เที่ยวทะเลหน้าฝน หรือฤดูมรสุม สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือ สัตว์ทะเลมีพิษ ที่มักถูกคลื่นซัดเข้ามาชายฝั่งได้ง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะ "แมงกะพรุน" และ "มังกรทะเลสีน้ำเงิน" ที่กำลังเป็นที่จับตาอยู่ในช่วงนี้
โดยเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 เพจ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เผย ได้รับแจ้งพบ "มังกรทะเลสีน้ำเงิน" หรือ Blue Dragon ที่ชายฝั่งบริเวณหาดกะรน จังหวัดภูเก็ต ซึ่งจากการลงพื้นที่ พบว่าเป็น "ทากทะเลสีน้ำเงิน" ชนิด Glaucilla sp. พร้อมกับ "แมงกะพรุนกะลาสี" (Velella velella) "แมงกะพรุนแว่นตาพระอินทร์" (Porpita porpita) และ "แมงกะพรุนหัวขวด" (Bluebottle Jellyfish) ชนิด Physalia sp. สภาพแวดล้อมในพื้นที่ขณะนั้น มีฝนตก คลื่นลมแรง ความสูงคลื่นประมาณ 2-3 เมตร
เจ้าหน้าที่ได้เน้นย้ำถึงอันตรายจาก มังกรทะเลสีน้ำเงิน (Glaucilla sp.) ซึ่งเป็น สัตว์ทะเลที่สะสมพิษจากเหยื่อที่กินเข้าไป พิษดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอาการปวดแสบ ปวดร้อน ระคายเคืองผิวหนัง หรือผื่นแดง อีกทั้งความรุนแรงของพิษยังขึ้นอยู่กับภูมิต้านทางของแต่ละบุคคล
อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยยังไม่พบรายงานผู้เสียชีวิตจากการสัมผัสมังกรทะเลสีน้ำเงิน จึงขอให้ประชาชน ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวในพื้นที่เพิ่มความระมัดระวังในการพบเจอและ หลีกเลี่ยงการสัมผัสทั้ง "แมงกะพรุนหัวขวดและมังกรทะเลสีน้ำเงิน" บริเวณชายหาดทางฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ต
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อสัมผัสกับ แมงกะพรุนหัวขวด
แมงกะพรุนหัวขวด ลักษณะมีถุงลมสีน้ำเงินคล้ายลูกโป่ง ทำให้ปวดแสบปวดร้อนรุนแรง ส่วน ทังกรทะเลสีน้ำเงิน ตัวเล็กสีสวยแต่สะสมพิษจากแมงกระพรุนที่กินเข้าไป
อาการเมื่อได้รับพิษจากแมงกะพรุนหัวขาด : อาจพบแผลเป็น รอยนูนแดง ลักษณะที่เด่นถ้าพบคือ แผลจะเรียงตัวเหมือนเมล็ดถั่วเป็นรอยนูนรูปไข่แยกเรียงกันและมีรอยแดงล้อมรอบ ในรายที่รุนแรงพบเกิดตุ่มนูนแดงขึ้นได้แต่โดยทั่วไปจะค่อยๆบรรเทาลงภายใน 24 ชั่วโมง
มีอาการเจ็บปวดอย่างทันทีพร้อมกับการเกิดรอยแดง จากนั้นไม่นานจะเกิดตุ่มนูนแดง กระจัดกระจาย ความเจ็บปวดจะทวีความรุนแรงขึ้นมาก ซึ่งจะดูอาการมากกว่ารอยแผลที่ปรากฏ อาการปวดบริเวณที่โดนจะลดลงภายใน 2 ชั่วโมง อาจพบว่ามีอาการปวดลามไปยังแขนขา หรือ ลำตัว ที่โดนพิษการขยับแขนขา หรือ ลำตัว ที่โดนพิษอาจเพิ่มความเจ็บปวดได้ ในรายที่รุนแรงอาจพบมีปวดศัรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ใจเต้นผิดปกติ หรือ หมดสติ ในรายที่ตายพบมีหายใจลำบากและหัวใจล้มเหลว
วิธีปฐมพยาบาล : ใช้น้ำส้มสายชู ราดลงไปบนบริเวณที่สัมผัสต่อเนื่องอย่างน้อย 30 วินาที (ห้ามราดด้วยน้ำจืด) ล้างเมือกด้วยน้ำทะเล (หลีกเลี่ยงการขัดถูหรือขยี้หนวด)
หากมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ใจเต้นผิดปกติหายใจลำบากหรือหมดสติควรรีบส่งโรงพยาบาล
ข้อมูลอ้างอิงและภาพจาก : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
Advertisement