ปอร์เช่ 911 Spirit 70 หวนคืนเสน่ห์ยุค 70 ด้วยสี Olive Neo และลาย Pasha
Porsche ปอร์เช่ เผยโฉม 911 Spirit 70 รุ่นเปิดประทุนลิมิเต็ดอิดิชั่น ที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณและความเย้ายวนของยุค 1970 และต้นทศวรรษ 1980 อย่างเต็มเปี่ยม ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,500 คันทั่วโลก ภายใต้ปรัชญา Heritage Design ที่นำแรงบันดาลใจจากอดีตมาตีความใหม่ได้อย่างลงตัว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รถรุ่นพิเศษนี้โดดเด่นด้วยสีภายนอกสุดพิเศษ "Olive Neo" สีเขียวเข้มที่ทั้งทันสมัยและมีสไตล์ ผสานเข้ากับการตกแต่งภายในอันเป็นเอกลักษณ์ด้วยลวดลาย "Pasha" ลายธงตราหมากรุกอันโด่งดังจากสนามแข่ง สะท้อนถึงความหรูหราและสไตล์สปอร์ตคลาสสิกอย่างแท้จริง
911 Spirit 70 สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ 911 Carrera GTS Cabriolet เจเนอเรชันล่าสุด มาพร้อมกับระบบ Performance Hybrid อันล้ำสมัย ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างระบบไฟฟ้าแรงสูง, eTurbo และมอเตอร์ไฟฟ้าในชุดเกียร์ PDK กับเครื่องยนต์ Boxer ขนาด 3.6 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ ให้พละกำลังรวมสูงสุดถึง 398 กิโลวัตต์ (541 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 610 นิวตันเมตร
ปอร์เช่ 911 Spirit 70 พร้อมเปิดรับคำสั่งซื้อแล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มส่งมอบในทวีปยุโรปตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 เป็นต้นไป และจะทยอยเปิดตัวในตลาดอื่น ๆ ทั่วโลกตามลำดับ
ไมเคิล เมาเออร์ (Michael Mauer) รองประธานฝ่ายออกแบบของปอร์เช่ กล่าวว่า "รถรุ่น Heritage Design มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในเชิงกลยุทธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการออกแบบ ทุกเส้นสายของปอร์เช่มีความเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ของแบรนด์ และรถยนต์รุ่นลิมิเต็ดเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเราสามารถนำองค์ประกอบจากอดีตมาตีความใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันได้อย่างไร"
อเล็กซานเดอร์ ฟาบิก (Alexander Fabig) รองประธานฝ่ายการปรับแต่งเฉพาะบุคคลและรถคลาสสิก กล่าวเสริมว่า "รถยนต์รุ่นลิมิเต็ดเหล่านี้ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าทั่วโลก รถยนต์สองรุ่นก่อนหน้าภายใต้กลยุทธ์ Heritage Design สามารถถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ของยุคสมัยในอดีตได้อย่างงดงาม และสร้างความประทับใจอย่างมาก เรารู้สึกภาคภูมิใจที่จะนำเสนอรุ่นที่สาม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคอลเลกชันที่เต็มไปด้วยความพิเศษอย่างแท้จริง"
รถยนต์รุ่นพิเศษภายใต้แนวคิด Heritage Design ไม่เพียงแต่เป็นการยกย่องประวัติศาสตร์อันยาวนานของปอร์เช่ แต่ยังเน้นย้ำถึงมิติของไลฟ์สไตล์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักของกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของปอร์เช่ ที่มุ่งมั่นสร้างประสบการณ์และความรู้สึกร่วมให้กับผู้ขับขี่อย่างลึกซึ้ง ก่อนหน้านี้ ปอร์เช่ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นพิเศษภายใต้แนวคิดเดียวกัน ได้แก่ 911 Targa 4S Heritage Design Edition (ปี 2020) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุค 1950s ถึงต้น 1960s และ 911 Sport Classic (ปี 2022) ที่สะท้อนสไตล์ของยุค 1960s ถึงต้น 1970s ซึ่งผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,250 คัน
