Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
รู้ทันอันตราย "ยาเสียสาว" ทุกคนมีโอกาสตกเป็นเหยื่อ อย่าไว้ใจมากเกินไป

รู้ทันอันตราย "ยาเสียสาว" ทุกคนมีโอกาสตกเป็นเหยื่อ อย่าไว้ใจมากเกินไป

10 มิ.ย. 68
14:52 น.
แชร์

ยาเสียสาว คือ สาร/ยา ที่ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด โดยผู้ประสงค์ร้ายแอบลักลอบใช้กับเหยื่อ หวังก่ออาชญากรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเพื่อรูดทรัพย์ หรือล่วงละเมิดทางเพศ

ยาเสียสาว คือเครื่องมือที่ใช้โดยคนร้ายเพื่อก่ออาชญากรรมทางเพศ โดยการมอมเหยื่อให้ไม่สามารถขัดขืนหรือจำเหตุการณ์ได้

Amarin Online จะพาไปเจาะลึกถึงความหมายของยาเสียสาว ชนิดของยา กลไกการออกฤทธิ์ ผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ ตลอดจนแนวทางในการป้องกันตนเองจากภัยร้ายนี้

ยาเสียสาวคืออะไร ?

ยาเสียสาว เป็นคำเรียกที่ใช้ในสื่อและสังคมเพื่อสื่อถึงสารหรือยาที่คนร้ายใช้มอมเหยื่อก่อนก่ออาชญากรรมทางเพศ ยาเหล่านี้ส่วนใหญ่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ผู้ที่ได้รับสารรู้สึกง่วง งง ซึม หมดสติ หรือไม่สามารถจดจำเหตุการณ์ในช่วงเวลาหนึ่งได้

ยาเสียสาว อาจอยู่ในรูปของของเหลว ผง หรือยาเม็ด ซึ่งมักถูกผสมลงในเครื่องดื่มหรืออาหารโดยที่เหยื่อไม่รู้ตัว

ชนิดของยาเสียสาวที่พบได้บ่อย

ยาเสียสาวไม่ใช่ยาชนิดใดชนิดหนึ่งโดยเฉพาะ แต่หมายถึงกลุ่มของสารที่ถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะเพื่อก่ออาชญากรรมทางเพศ ยาที่พบได้บ่อยมีดังนี้

1. Gamma-Hydroxybutyrate (GHB)

• ชื่อทางการแพทย์ : Gamma-Hydroxybutyric Acid

• ลักษณะ : ของเหลวใส ไม่มีกลิ่น รสเค็มเล็กน้อย

• ฤทธิ์ : ออกฤทธิ์เร็ว ทำให้เกิดอาการง่วงซึม สูญเสียความสามารถในการควบคุมร่างกาย และอาจหมดสติ

GHB เป็นสารธรรมชาติที่พบในสมองมนุษย์ในปริมาณน้อย ถูกพัฒนาในอดีตเพื่อใช้ในการรักษาโรคนอนไม่หลับและอาการกล้ามเนื้อกระตุก แต่ภายหลังพบว่าถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์อย่างแพร่หลาย

2. Rohypnol (Flunitrazepam)

• ชื่อทางการแพทย์ : Flunitrazepam

• ลักษณะ : เม็ดสีขาว ละลายได้ในน้ำ

• ฤทธิ์ : ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ง่วงนอน สูญเสียความทรงจำชั่วคราว

Rohypnol เป็นยานอนหลับในกลุ่มเบนโซไดอะซีปีน (Benzodiazepine) ซึ่งมีฤทธิ์แรงและออกฤทธิ์ได้นานกว่า Diazepam หรือ Alprazolam ที่ใช้ทั่วไป การใช้ยาโดยไม่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อาจนำไปสู่ภาวะหายใจล้มเหลวหรือหมดสติได้

3. Ketamine

• ชื่อทางการแพทย์ : Ketamine Hydrochloride

• ลักษณะ : ของเหลวใสหรือผงสีขาว

• ฤทธิ์ : ทำให้มึนงง สับสน สูญเสียการรับรู้ต่อสภาพแวดล้อม หรือหมดสติ

Ketamine เป็นยาสลบที่ใช้ในทางวิสัญญีแพทย์ แต่มีการลักลอบนำมาใช้ในทางที่ผิดในสถานบันเทิง

4. Alcohol (แอลกอฮอล์)

แอลกอฮอล์แม้ไม่จัดเป็นยาเสียสาวโดยตรง แต่การผสมกับยาข้างต้นจะทำให้ฤทธิ์ของยารุนแรงขึ้น ทำให้เหยื่อขาดการควบคุมและหมดสติได้เร็วกว่าเดิม

5. ยาอัลปราโซแลม

ยาอัลปราโซแลม มีชื่อทางการค้าหลายชื่อ เช่น "ซาแน็กซ์โซแลม" ในทางการแพทย์ยาอัลปราโซแลมใช้เพื่อบรรเทาหรือรักษาอาการวิตกกังวลและอาการตื่นตระหนก หรือใช้เป็นยานอนหลับในกรณีที่จำเป็น มีประสิทธิภาพดีในทางรักษา

ปัจจุบัน มีการใช้ยาอัลปราโซแลม ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไปในทางที่ผิด เช่น นำไปใช้เป็นยานอนหลับอย่างแรงเพื่อล่วงละเมิดทางเพศ หรือนำไปผสมในสารเสพติด

