Maserati MCPURA (มาเซราติ เอ็มซีเพียวร่า) ซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายตรีศูล เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ครั้งแรกของโลกที่งาน Goodwood Festival of Speed 2025 ณ ประเทศอังกฤษ ภายใต้คอนเซปต์ “พลัง ความสง่างาม และสมรรถนะเหนือระดับ” มาพร้อมกับทางเลือกตัวถัง 2 แบบ ได้แก่ รุ่นคูเป้ และ รุ่นเปิดประทุน ซึ่งใช้ชื่อรุ่นว่า MCPURA Cielo (แชโล่)
ชื่อ MCPURA เกิดจากการผสมผสานระหว่างพลังงาน (Energy), สมรรถนะ (Performance) และความบริสุทธิ์ (Purity) ของยนตรกรรมสไตล์ Maserati โดยทางแบรนด์ได้นำเสนอแนวคิดการตลาดสุดล้ำด้วยสูตร “E = MCPURA” ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากสมการของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงจุดบรรจบของเทคโนโลยี วิศวกรรมชั้นเลิศ และจิตวิญญาณของยนตรกรรมซูเปอร์สปอร์ตสายเลือดอิตาเลียนแท้
MCPURA คือการต่อยอดจากความสำเร็จของ Maserati MC20 ที่เปิดตัวเมื่อปี 2020 ด้วยการอัปเกรดดีไซน์ วัสดุ ห้องโดยสาร และรายละเอียดทุกรายจุดให้หรูหราและล้ำสมัยยิ่งขึ้น โดยยังคงใช้เครื่องยนต์ระดับตำนาน Nettuno V6 Twin-Turbo 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 630 แรงม้า (HP) แรงบิด 720 นิวตัน-เมตร พร้อมเทคโนโลยี Pre-Chamber Combustion แบบเดียวกับรถแข่ง F1 และประตูแบบ Butterfly Door เพิ่มความสะดวกในการเข้า-ออก พร้อมโชว์โครงสร้างตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ได้อย่างเด่นชัด
MCPURA เวอร์ชันเปิดประทุน (Cielo) ใช้หลังคากระจกอัจฉริยะ PLDC (Polymer-Dispersed Liquid Crystal) ที่สามารถปรับเปลี่ยนความทึบ-ใสได้ด้วยเพียงปุ่มเดียว ไม่ว่าจะปิดหลังคาเพื่อความเป็นส่วนตัว เปิดชมท้องฟ้า หรือถอดออกเพื่อสัมผัสลมธรรมชาติ
สีตัวถังใหม่ 3 เฉดเฉพาะ MCPURA Devil Orange, Verde Royale และ Night Interaction ทั้ง 3 เฉดสีนี้พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้รักความเป็นอิตาเลียนลักชัวรี่สปอร์ต
Made in Modena MCPURA ทั้งเวอร์ชันคูเป้และเปิดประทุน ผลิตที่โรงงาน Viale Ciro Menotti ใจกลางเมืองโมเดนา ซึ่งเป็นบ้านของ Maserati มานานกว่า 90 ปี โรงงานนี้ไม่เพียงแต่ผลิตเครื่องยนต์ Nettuno ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะทางเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ตั้งของโปรแกรม Officine Maserati Fuoriserie ที่เน้นการตกแต่งตามความต้องการเฉพาะบุคคล (Bespoke)
นอกจากนี้ โรงงานโมเดนายังประกอบรถรุ่นพิเศษอย่าง GranTurismo, GranCabrio และ GT2 Stradale โดย MCPURA ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการกลับมายืนหยัดในตลาดซูเปอร์สปอร์ตระดับโลกของ Maserati อีกครั้ง
ซานโต ฟิชิลี่ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของมาเซราติ กล่าวว่า
“มาเซราติได้กลับมายืนในตำแหน่งที่ถูกต้องอีกครั้ง ณ จุดสูงสุดบนถิ่นของเรา โดยทั้งเวอร์ชัน คูเป้และเปิดประทุน ถูกผลิตขึ้นที่โรงงานในเมืองโมเดนา ซึ่งเป็นที่ซึ่งประวัติศาสตร์ของค่ายตรีศูลได้ดำเนินมากว่า 90 ปี เราผลิตเครื่องยนต์ Nettuno เองทั้งหมด รวมไปถึงโปรแกรมปรับแต่งพิเศษ Maserati Officine Fuoriserie ส่งผลให้โมเดนา ไม่เพียงแค่เป็นสำนักงานใหญ่ แต่เป็นอัตลักษณ์ของเรา ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดใน Motor Valley ที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวแห่งความเป็นเลิศ และความหรูหราของอิตาลีอย่างเต็มภาคภูมิ"