Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
วิกฤตหน้าร้อน คู่มือรับมือเมื่อเครื่องยนต์ "ฮีท" จนเกินไป

วิกฤตหน้าร้อน คู่มือรับมือเมื่อเครื่องยนต์ "ฮีท" จนเกินไป

4 พ.ค. 68
16:00 น.
แชร์

อากาศร้อนระอุในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เครื่องยนต์รถยนต์ "ฮีท" หรือมีความร้อนสูงเกินกว่าระดับปกติได้ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรงต่อเครื่องยนต์และสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ขับขี่อย่างมาก การมีความรู้และความเข้าใจถึงวิธีการรับมือเมื่อเครื่องยนต์ฮีทจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นและทำให้คุณสามารถจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ได้อย่างมีสติ

ทำความเข้าใจกับภาวะ "เครื่องยนต์ฮีท"

ก่อนที่จะลงลึกถึงวิธีการรับมือ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า "เครื่องยนต์ฮีท" คืออะไร และเกิดจากสาเหตุใด

ภาวะเครื่องยนต์ฮีทเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิของเครื่องยนต์สูงเกินกว่าช่วงการทำงานปกติ ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 80-95 องศาเซลเซียส เมื่อความร้อนสะสมมากเกินไป จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของชิ้นส่วนต่างๆ ภายในเครื่องยนต์ ทำให้เกิดความเสียหายและอาจถึงขั้นเครื่องยนต์น็อคได้

สาเหตุหลักที่ทำให้เครื่องยนต์ฮีทในหน้าร้อน

  • ระบบระบายความร้อนทำงานผิดปกติ นี่คือสาเหตุหลักที่พบบ่อยที่สุดน้ำหล่อเย็น (Coolant) ไม่เพียงพอ: ระดับน้ำหล่อเย็นต่ำเกินไป หรือน้ำหล่อเย็นเสื่อมสภาพ ไม่สามารถระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพหม้อน้ำ (Radiator) อุดตัน: สิ่งสกปรก ตะกอน หรือคราบสนิมสะสมในหม้อน้ำ ขัดขวางการไหลเวียนของน้ำหล่อเย็นและการระบายความร้อนวาล์วน้ำ (Thermostat) เสีย: วาล์วน้ำมีหน้าที่ควบคุมการไหลเวียนของน้ำหล่อเย็น หากวาล์วน้ำไม่เปิด น้ำหล่อเย็นจะไม่สามารถไหลเวียนไปยังหม้อน้ำเพื่อระบายความร้อนได้ปั๊มน้ำ (Water Pump) เสีย: ปั๊มน้ำทำหน้าที่หมุนเวียนน้ำหล่อเย็น หากปั๊มน้ำไม่ทำงาน น้ำหล่อเย็นจะไม่สามารถไหลเวียนในระบบได้พัดลมระบายความร้อน (Cooling Fan) ไม่ทำงาน: พัดลมช่วยระบายความร้อนออกจากหม้อน้ำ โดยเฉพาะเมื่อรถจอดอยู่กับที่หรือเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำ หากพัดลมไม่ทำงาน การระบายความร้อนจะลดลงอย่างมากท่อยางน้ำหล่อเย็นรั่ว: การรั่วซึมของท่อยางทำให้น้ำหล่อเย็นลดลง
  • สภาพอากาศที่ร้อนจัด อุณหภูมิภายนอกที่สูงมาก ทำให้ระบบระบายความร้อนทำงานหนักขึ้นในการรักษาอุณหภูมิเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับปกติ
  • การจราจรที่ติดขัด เมื่อรถจอดอยู่กับที่เป็นเวลานาน เครื่องยนต์ยังคงทำงานแต่ไม่มีลมพัดผ่านหม้อน้ำเพื่อช่วยระบายความร้อน
  • การบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อขับเคลื่อนรถที่มีน้ำหนักมาก ทำให้เกิดความร้อนสะสมมากขึ้น
  • การขับขี่ขึ้นเขาด้วยความเร็วต่ำ เครื่องยนต์ต้องใช้กำลังมากในการขับเคลื่อนรถขึ้นเขา ในขณะที่ความเร็วต่ำทำให้การระบายความร้อนด้วยลมทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร

สัญญาณเตือนว่าเครื่องยนต์กำลัง "ฮีท"

การสังเกตสัญญาณเตือนตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงทีและลดความเสี่ยงของความเสียหายที่ร้ายแรง

  • เกจวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์สูงผิดปกติ นี่คือสัญญาณแรกและชัดเจนที่สุด หากเข็มวัดอุณหภูมิเคลื่อนที่เข้าสู่โซนสีแดงหรือสัญลักษณ์ "H" แสดงว่าเครื่องยนต์กำลังร้อนเกินไป
  • มีไอน้ำหรือควันพวยพุ่งออกมาจากห้องเครื่อง ไอน้ำหรือควันบ่งบอกว่ามีของเหลวในระบบระบายความร้อนเดือดและรั่วไหลออกมา
  • มีกลิ่นไหม้ กลิ่นไหม้อาจเกิดจากน้ำหล่อเย็นที่รั่วไหลไปโดนส่วนที่ร้อนของเครื่องยนต์ หรือชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ได้รับความร้อนสูงเกินไป
  • ไฟเตือนอุณหภูมิเครื่องยนต์สว่างขึ้น รถยนต์รุ่นใหม่ๆ มักจะมีไฟเตือนเมื่ออุณหภูมิเครื่องยนต์สูงเกินไป
  • เครื่องยนต์มีกำลังตก เมื่อเครื่องยนต์ร้อนจัด ระบบอิเล็กทรอนิกส์อาจสั่งลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อป้องกันความเสียหาย
  • มีเสียงดังผิดปกติจากเครื่องยนต์ ความร้อนสูงอาจทำให้ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ขยายตัวและเสียดสีกันจนเกิดเสียงดัง

เมื่อเครื่องยนต์ "ฮีท" สิ่งที่คุณควรทำทันที

เมื่อสังเกตเห็นสัญญาณว่าเครื่องยนต์กำลังฮีท สิ่งสำคัญที่สุดคือการตั้งสติและปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างใจเย็น

  1. จอดรถในที่ปลอดภัยทันที มองหาไหล่ทางที่กว้างขวางและปลอดภัย หรือบริเวณที่ไม่มีการจราจรพลุกพล่าน จอดรถให้สนิทและดับเครื่องยนต์ทันที การฝืนขับต่อไปจะยิ่งทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดและเสียหายมากขึ้น
  2. ดับเครื่องยนต์และรอให้เครื่องเย็นลง ห้ามเปิดฝากระโปรงรถในทันทีที่ดับเครื่องยนต์ เนื่องจากอาจมีไอน้ำร้อนหรือน้ำหล่อเย็นที่พุ่งออกมาทำให้เกิดอันตรายได้ รออย่างน้อย 20-30 นาที หรือจนกว่าความร้อนจะลดลง
  3. เปิดระบบทำความร้อนในรถ (Heater) และเปิดพัดลมแรงสุด ฟังดูขัดแย้ง แต่การเปิดระบบทำความร้อนจะช่วยดึงความร้อนส่วนเกินออกจากเครื่องยนต์และระบายออกไปภายนอกรถยนต์ เปิดกระจกเพื่อให้ความร้อนระบายออกได้สะดวก
  4. ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อพักน้ำ เมื่อเครื่องยนต์เย็นลงแล้ว ให้ค่อยๆ เปิดฝาหม้อพักน้ำ (Expansion Tank) อย่างระมัดระวัง ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็น หากระดับต่ำกว่าขีดที่กำหนด ให้เติมน้ำหล่อเย็น (ถ้ามีสำรอง) หรือน้ำเปล่าสะอาด (ในกรณีฉุกเฉินจริงๆ) ลงไปจนถึงระดับที่เหมาะสม ข้อควรระวัง: ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำโดยตรงในขณะที่เครื่องยนต์ยังร้อนอยู่ เพราะแรงดันและความร้อนอาจทำให้ของเหลวพุ่งออกมาเป็นอันตราย
  5. ตรวจสอบสายพานพัดลม ตรวจสอบว่าสายพานพัดลมยังอยู่ในสภาพดี ไม่หย่อนหรือขาด หากสายพานมีปัญหา พัดลมระบายความร้อนอาจไม่ทำงาน
  6. สังเกตอาการอื่นๆ มองหาร่องรอยการรั่วซึมของน้ำหล่อเย็นตามท่อยาง ข้อต่อ หรือบริเวณหม้อน้ำ สังเกตว่ามีไอน้ำหรือควันออกมาจากจุดใดหรือไม่
  7. โทรขอความช่วยเหลือ หากคุณไม่แน่ใจในสาเหตุของปัญหา หรือไม่สามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง ให้โทรเรียกช่างยนต์หรือบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบและดำเนินการแก้ไข

