
วงการมอเตอร์สปอร์ตไทยได้รับข่าวดีและน่าภาคภูมิใจอีกครั้ง เมื่อ "เติ้น" ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์ นักแข่งดาวรุ่งชาวไทยวัย 20 ปี ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะก้าวขึ้นสู่การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับโลก FIA Formula 2 Championship ในฤดูกาล 2026 ในฐานะนักแข่งหน้าใหม่ (Rookie) ภายใต้สังกัดทีมแข่งรถสูตรแถวหน้าสัญชาติฝรั่งเศส ART Grand Prix
การตัดสินใจดึงตัว "เติ้น" เข้าร่วมทีมในครั้งนี้ เกิดจากผลงานอันโดดเด่นและพัฒนาการที่ก้าวกระโดดตลอดการแข่งขัน FIA Formula 3 Championship เป็นเวลา 2 ปี (2024-2025)
ด้วยคะแนนสะสมรวม 74 คะแนน ทำให้ "เติ้น" จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 7 จากนักแข่งทั้งหมด 30 คน ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพ ความมุ่งมั่น และความสามารถของนักขับไทยในเวทีโลกอย่างชัดเจน
ฟอร์มอันสม่ำเสมอของ "เติ้น ทัศนพล" ทำให้เขาฉายแววเข้าตา ART Grand Prix ซึ่งเป็นทีมแข่งรถสูตรจากเบอร์กันดี ประเทศฝรั่งเศส ที่ก่อตั้งมาพร้อมเป้าหมายในการพัฒนานักแข่งรุ่นใหม่ ทีม ART Grand Prix ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดใน F1 feeder series โดยมีสถิติการคว้าแชมป์ประเภททีมถึง 21 สมัย และแชมป์ประเภทนักขับ 23 สมัย ตั้งแต่ยุค GP2 มาจนถึง FIA F2 และ FIA F3 ในปัจจุบัน
เซบาสเตียน ฟิลิปป์ หัวหน้าทีม ART Grand Prix ได้แสดงความเชื่อมั่นในตัว "เติ้น" ว่า
“ทัศนพลทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่งในศึก FIA F3... ตอนนี้เขามีโอกาสก้าวขึ้นสู่ระดับต่อไปใน Formula 2 และเราตั้งตารอดูว่าเขาจะปรับตัวกับความท้าทายครั้งใหม่นี้ได้อย่างไร”
ด้าน ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์ ก็แสดงความภาคภูมิใจและตื่นเต้นกับก้าวสำคัญนี้
“ผมรู้สึกภูมิใจมากที่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าผมจะเข้าร่วมทีม ART Grand Prix... ซึ่งทำให้ผมมั่นใจว่านี่คือสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการก้าวต่อไปของผม”
การเข้าร่วมแข่งขันในรายการ FIA Formula 2 Championship ถือเป็นก้าวสุดท้ายและสำคัญที่สุดสำหรับนักแข่งรถยนต์ฟอร์มูล่าทุกคน ก่อนที่จะมีโอกาสก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบอย่าง Formula 1
"เติ้น ทัศนพล" จะเป็นนักแข่งไทยหนึ่งเดียวในรายการนี้ โดยการแข่งขัน Formula 2 ฤดูกาล 2026 มีกำหนดเปิดฉากขึ้น ณ สนามอัลเบิร์ด พาร์ค เซอร์กิต, เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 6 - 8 มีนาคม 2569
แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยสามารถร่วมติดตามความเคลื่อนไหวและส่งกำลังใจให้นักขับไทยในการพิชิตความฝันบนเส้นทางสู่ F1 ได้ที่เพจ Facebook และ Instagram: AAS Motorsport