ลัมโบร์กินีปิด Q3 ด้วยอัตรากำไร 24.6% 9 เดือนแรกปี 68 แม้เศรษฐกิจไม่ดี
ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี (Automobili Lamborghini) ได้ปิดไตรมาส 3 ปี 2568 ด้วยการประกาศผลประกอบการที่ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินงานด้านอุตสาหกรรมและการเงิน แม้จะต้องเผชิญกับบริบททางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ซับซ้อนและท้าทาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผลประกอบการหลัก ลัมโบร์กินี
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 ลัมโบร์กินีมียอดส่งมอบรถยนต์จำนวน 8,140 คัน สามารถสร้างรายได้รวมกว่า 2.41 พันล้านยูโร และทำกำไรจากการดำเนินงานสูงถึง 592 ล้านยูโร แม้ตัวเลขเหล่านี้จะต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 เล็กน้อย แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม และสะท้อนถึงความสามารถในการสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืนขององค์กร โดยมีอัตราการสร้างผลกำไรอยู่ที่ 24.6% ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับบรรดาผู้นำในตลาดสินค้าลักชัวรี
มุมมองของผู้บริหารและความท้าทาย
มร.สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและ CEO กล่าวยืนยันว่าผลการดำเนินงานครั้งนี้สะท้อนความแข็งแกร่งของโมเดลอุตสาหกรรมและกลยุทธ์ของบริษัท แม้ต้องเผชิญกับแรงกดดันจาก อัตราแลกเปลี่ยนที่เสียเปรียบ และ ผลกระทบของนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ที่มีต่อกลุ่มตลาดหลัก มร.เปาโล โพมา กรรมการผู้จัดการและ CFO เสริมว่าความสามารถในการสร้างผลกำไรอยู่ในระดับสูงสุดของอุตสาหกรรม โดยมีรายการสั่งจองรถยนต์ที่ต่อเนื่อง ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าทั่วโลกต่อแบรนด์และวิสัยทัศน์ระยะยาวของบริษัท
สัดส่วนการส่งมอบรถยนต์
การส่งมอบรถยนต์ในช่วง 9 เดือนแรกนี้แสดงให้เห็นว่าภูมิภาค ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) มีจำนวนการส่งมอบมากที่สุดที่ 3,683 คัน ตามมาด้วยทวีป อเมริกา ที่ 2,541 คัน และภูมิภาค เอเชียแปซิฟิก ที่ 1,916 คัน
ปรากฏการณ์สำคัญในไตรมาส 3
ในไตรมาสที่ 3 ลัมโบร์กินีได้สร้างปรากฏการณ์สำคัญสองครั้งเพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์สู่ไลน์อัพไฮบริดเต็มรูปแบบ
- การเปิดตัว Temerario ซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์ไฮบริด V8 เทอร์โบคู่ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างร้อนแรงจนมียอด ออร์เดอร์ล่วงหน้าเทียบเท่ากำลังการผลิตถึงหนึ่งปี
- การเผยโฉม Fenomeno รุ่นลิมิเต็ดจำนวนจำกัดเพียง 29 คัน ในงาน Monterey Car Week ซึ่งเป็นผลงานที่ยกย่องความเป็นเลิศด้านการออกแบบและระบบวิศวกรรม
ด้วยไลน์อัพไฮบริดที่สมบูรณ์ พอร์ตคำสั่งซื้อที่ต่อเนื่อง และวิสัยทัศน์ด้านอุตสาหกรรมในระยะยาว ทำให้ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี มั่นใจในการก้าวสู่โค้งสุดท้ายของปีอย่างมั่นคง ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
