ตลาดรถเมษายน 2568 โต 1% รถยนต์นั่งฟื้น รถกระบะยังทรุด xEV พุ่ง 43.9%
ตลาดรถยนต์โดยรวมในประเทศไทยประจำเดือนเมษายน 2568 มียอดขายรวมทั้งสิ้น 47,193 คัน ซึ่งถือเป็นการ เติบโตขึ้น 1% เมื่อเทียบกับยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 การเติบโตเล็กน้อยนี้ได้รับแรงหนุนหลักจากตลาด รถยนต์นั่ง ที่แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยมียอดขาย 17,917 คัน คิดเป็นการ เพิ่มขึ้นถึง 3.6% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายนของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ยังคงเผชิญกับภาวะชะลอตัว โดยมียอดขาย 29,276 คัน ซึ่ง ลดลง 0.6%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สถานการณ์ตลาดรถยนต์นั่ง กลุ่มตลาดรถยนต์นั่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ตลาดโดยรวมยังคงมีการเติบโตได้ โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 3.6% สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มรถยนต์ส่วนบุคคลที่ยังคงมีอยู่
สถานการณ์ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ในทางตรงกันข้าม ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ยังคงอยู่ในภาวะทรงตัว โดยมียอดขายลดลงเล็กน้อยที่ 0.6% ซึ่งอาจเป็นผลมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจหรือความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: ภาวะหดตัว ซึ่งถือเป็นกลุ่มรถยนต์ที่มีสัดส่วนสำคัญในตลาดรถยนต์ไทย โดยในเดือนเมษายน 2568 มียอดขายรวม 13,896 คัน ซึ่ง ลดลงอย่างมากถึง 21.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว การหดตัวของตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันนี้อาจส่งสัญญาณถึงความอ่อนแอของภาคธุรกิจและการลงทุนในประเทศ
แม้ว่าตลาดรถยนต์บางกลุ่มจะยังคงเผชิญกับความท้าทาย แต่ตลาด xEV กลับมีการเติบโตที่โดดเด่นอย่างมาก ในเดือนเมษายน 2568 มียอดขายรวมทั้งสิ้น 21,897 คัน คิดเป็นสัดส่วน 46.4% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด และมีการ เติบโตขึ้นถึง 43.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ตลาดรถยนต์ xEV
- รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV): มียอดขาย 11,280 คัน ซึ่ง เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 163.4% แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของผู้บริโภคต่อรถยนต์ไฟฟ้าล้วน
- รถยนต์ไฮบริด (HEV): มียอดขาย 8,892 คัน ซึ่ง ลดลง 13.4% สวนทางกับการเติบโตของ BEV ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนความสนใจของผู้บริโภคไปยังเทคโนโลยีไฟฟ้าล้วนมากขึ้น
แนวโน้มตลาดรถยนต์ในเดือนพฤษภาคม
นายศุภกร รัตนวราหะ คาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ในเดือนพฤษภาคม 2568 มีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นจากเดือนเมษายน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการทยอยส่งมอบรถยนต์ที่ได้รับการจองในช่วงงาน "บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46" โดยโตโยต้าเองมียอดจองภายในงานมากกว่า 9,600 คัน และได้ส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลไปแล้วกว่า 7,600 คันในเดือนเมษายน โตโยต้าได้แสดงความขอบคุณต่อภาครัฐสำหรับมาตรการที่จะช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ โดยเฉพาะโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อ "บสย. SMEs PICK-UP" "กระบะพี่มีคลังค้ำ" ซึ่งอาจมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อเพื่อลงทุนในธุรกิจ
