มิชลิน สร้างประวัติการณ์ครั้งสำคัญในวงการยางรถยนต์ ด้วยการเปิดตัวยาง 'มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ เค1' (MICHELIN Pilot Sport Cup 2 R K1) ยางที่ได้รับการพัฒนาและผลิตขึ้นเพื่อรองรับสมรรถนะอันไร้ขีดจำกัดของ ไฮเปอร์คาร์ 'เฟอร์รารี่ F80' โดยเฉพาะ โดยใช้เวลาเพียง 15 เดือนในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สามารถทนทานต่อแรงเค้นทุกรูปแบบ ทั้งขุมพลังมหาศาล แรงบิดมหาศาล แรงกดทางอากาศพลศาสตร์ และความเร็วสูงสุดของรถยนต์รุ่นนี้
ยาง 'มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ เค1' คือบทพิสูจน์ถึงความเชี่ยวชาญอันไร้ที่ติของมิชลิน ด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี วิศวกรรมที่เหนือชั้น และกระบวนการผลิตที่แปลกใหม่ ทำให้ยางรุ่นนี้สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดด้านสมรรถนะบนถนนแห้ง ตอบสนองความต้องการของ 'เฟอร์รารี่ F80' ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เทคโนโลยีจำนวนมากที่ถ่ายทอดโดยตรงจากกีฬามอเตอร์สปอร์ตถูกนำมาใช้ในยางรุ่นนี้ ทำให้ 'มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ เค1' เป็นยางที่ดีที่สุดเท่าที่มิชลินเคยออกแบบให้กับเฟอร์รารี่ โดดเด่นด้วยหน้ายางที่กว้างขึ้น นวัตกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อน และการสร้างสรรค์โดยใช้ระบบจำลองภาพเสมือนจริงในทุกขั้นตอน ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่เคยถูกนำมารวมกันในกระบวนการผลิตยางจำนวนมาก (Mass Production) มาก่อน
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การพัฒนายางที่ใช้เวลาเพียง 15 เดือน กระบวนการนี้เกิดขึ้นได้ด้วย Intensive Virtual Exploration Phase ที่ผสานการออกแบบทางดิจิทัล การจำลองภาพเสมือนจริงในกระบวนการต้นน้ำ (Upstream Simulation) และกระบวนการผลิตพิเศษเฉพาะของมิชลินที่เรียกว่า C3M
การผสานรูปแบบการดำเนินงานใหม่ๆ เหล่านี้ช่วยลดระยะเวลาการพัฒนายางและจำนวนยางต้นแบบที่ต้องผลิตเพื่อทดสอบคุณสมบัติทางกายภาพได้อย่างมาก ทำให้สามารถนำคุณสมบัติด้านสมรรถนะของ 'เฟอร์รารี่ F80' มาใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานได้ตั้งแต่ขั้นตอนวิจัยแรกสุด ที่สำคัญยังช่วยลดจำนวนยางต้นแบบที่ต้องผลิตเพื่อทดสอบลงได้ถึง 20-30% ส่งผลให้ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง
แม้ระบบจำลองภาพเสมือนจริง (Simulation) มักถูกสงวนไว้ใช้ในวงการมอเตอร์สปอร์ต โดยเฉพาะในการพัฒนายางสำหรับรถไฮเปอร์คาร์ แต่สำหรับ 'มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ เค1' มิชลินและเฟอร์รารี่ได้นำระบบดังกล่าวมาใช้ตั้งแต่ขั้นตอนก่อนการพัฒนายาง (Pre-Development Phase) ในขณะที่รถยนต์ยังอยู่ในรูปแบบเสมือนจริงเท่านั้น โดยระบบจำลองภาพมีบทบาทสำคัญในการกำหนดขนาดยางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรถ
