อีโคคาร์ น่าใช้ มีคันไหนบ้าง ในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2024

ยังมีกลุ่มรถยนต์อีกหนึ่งกลุ่มที่น่าสนใจ และมีจุดเด่นในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน เป็นรถยนต์คันไม่เล็กไม่ใหญ่ ขนาดใช้งานกำลังพอเหมาะ ยังพอมีเวลาให้ไปเลือกซื้อ เลือกชมกันในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 จะมีรถยนต์จากค่ายไหนบ้าง ไปดูกัน

Toyota YARIS

กับธีมการออกแบบ Refined & Energetic ดีไซน์กระจังหน้าดีไซน์แบบ Hammerhead กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าแบบ LED Projector LED Light Guiding ล้ออัลลอลดีไซน์ใหม่ 15 นิ้ว เสาอากาศแบบ Shark fin กันชนหลังดีไซน์ใหม่แบบสปอร์ต พร้อมตกแต่งด้วยลาย Carbon fiber ภายใน วัสดุหุ้มเบาะแบบผ้าดีไซน์ใหม่ มือเปิดประตูด้านในสีเงินซาติน หัวเกียร์หุ้มด้วยหนัง วัสดุตกแต่งฐานเกียร์สีดำเปียโนแบล็คและโครเมียม แผ่นปิดห้องสัมภาระท้ายรถ ออปชั่น เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ลำโพง 4 ตำแหน่ง ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB-c ด้านหลัง เพิ่มระบบ Blind Spot Monitor (BSM) ระบบ Rear Cross Traffic Alert (RCTA) และกล้องมองรอบคัน ระบบเชื่อมต่อ T-Connect  ราคาเริ่มต้น 559,000 บาท

Toyota Yaris ATIV

YARIS ATIV ออกแบบให้เป็นรถ Fastback ที่ทรงพลัง และสง่างาม โดยติดตั้งไฟเลี้ยว Sequential ไฟหน้าแบบ Full LED ภายในห้องโดยสาร ยางมีขนาดใหญ่ขึ้น ตัวถังได้รับการออกแบบใหม่ ล้ออัลลอยด์ 16 นิ้วไฟท้ายแบบ Full LED Light-guiding ไฟเลี้ยว Sequential ใหม่ เครื่องยนต์ Dual VVT-iE ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 94 แรงม้า (69 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร (11.2 กก.- เมตร) ที่ 4,400 รอบต่อนาที ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.3 กิโลเมตร/ ลิตร ผ่านการรับรองมาตรฐาน มลพิษ EURO 5 ระบบส่งกำลัง เครื่องยนต์ที่ทางโตโยต้ามีการปรับจูนเล็กน้อย ภายนอกสไตล์ Fastback มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำเพียง 0.284 ราคาเริ่มต้น 539,000 บาท

Honda CITY

เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 TURBO ให้กำลัง 122 แรงม้า 173 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับน้ำมัน E20 ระบบเบรกคู่หน้า ดิสก์เบรกคู่หน้า/คู่หลัง ดรัมเบรก พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 16 นิ้ว ขนาดยาง 185/60 R16 ไฟหน้า Projector ฮาโลเจน ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ไฟ Daytime Running Light แบบ LED ไฟท้าย LED รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย Wireless  ระบบ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อยอุปกรณ์มาตรฐาน พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า มือเปิดประตูภายนอก สีเดียวกับตัวรถ ระบบปัดน้ำฝน เสาอากาศแบบครีบฉลาม ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหน้า–หลัง กระจกมองข้างปรับด้วยไฟฟ้า ภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ มือเปิดประตูภายในห้องโดยสาร สีดำ เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้า ระบบปรับอากาศแบบธรรมดา ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ หน้าจอ MID แสดงข้อมูลการขับขี่ ไฟส่องสว่างที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ระบบเชื่อมต่อไร้สาย ราคาเริ่มต้น ราคา 599,000 บาท