ส่วนแบ่งตลาดของผู้ผลิตรถยนต์ (เมษายน 2568)
- ตลาดรถยนต์รวม: โตโยต้า: 17,900 คัน (ลดลง 7.8%, ส่วนแบ่งตลาด 37.9%) บีวายดี: 6,554 คัน (เพิ่มขึ้น 630.7%, ส่วนแบ่งตลาด 13.9%) อีซูซุ: 5,616 คัน (ลดลง 18.1%, ส่วนแบ่งตลาด 11.9%)
- ตลาดรถยนต์นั่ง: โตโยต้า: 6,351 คัน (เพิ่มขึ้น 15.5%, ส่วนแบ่งตลาด 35.4%) บีวายดี: 2,797 คัน (เพิ่มขึ้น 311.3%, ส่วนแบ่งตลาด 15.6%) ฮอนด้า: 2,012 คัน (ลดลง 41.5%, ส่วนแบ่งตลาด 11.2%)
- ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์: โตโยต้า: 11,549 คัน (ลดลง 17%, ส่วนแบ่งตลาด 39.4%) อีซูซุ: 5,616 คัน (ลดลง 18.1%, ส่วนแบ่งตลาด 19.2%) บีวายดี: 3,757 คัน (เพิ่มขึ้น 1,631.3%, ส่วนแบ่งตลาด 12.8%)
- ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: โตโยต้า: 6,410 คัน (ลดลง 25.9%, ส่วนแบ่งตลาด 46.1%) อีซูซุ: 4,865 คัน (ลดลง 20.1%, ส่วนแบ่งตลาด 35%) ฟอร์ด: 1,622 คัน (ลดลง 19.5%, ส่วนแบ่งตลาด 11.7%)
สถิติการจำหน่ายรถยนต์สะสม (มกราคม – เมษายน 2568):
- ตลาดรถยนต์รวม: 200,386 คัน (ลดลง 4.8%) โตโยต้า: 75,583 คัน (ลดลง 3.4%, ส่วนแบ่งตลาด 37.7%) อีซูซุ: 25,905 คัน (ลดลง 17.2%, ส่วนแบ่งตลาด 12.9%) ฮอนด้า: 24,725 คัน (ลดลง 19.8%, ส่วนแบ่งตลาด 12.3%)
- ตลาดรถยนต์นั่ง: 76,151 คัน (ลดลง 8.1%) โตโยต้า: 25,976 คัน (เพิ่มขึ้น 17.4%, ส่วนแบ่งตลาด 34.1%) ฮอนด้า: 12,896 คัน (ลดลง 26.9%, ส่วนแบ่งตลาด 16.9%) บีวายดี: 6,965 คัน (ลดลง 19.5%, ส่วนแบ่งตลาด 9.1%)
- ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์: 124,235 คัน (ลดลง 2.6%) โตโยต้า: 49,607 คัน (ลดลง 11.6%, ส่วนแบ่งตลาด 39.9%) อีซูซุ: 25,905 คัน (ลดลง 17.2%, ส่วนแบ่งตลาด 20.9%) ฮอนด้า: 11,829 คัน (ลดลง 10.4%, ส่วนแบ่งตลาด 9.5%)
- ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 63,758 คัน (ลดลง 14%) โตโยต้า: 28,479 คัน (ลดลง 16%, ส่วนแบ่งตลาด 44.7%) อีซูซุ: 22,899 คัน (ลดลง 16.9%, ส่วนแบ่งตลาด 35.9%) ฟอร์ด: 6,556 คัน (ลดลง 17.5%, ส่วนแบ่งตลาด 10.3%)
ตลาดรถยนต์ไทยในเดือนเมษายน 2568 แสดงให้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวในกลุ่มรถยนต์นั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาด xEV ที่มีบทบาทสำคัญมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์และโดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยังคงเผชิญกับภาวะชะลอตัว ซึ่งอาจต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป การส่งมอบรถยนต์จากงาน Motor Show ในเดือนพฤษภาคมอาจช่วยกระตุ้นตลาดโดยรวมได้ในระยะสั้น ในขณะที่มาตรการสนับสนุนจากภาครัฐอาจมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ในระยะยาว