การทดลองเสมือนจริง (Virtual Trials) 2 ครั้ง โดยใช้ระบบจำลองพลศาสตร์ (Dynamic Simulator) ของเฟอร์รารี่ ณ เมืองมาราเนลโล ประเทศอิตาลี ได้ยืนยันความเหมาะสมของการใช้ระบบจำลองภาพเสมือนจริงในการกำหนดขนาดยาง และสะท้อนความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างสองบริษัท นอกจากนี้ ในขั้นตอนการออกแบบยังมีการจำลองภาพเสมือนจริงอีก 3 ครั้ง เพื่อระบุคุณสมบัติของยางที่เหมาะสำหรับสมรรถนะของรถยนต์ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
เพื่อรองรับขุมพลัง แรงบิด แรงกดทางอากาศพลศาสตร์ และความเร็วสูงสุดของ 'เฟอร์รารี่ F80' มิชลินได้รังสรรค์เนื้อยางสูตรผสมใหม่โดยใช้กระบวนการผสมเช่นเดียวกับยางสำหรับกีฬามอเตอร์สปอร์ต แต่เป็นครั้งแรกที่นำมาใช้กับยางสำหรับใช้งานบนถนนทั่วไป ทำให้ได้เนื้อยางที่มีคุณสมบัติการยึดเกาะเป็นเยี่ยมและสามารถรองรับทุกความเร็วในการขับขี่
นอกจากนี้ 'มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ เค1' ยังใช้โครงยางเรเดียลแบบ 2 ชั้น (Twin Layer) ที่เสริมความแข็งแกร่งและมีความหนาแน่นสูง จึงรองรับแรงเค้นแนวดิ่ง (Vertical Stress) และแรงเค้นแนวขวาง (Transverse Stress) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังใช้เทคโนโลยีชั้นวัสดุเสริมแรงบริเวณไหล่ยางแบบใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นยางรุ่นแรกที่สามารถลดแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ได้อย่างโดดเด่น เนื่องจากมีการเพิ่มความหนึบของไหล่ยางตลอดรอบเส้นยางเพื่อเพิ่มศักยภาพการยึดเกาะในระดับสูงสุด
องค์ประกอบทั้งสามประการนี้ถูกนำมาใช้ในยางสำหรับใช้งานบนท้องถนนทั่วไปเป็นครั้งแรกของโลก 'มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ เค1' มีขนาดยาง 285/30R20 สำหรับล้อหน้า และ 345/30R21 สำหรับล้อหลัง
เนื่องจาก 'มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ เค1' มีการออกแบบทางเทคนิคที่ซับซ้อน เพื่อให้การผลิตยางรุ่นนี้เป็นไปอย่างแม่นยำที่สุด มิชลินจึงนำกระบวนการผลิต C3M ที่พัฒนาขึ้นเองมาใช้ กระบวนการนี้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการกำหนดและจัดวางวัสดุแต่ละประเภทอย่างแม่นยำ คล้ายกับการพิมพ์ 3 มิติ ช่วยให้สามารถผลิตซ้ำได้ตรงตามคุณลักษณะที่กำหนดไว้ในขั้นตอนการพัฒนายางอย่างไม่เคยทำได้มาก่อน และคงความสม่ำเสมอได้ทุกรอบการผลิต เทคโนโลยี C3M ของมิชลินจึงถือว่ามีความแปลกใหม่อย่างแท้จริง
การนำระบบจำลองภาพเสมือนจริงมาใช้ในกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางร่วมกับเฟอร์รารี่ตั้งแต่ปี 2559 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมิชลินในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ยาง 'มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ เค1' (มีสัญลักษณ์ K1 บนแก้มยางบ่งบอกว่าเป็นยางที่ออกแบบมาสำหรับ 'เฟอร์รารี่ F80' โดยเฉพาะ) ผลิตจากโรงงานในเขตกราวองช์ เมืองแกลร์มง-แฟร็อง ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นโรงงานที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 และยังเป็นหนึ่งในโรงงานของกลุ่มมิชลินที่มีปริมาณการใช้น้ำต่ำที่สุดอีกด้วย