Suzuki CIAZ

อีโคซีดานพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งาน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย รองรับทุกการเดินทาง สำหรับ Suzuki Ciaz อีโคคาร์ซีดานรุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.25 ลิตร รหัส K12B พละกำลังสูงสุดที่ 91 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดจะอยู่ที่ตัวเลข 118 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด สมรรถนะกำลังดี มีอัตราประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 20 กม./ลิตร พร้อมรองรับระบบน้ำมันชนิด E20 พวงมาลัยหุ้มหนังปรับระดับสูง-ต่ำได้ พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และสั่งการโทรศัพท์บนพวงมาลัย เบาะหนังพร้อมพนักพิงศรีษะ ออกแบบให้โอบกระชับรับกับสรีระ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศบริเวณที่นั่งผู้โดยสารแถวหลัง เพิ่มความเย็นสบายทั่วถึง ราคาเริ่มต้น 528,000 บาท

Suzuki CELERIO

รถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็ค ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงโดนประมาณ 20 กิโลเมตรต่อลิตร เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กคุ้มค่าคุ้มราคา และค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งานได้พอสมควร ราคาไม่แรง และมีกระแสตอบรับดีในช่วงโคควิดระบาดใหม่ๆ ยอดขายเพิ่มขึ้นแบบเงียบๆ  ฐานลูกค้าในปัจจุบันไม่ใช่แค่เพียงแค่วัยรุ่นและวัยทำงาน แต่ยังเป็นหนึ่งในรถทางเลือกของครอบครัวขนาดเล็กอีกด้วย โดยมีทั้งในรุ่นเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ CVT สมรรถนะเครื่องยนต์ K10B ขนาด 1.0 ลิตร ขนาดคอมแพ็คที่ออกแบบมาเป็นพอเหมาะ ให้กำลังและความสามารถมาเกินตัว มีสมรรถนะการขับที่ดี ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่า 20 กิโลเมตรต่อลิตร และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รูปลักษณ์ภายนอกและภายในห้องโดยสารที่ได้รับการออกแบบให้ดูโดดเด่นสะดุดตา ระบบต่างๆ พร้อมอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยมาตรฐานของรถอีโคคาร์ ราคาเริ่มต้นที่ 338,000 บาท

Suzuki SWIFT

สปอร์ตแฮทช์แบ็ก เจเนอเรชั่น 4 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2561 รูปลักษณ์ขนาดมิติของตัวรถ ความยาว 3,845 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,735 มิลลิเมตร และความสูง 1,495 มิลลิเมตร ดีไซน์สปอร์ต ไฟหน้า LED Projector และไฟหลัง LED ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยขนาด 16 นิ้ว สมรรถนะเพิ่มหัวฉีดคู่หรือ DUALJET เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ให้สมบูรณ์ขึ้น ประหยัดน้ำมันกว่า 23 กิโลเมตรต่อลิตร เครื่องยนต์ K12M ขนาด 1.2 ลิตร แพลตฟอร์ม HEARTECT ช่วยให้รถมีน้ำหนักน้อยโครงสร้างตัวถังแบบ TECT พร้อมระบบกันการสั่นสะเทือน ระบบ TCS ช่วยในการควบคุมรถขณะขับขี่บนถนนลื่นหรือในทางโค้ง และยังเหมาะกับการขับในเมืองด้วยระบบ IDLING STOP ระบบ Hill Hold Control ที่จะช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัย SRS ถึง 6 ตำแหน่ง SUZUKI SWIFT มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย คือ SWIFT GL จำหน่ายราคา 567,000 บาท