911 Spirit 70 ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการสานต่อตำนาน และยังเป็นการขยายขอบเขตของบริการปรับแต่งเฉพาะบุคคลของปอร์เช่ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ผ่านแผนก Porsche Exclusive Manufaktur ที่มีตัวเลือกให้ลูกค้าเลือกสรรมากกว่า 1,000 รายการ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ยอดสั่งซื้ออุปกรณ์ตกแต่งจาก Exclusive Manufaktur เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยถึงสองเท่าต่อคัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการในการปรับแต่งรถยนต์ให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มลูกค้าทั่วโลก เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายนี้ ปอร์เช่มีแผนที่จะขยายศักยภาพของแผนก Exclusive Manufaktur อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ สี Turbonite ยังได้รับการนำมาใช้เป็นโทนสีหลักของตราสัญลักษณ์ (Crest) ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์ตระกูล Turbo โดยในอนาคตอันใกล้นี้ รถยนต์รุ่นสมรรถนะสูงระดับเรือธงทั้งหมดของปอร์เช่จะได้รับการติดตั้งตราสัญลักษณ์พิเศษนี้ ทั้งที่ด้านหน้าตัวรถ, ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา และบนพวงมาลัย
Porsche Design ยังได้สร้างสรรค์นาฬิกาโครโนกราฟสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับผู้ที่ซื้อรถยนต์รุ่นนี้ โดยดีไซน์ของนาฬิกาเรือนนี้สะท้อนถึงรายละเอียดอันเป็นเอกลักษณ์ของ 911 Spirit 70 โดยเฉพาะลวดลาย Pasha สีดำเงาบนหน้าปัด ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงจากลายเบาะนั่งส่วนกลางของรถยนต์รุ่นพิเศษนี้
Porsche Lifestyle Collection ที่ออกแบบมาให้เข้าชุดกับ 911 Spirit 70 เปิดโอกาสให้คุณได้หวนรำลึกถึงยุค 1970s อย่างมีสไตล์และเต็มไปด้วยความคลาสสิกอย่างแท้จริง กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับนักสะสมสุดพิเศษนี้ประกอบด้วยเสื้อผ้าแนว Daywear, Sportswear, แอสเซสซอรี่ไลฟ์สไตล์ และโมเดลรถยนต์ที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณของยุคนั้นได้อย่างลงตัว
ดีไซน์ภายนอก คอนเซ็ปต์สีพิเศษและตราสัญลักษณ์แบบย้อนยุค
ทีมนักออกแบบและผู้เชี่ยวชาญด้านสีของปอร์เช่ได้รังสรรค์สี Olive Neo ขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับ 911 Spirit 70 ซึ่งเป็นเฉดสีเขียวเข้มที่หรูหรา ผสานความคลาสสิกเข้ากับความทันสมัยอย่างลงตัว เพื่อเพิ่มมิติและความโดดเด่น ปอร์เช่เลือกใช้สี Bronzite (โทนสีเทา-ทอง) สำหรับการตกแต่งส่วนต่าง ๆ ของตัวรถ เช่น ส่วนล่างของกันชนท้าย ด้านหน้ารถ และล้อ Sport Classic ดีไซน์แบบ ‘Fuchs’ อันเป็นเอกลักษณ์ หลังคาผ้าใบสีดำ เช่นเดียวกับกรอบกระจกบังลมหน้า ช่วยเสริมให้ภาพลักษณ์ของรถสปอร์ตเปิดประทุนรุ่นนี้ดูเฉียบคมยิ่งขึ้น
บนฝากระโปรงหน้าของรถ ประดับด้วยแถบตกแต่งสามเส้นสีดำแบบ Silk Gloss ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสติ๊กเกอร์เพื่อความปลอดภัยในยุค 1970s แถบตกแต่งนี้ต่อเนื่องไปยังหลังคาผ้าใบแบบ Tone-on-Tone และยังมีกราฟิกด้านข้างตัวรถ พร้อมตัวอักษร Porsche และวงกลมหมายเลขสตาร์ท (‘Lollipop’) สีดำแบบ Silk Gloss พร้อมหมายเลขเฉพาะสำหรับแต่ละคัน รายละเอียดเหล่านี้สะท้อนถึงรากฐานแห่งความสปอร์ตของแบรนด์ปอร์เช่อย่างแท้จริง
