะทั่วไป : ลำตัวใส รูปร่างเป็นกล่องสี่เหลี่ยม มีหนวดยื่นจากแต่ละมุมของร่ม หนวดอาจมีการแตกแขนง พบได้ทั้งทางฝั่งทะเลอันดามันและฝั่งอ่าวไทย
อาการเมื่อได้รับพิษ : ความรุนแรงขึ้นอยู่กับชนิดของแมงกะพรุนกล่องและปริมาณพิษที่ได้รับ อาการเมื่อได้รับพิษ มีดังนี้ รอยแผลเป็นเส้นๆ ไขว้กันไปมาเป็นรอยไหม้อาจมีรอยนูนขีดขวาง มักปวดมากบริเวณที่สัมผัสอาจหมดสติ ตัวเขียว และหัวใจหยุดเต้น
หรือรอยแผลเป็นเส้น นูนแดง หรืออาจมีอาการต่อไปนี้ ภายใน 5–40 นาที ได้แก่ ปวดบริเวณแผล เจ็บหน้าอกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก เหงื่อแตก
วิธีปฐมพยาบาล : ก่อนผู้ช่วยเหลือต้องแน่ใจว่าตัวเองปลอดภัยจากแมงกะพรุน
1. นำผู้บาดเจ็บขึ้นจากน้ำหรือไปยังบริเวณที่ปลอดภัย แล้วเรียกให้คนช่วยหรือเรียกรถพยาบาลและควรอยู่กับผู้บาดเจ็บเพราะอาจหมดสติได้ในไม่กี่นาที
2. ให้ผู้บาดเจ็บอยู่นิ่งๆ เพื่อลดการยิงพิษจากแมงกะพรุน
3. ห้ามขัดถูบริเวณที่ถูกแมงกะพรุน
4. ราดบริเวณที่ถูแมงกะพรุนด้วยน้ำส้มสายชูทันทีให้ทั่วถึงอย่างต่อเนื่อง นานอย่างน้อย 30 วินาที (ห้ามราดด้วยน้ำจืด)
5. สังเกตอาการอย่างน้อย 45 นาที ว่ามีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 1 ข้อหรือไม่ ถ้ามีรีบนำส่งโรงพยาบาล
ในกรณีถ้าผู้บาดเจ็บหมดสติ ไม่หายใจ หรือไม่มีชีพจร การช่วยฟื้นคืนชีพเบื้องต้น ดังนี้
แมงกะพรุนหัวขวด
การสังเกตลักษณะทั่วไป : มีรูปร่างสีฟ้า หรือ สีม่วง มีหนวดยาว ส่วนบนที่อยู่เหนือน้ำจะโป่งพองคล้ายหมวกของทหารเรือชาวโปรตุเกส
ในยุคศตวรรษที่ 18 เรือรบของโปรตุเกสในยุคล่าอาณานิคมถูกกระแสน้ำพัดมาเกยตื้นทางฝั่งทะเลอันดามัน ช่วงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม และฝั่งทะเลอ่าวไทยช่วงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน
อาการเมื่อได้รับพิษ : อาจพบแผลเป็นรอยนูนแดง ลักษณะที่เด่นถ้าพบคือ แผลจะเรียงตัวเหมือนเมล็ดถั่ว เป็นรอยนูนรูปไข่แยกเรียงกัน และมีรอยแดงล้อมรอบ ในรายที่รุนแรงพบเกิดตุ่มนูนแดงขึ้นได้แต่โดยทั่วไปจะค่อยๆ บรรเทาลงภายใน 24 ชั่วโมง
มีอาการเจ็บปวดอย่างทันทีพร้อมกับการเกิดรอยแดง จากนั้นไม่นานจะเกิดตุ่มนูนแดงกระจัดกระจายความเจ็บปวดจะทวีความรุนแรงขึ้นมาก ซึ่งจะดูอาการมากกว่ารอยแผลที่ปรากฏอาการปวดบริเวณที่โดนจะลดลงภายใน 2 ชั่วโมง
อาจพบว่ามีอาการ ปวดลามไปยัง แขน ขา หรือ ลำตัว ที่โดนพิษ การขยับแขนขาหรือลำตัวที่โดนพิษอาจเพิ่มความเจ็บปวดได้
ในรายที่รุนแรงอาจพบมี ปวดศัรษะ คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ใจเต้นผิดปกติ หรือหมดสติ ในรายที่เสียชีวิตพบมีหายใจลำบากและหัวใจล้มเหลว
วิธีปฐมพยาบาล :
แมงกะพรุนไฟ หรือตำแยทะเล (Sea nettles)
การสังเกตลักษณะทั่วไป : รูปร่างคล้ายร่ม ลำตัวประกอบด้วยวุ้นเป็นส่วนใหญ่ ล่องลอยไปตามกระแสน้ำและแรงคลื่นลม หนวดบริเวณขอบร่มมีเข็มพิษ
อาการเมื่อได้รับพิษ : บริเวณที่สัมผัสเป็นผื่นหรือปื้นแดง ปวดแสบปวดร้อน
วิธีปฐมพยาบาล :
สถิติการบาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิตจากแมงกะพรุน
สถิติการบาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิตจากแมงกะพรุนกล่องของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระหว่างปีงบประมาณ 2542 – 2565 พบผู้ป่วยเสียชีวิตจำนวน 10 ราย บาดเจ็บรุนแรงจำนวน 36 ราย ในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตราด จังหวัดระยอง จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดภูเก็ต จังหวัดกระบี่ และจังหวัดสตูล
ในปีงบประมาณ 2566 พบรายงานผู้บาดเจ็บรุนแรงถึงขั้น หมดสติจากการสัมผัสแมงกะพรุนกล่อง จำนวน 2 ราย ช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 ในพื้นที่เกาะสมุย-เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี และพบผู้บาดเจ็บจากแมงกะพรุนไฟจำนวนมาก ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ช่วงเดือนมกราคมและพฤษภาคม พ.ศ. 2566
ภาพ : istockphoto
ข้อมูลอ้างอิงจาก :
คลังความรู้ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
Advertisement