อนึ่ง ยาอัลปราโซแลม กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้างของสังคม ด้วยสืบเนื่องมาจากการบุกจับ หมอแอร์ แพทย์ตำรวจคนดัง ถูกกล่าวหาแอบอ้างคลินิก 11 แห่ง สั่งซื้อ ยานอนหลับเสียสาว

เดิมยานี้จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภทที่ 4 ตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 แต่ จากการที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง เปลี่ยนแปลงประเภทวัตถุออกฤทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2555 ซึ่งยกระดับการควบคุมอัลปราโซแลม (alprazolam) จากวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ให้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2

สำหรับปัจจุบัน (alprazolam) ควบคุมเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด

กลไกการออกฤทธิ์ของยาเสียสาว

ยาทั้งหมดนี้ออกฤทธิ์ผ่านการยับยั้งหรือปรับเปลี่ยนการทำงานของสารสื่อประสาทในสมอง โดยเฉพาะ GABA (Gamma-Aminobutyric Acid) ซึ่งเป็นสารยับยั้งการทำงานของสมอง

เมื่อยากระตุ้น GABA มากเกินไปจะทำให้สมองช้าลง ส่งผลให้

• ร่างกายรู้สึกง่วงหรือซึม

• การตอบสนองช้าลง

• ความจำขาดหายเป็นช่วง

• หมดสติชั่วคราว

ในบางกรณีที่ใช้ยาเกินขนาดหรือผสมกับแอลกอฮอล์ อาจทำให้เกิดภาวะหายใจล้มเหลว หรือช็อก จนนำไปสู่การเสียชีวิต

ผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ

ด้านร่างกาย

• ง่วง ซึม หรือหมดสติ

• เดินไม่ตรงทาง กล้ามเนื้ออ่อนแรง

• คลื่นไส้ อาเจียน

• หัวใจเต้นช้า

• หายใจลำบาก

• อาจเสียชีวิตได้หากใช้ยาเกินขนาด

ด้านจิตใจ

• ความจำขาดหาย

• ความเครียดจากการไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง

• ภาวะซึมเศร้าหลังถูกล่วงละเมิด

• ความกลัว การไม่ไว้ใจคนรอบตัว

• PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder)

วิธีการใช้ของคนร้าย

1. แอบใส่ยาลงในเครื่องดื่มโดยเหยื่อไม่รู้ตัว

2. รอให้เหยื่อแสดงอาการ เช่น ง่วง ซึม หรือเดินเซ

3. พาเหยื่อออกจากสถานที่เพื่อก่ออาชญากรรม

ในหลายกรณี คนร้ายอาจเป็นคนรู้จัก ทำให้เหยื่อไม่ระวังตัว เช่น แฟนเก่า เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่เพื่อนในโซเชียล

การวินิจฉัยและการตรวจสารในร่างกาย

วิธีตรวจ

• ตรวจปัสสาวะ (ภายใน 6–12 ชั่วโมงหลังได้รับยา)

• ตรวจเลือด (ต้องทำภายใน 4–6 ชั่วโมง)

• ตรวจสารตกค้างในผม (ใช้ได้ในกรณีที่ตรวจช้า แต่มีข้อจำกัดเรื่องความแม่นยำ)

แนวทางการป้องกันตนเอง

• ห้ามรับเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้า

• อย่าทิ้งเครื่องดื่มของตนเองไว้โดยไม่มีคนเฝ้า

• ใช้แก้วแบบมีฝาปิดในสถานบันเทิง

• อยู่กับเพื่อน อย่าแยกตัวกลับบ้านคนเดียว

• สังเกตอาการผิดปกติของตนเองและผู้อื่น

หากรู้สึกมึนงงโดยไม่มีสาเหตุ รีบขอความช่วยเหลือทันที และไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย

กฎหมายที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย

การใช้ยาเสียสาวเพื่อล่วงละเมิดผู้อื่นถือเป็นความผิดทางอาญาร้ายแรง

• ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282–285 ว่าด้วยการข่มขืนโดยใช้กำลังหรือยา โทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต

• หากเหยื่ออายุต่ำกว่า 15 ปี ถือเป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์ เพิ่มโทษอีกตาม มาตรา 317–318

• ผู้กระทำความผิดอาจถูกดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา

ยาเสียสาว ไม่ใช่เพียงแค่ชื่อเรียกในข่าวเท่านั้น แต่คือปัญหาสังคมร้ายแรงที่ควรได้รับความตระหนักอย่างกว้างขวาง ทั้งในหมู่ผู้หญิงและผู้ชาย ทุกคนมีโอกาสตกเป็นเหยื่อได้หากประมาทหรือไว้ใจคนผิด

ความรู้คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด หากเข้าใจถึงลักษณะของยา วิธีที่คนร้ายใช้ และแนวทางการป้องกัน ก็จะช่วยให้เราปลอดภัยจากอันตรายที่มองไม่เห็น และสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างทันท่วงที

Advertisement

แชร์
รู้ทันอันตราย "ยาเสียสาว" ทุกคนมีโอกาสตกเป็นเหยื่อ อย่าไว้ใจมากเกินไป