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเครื่องยนต์ "ฮีท"

  • ฝืนขับรถต่อไป การขับรถต่อไปในขณะที่เครื่องยนต์ร้อนจัดจะทำให้ความเสียหายรุนแรงยิ่งขึ้น และอาจทำให้เครื่องยนต์น็อคจนต้องซ่อมใหญ่
  • เปิดฝาหม้อน้ำทันทีที่เครื่องยนต์ร้อน แรงดันและความร้อนภายในระบบอาจทำให้ของเหลวร้อนพุ่งออกมาเป็นอันตรายต่อผิวหนัง
  • ราดน้ำเย็นลงบนเครื่องยนต์ที่ร้อนจัด การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็วอาจทำให้ชิ้นส่วนโลหะของเครื่องยนต์แตกร้าวได้
  • สตาร์ทเครื่องยนต์ซ้ำๆ ในขณะที่ยังร้อนจัด การพยายามสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ร้อนจัดอาจทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม

การป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ "ฮีท" ในหน้าร้อน

การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไขเสมอ การดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาเครื่องยนต์ฮีทได้

  • ตรวจเช็กระดับน้ำหล่อเย็นเป็นประจำ ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อพักน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และเติมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็นตามระยะเวลาที่กำหนด น้ำหล่อเย็นจะเสื่อมสภาพตามการใช้งาน ทำให้ประสิทธิภาพในการระบายความร้อนลดลง ควรเปลี่ยนถ่ายตามคู่มือรถยนต์แนะนำ
  • ตรวจสอบสภาพหม้อน้ำและท่อยาง สังเกตหาร่องรอยการรั่วซึม คราบตะกรัน หรือการอุดตัน หากพบความผิดปกติ ควรรีบแก้ไข
  • ตรวจสอบการทำงานของพัดลมระบายความร้อน สังเกตว่าพัดลมทำงานเมื่ออุณหภูมิเครื่องยนต์สูงขึ้นหรือไม่
  • ดูแลรักษาระบบระบายความร้อน ตรวจสอบวาล์วน้ำ ปั๊มน้ำ และสายพานให้อยู่ในสภาพดี
  • หลีกเลี่ยงการบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด การบรรทุกของหนักเกินไปจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น
  • วางแผนการเดินทาง หลีกเลี่ยงการขับขี่ในสภาพการจราจรที่ติดขัดในช่วงเวลาที่อากาศร้อนจัด หากจำเป็น ควรหาทางเลี่ยงหรือพักรถเป็นระยะ
  • พักรถเมื่อขับขี่ทางไกล หากต้องขับรถทางไกลในสภาพอากาศร้อน ควรพักรถทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้เครื่องยนต์ได้คลายความร้อน
  • ล้างรถและหม้อน้ำ การล้างรถจะช่วยระบายความร้อนออกจากตัวถัง ส่วนการทำความสะอาดภายนอกหม้อน้ำจะช่วยให้การระบายความร้อนดีขึ้น

ภาวะเครื่องยนต์ฮีทในหน้าร้อนเป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรตระหนักและเตรียมพร้อมรับมือ การสังเกตสัญญาณเตือนอย่างรวดเร็ว การปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องเมื่อเกิดเหตุการณ์ และการดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงของความเสียหายที่ร้ายแรงและทำให้คุณสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยและอุ่นใจตลอดช่วงฤดูร้อนนี้ หากคุณไม่แน่ใจในอาการของรถ หรือไม่สามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเสมอไป

แชร์
วิกฤตหน้าร้อน คู่มือรับมือเมื่อเครื่องยนต์ "ฮีท" จนเกินไป