บริเวณกลางฝากระโปรงหน้าของ 911 Spirit 70 โดดเด่นด้วย ตราสัญลักษณ์ปอร์เช่ (Porsche Crest) ที่แทบจะถอดแบบมาจากดีไซน์คลาสสิกของปี 1963 บริเวณแก้มข้างของตัวรถยังมีตรา “Porsche Exclusive Manufaktur” สีทอง ซึ่งบ่งบอกถึงความพิถีพิถันในการผลิตระดับงานฝีมือ ด้านหลังของตัวรถ บนกระจังฝาท้าย ติดตั้งตรา Porsche Heritage ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากตราสัญลักษณ์บนรถยนต์ปอร์เช่ 356 ที่เคยได้รับเมื่อรถวิ่งได้ระยะทาง 100,000 กิโลเมตร ในช่วงทศวรรษ 1950 อีกหนึ่งรายละเอียดพิเศษคือ ตัวอักษร Porsche และชื่อรุ่นที่ด้านท้าย มาในโทนสีทองสะท้อนแสง ผ่านกระบวนการเคลือบผิวด้วยทองชุบแบบกัลวาไนซ์ (Galvanised Gold-Plating) จนได้ความแวววาวงดงาม
ห้องโดยสารลวดลาย “Pasha” และงานออกแบบภายใน
ไฮไลต์สำคัญภายในห้องโดยสารของ 911 Spirit 70 คือผ้าลวดลายคลาสสิก Pasha ในโทนสีดำ/Olive Neo ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ลวดลายกราฟิกของผ้านี้ได้รับแรงบันดาลใจจากธงตราหมากรุกในสนามแข่ง สี่เหลี่ยมขนาดต่างกันที่จัดวางอย่างชาญฉลาดสร้างมิติความเคลื่อนไหวในลายผ้า แตกต่างจากการใช้ผ้า Jacquard Velour แบบดั้งเดิมในอดีต รุ่นนี้เลือกใช้สิ่งทอที่ผสานกับเส้นใยแบบ Flock Yarns ช่วยเสริมคาแรคเตอร์สปอร์ตให้เด่นชัดยิ่งขึ้น พร้อมมอบผิวสัมผัสที่นุ่มสบาย และความสะดวกสบายที่เหนือกว่า โดยเฉพาะในการเดินทางไกล
ภายในห้องโดยสารของ 911 Spirit 70 ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันทุกองค์ประกอบ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ผสานความหรูหราเข้ากับกลิ่นอายแห่งความคลาสสิกอย่างสมบูรณ์แบบ เบาะนั่งแบบ Sports Seats Plus ปรับได้ 18 ทิศทาง มาพร้อมแผงกลางที่หุ้มด้วยผ้าลวดลาย Pasha ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่นเดียวกันกับที่ใช้ตกแต่งบนกระจกมองข้างด้านในประตู และแม้แต่ในกล่องเก็บของหน้ารถ ลูกค้ายังสามารถเลือกอัปเกรดเพิ่มเติม ด้วยการตกแต่งลวดลาย Pasha บริเวณด้านหลังพนักพิงเบาะ และบนแผงคอนโซลหน้า เป็นออปชันเสริมที่ช่วยยกระดับความพิเศษให้เหนือระดับยิ่งขึ้น ภายในตกแต่งด้วยหนังแท้ Club Leather สีดำบาซอลต์ (Basalt Black) เย็บตะเข็บด้วยด้ายสี Olive Neo เข้ากับธีมสีหลักของรถ โดยแพ็กเกจภายในหนังคลับนี้ถูกรวมไว้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน นอกจากนี้ พรมห้องสัมภาระด้านท้ายยังมาในแบบพลิกกลับได้ (Reversible Boot Mat) พร้อมลวดลาย Pasha เช่นกัน
ความพิเศษยังขยายไปถึงแผงหน้าปัดที่ออกแบบโดยผสานดีไซน์วินเทจเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย หน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาด 12.65 นิ้ว ออกแบบให้สื่อถึงความคลาสสิก มาพร้อมเข็มสีขาวและเส้นสเกลในรูปแบบอะนาล็อก ขณะที่ตัวเลขสีเขียวได้รับแรงบันดาลใจจากเรือนไมล์ของ Porsche 356 สัญลักษณ์ชื่อรุ่นถูกบรรจงผสานอย่างประณีตลงใน มาตรวัดรอบแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ (Fully Digital Rev Counter) ซึ่งเป็นฟีเจอร์เฉพาะสำหรับรุ่นนี้ เช่นเดียวกับนาฬิกาจับเวลารุ่นพิเศษของระบบ Sport Chrono ก็มาพร้อมเข็มสีขาวและตัวเลขสีเขียว ซึ่งเป็นดีไซน์เฉพาะสำหรับ 911 Spirit 70
ย้อนเวลาอย่างมีสไตล์สู่ยุค 70s
ปอร์เช่เตรียมนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ผ่านแอปพลิเคชันสำหรับ Apple Vision Pro ที่จะพาผู้ใช้งานย้อนสู่บรรยากาศแห่งทศวรรษ 1970s และออกแบบรถในฝันของตนเองได้อย่างอิสระภายในแอป ผู้ใช้สามารถปรับแต่ง Porsche 911 Spirit 70 แบบทีละขั้นตอน พร้อมทั้งเรียนรู้แรงบันดาลใจและดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของยุคนั้นไปพร้อมกัน แอปพลิเคชันนี้จะเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีทาง App Store สำหรับ Apple Vision Pro ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2025 ซึ่งตรงกับช่วงเปิดตัว 911 Spirit 70