Mazda2

ด้วยสมรรถถนะเครื่องยนต์ที่มีให้เลือกถึง 2 เครื่องยนต์ คือ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร (SKYACTIV-G) ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5 ลิตร (SKYACTIV-D) ประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟไดรฟ์ 6 สปีด แมนนวลโหมด Activematicโดดเด่นด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง (GVC Plus) ที่ช่วยควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยํา และสมดุลความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารทุกตำแหน่ง New Mazda2 มีจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่นย่อยมาตรฐาน และมีให้เลือกทั้งหมด 83 แบบ ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮทช์แบค 5 ประตู ทั้งแบบ Sport Design และ New Wave Design และรุ่นพิเศษอีก 2 รุ่น คือ Rookie Drive และ Clap Pop ในแบบแฮทช์แบค 5 ประตู ราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 599,000 บาท

NISSAN ALMERA

ยังคงมากับเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ XTRONIC CVT พร้อม D-Step Logic มีระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ได้ปรับโฉมใหม่ เพิ่มลุคดูโมเดิร์น กระจังหน้า V-motion สีใหม่แบบทูโทน เกรย์ สกาย เพิร์ล หลังคาสีดำ เฉดสีใหม่ ที่เหมือนเปลี่ยนเฉดไปได้ตามช่วงเวลา และมุมที่มอง โดยจะออกเงาเฉดสีม่วง เมื่อมองในขณะที่แสงน้อย แต่จะออกโทนสีฟ้ามากขึ้นถ้าอยู่ในที่ที่มีแสงแดดจัด และเมื่อมองจากระยะไกลจะเห็นเป็นสีทึบ แต่ถ้าเข้ามาใกล้จะมองเห็นเงาประกายมุกที่ซ่อนอยู่ ในสีใหม่ เกรย์ สกาย เพิร์ล หลังคาสีดำ ในส่วนของชุดไฟหน้าเป็น LED ที่ยังคงมาในรูปทรงเดิมที่โฉบเฉี่ยว ส่วนกันชนด้านหน้าดีไซน์ใหม่มาพร้อมช่องรับอากาศที่ใหญ่ขึ้น ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว เทคโนโลยี NissanConnect Services เชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน แอปพลิเคชัน เทคโนโลยีด้านความปลอดภัย อาทิ เทคโนโลยีเซนเซอร์ตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System–TPMS), เทคโนโลยีเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist–HBA) และเทคโนโลยีแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning–LDW) ฟังก์ชั่น SOS เพื่อขอความช่วยเหลือจากศูนย์ผ่านระบบเครื่องเสียงภายในรถยนต์ เมื่อเกิดเหตุต่างๆ ราคาเริ่มต้นที่ 549,000 บาท

Mitsubishi ATTRAGE & MIRAGE

มิตซูบิชิ แอททราจ ใหม่ และ มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ เครื่องยนต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขนาด 1.2 ลิตร DOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ภายในห้องโดยสารของรถซิตี้คาร์ทั้งสองรุ่น มาพร้อมทั้งจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ High Contrast ตกแต่งด้วยลายคาร์บอนดีไซน์ใหม่ เบาะนั่งวัสดุหนังสังเคราะห์ดีไซน์ใหม่ สำหรับ มิตซูบิชิ แอททราจ เบาะนั่งวัสดุหนังสังเคราะห์และผ้าดีไซน์ใหม่ สำหรับ มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ แผงควบคุมเปิด-ปิดกระจกข้างตกแต่งด้วยลายคาร์บอนดีไซน์ใหม่ พร้อมวัสดุบุนุ่มบริเวณแผงประตู มิตซูบิชิ แอททราจ ใหม่ และ มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอระบบสัมผัส Smartphone - Link Display Audio (SDA) ขนาด 7 นิ้ว รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และการเชื่อมต่อบลูทูธ ทั้ง 2 รุ่นติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ได้แก่ ระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ และ กล้องมองภาพหลังขณะถอยจอด ระบบความปลอดภัย ได้แก่ ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM-LS) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็วเฉพาะด้านหน้า (RMS-Forward) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC) และระบบป้องกันการลื่นไถล (TCL) Mitsubishi Attrage ราคาเริ่มที่ 477,000 บาท Mitsubishi Mirage ราคาเริ่มที่ 467,000 บาท บาท