แฟนบอล 'โอเค' บอลโลกไม่มีเบียร์ เผยดูการแข่งขันสนุกขึ้น ไม่วุ่นวาย

เป็นกฎที่เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักสำหรับ ‘กฎห้ามดื่มแอลกอฮอลล์ภายในบริเวณสนามแข่งขัน’ ของ ‘กาตาร์’ เจ้าภาพบอลโลกประเทศล่าสุด เพราะในการแข่งขันฟุตบอล หรือกีฬาอื่นๆ ‘เบียร์’ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ต่างๆ ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่หลายๆ คนต้องมีติดมือไว้ เพื่อเสริมบรรยากาศ และทำให้การเชียร์สนุกสนานมีสีสันขึ้น

โดยหลังจากมีการประกาศกฎนี้ออกมาเพียงสองวันก่อนเริ่มการแข่งขัน (ในวันที่ 18 พฤศจิกายน) แฟนบอลรวมไปถึงสื่อหลายๆ เจ้าก็ได้ออกมาวิจารณ์ว่าการบังคับให้ทุกคนไม่ดื่มแอลกอฮอลล์ในงานระดับโลกแบบนี้นั้นไม่ยุติธรรม เป็นการลิดรอนสิทธิชาวต่างชาติที่ต้องการดื่มเบียร์ และจะทำให้การดูบอล ‘กร่อย’ 

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาจริง แฟนบอลหลายๆ คนอาจกลายเป็นตีตนก่อนไข้เสียแล้ว เพราะการที่กาตาร์แบนไม่ให้มีการดื่มหรือซื้อขายแอลกอฮอลล์ทั้งภายใน และรอบๆ บริเวณสนามแข่งขันทั้งแปดแห่งในเมืองโดฮากลับทำให้แฟนบอลบางส่วนดูบอลสนุกขึ้น เพราะไม่ต้องกลัวเหตุวิวาท หรือเหตุวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นจากแฟนบอลที่มึนเมา โดยเฉพาะแฟนบอล 'ผู้หญิง' หรือผู้ที่พาลูกเล็กมาดูบอล ที่บอกว่าพวกเขารู้สึกปลอดภัยขึ้นเมื่อรู้ว่าจะไม่มีแฟนบอลที่ดื่มเบียร์จนเมามายมาอยู่ใกล้ๆ พวกเขาและครอบครัว

ทำไมกาตาร์แบนแอลกอฮอลล์?

ตามกฎของชาวมุสลิมการดื่มเครื่องดื่มและเสพของมึนเมาทุกชนิดถือว่าเป็นการทำผิดกฎศาสนา ในประเทศมุสลิมที่มีความอนุรักษ์นิยมสูงมากอย่างกาตาร์ การดื่มแอลกอฮอลล์ในที่สาธารณะจึงเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และอาจถูกเนินคดีได้หากทำผิด โดยอาจถูกตัดสินจำคุกสูงสุดถึงหกเดือน หรือถูกปรับสูงสุดถึง 3000 ริยัลกาตาร์ หรือราว 2.8 หมื่นบาท

เมื่อได้เป็นเจ้าภาพบอลโลก กาตาร์จึงนำกฎนี้มาใช้กับแฟนบอลทุกคนที่จะเดินทางเข้ามาชมการแข่งขันด้วย โดยในเดือนกันยายน กาตาร์ประกาศว่าจะอนุญาตให้แฟนบอลซื้อเบียร์ดื่มได้สามชั่วโมงก่อนเริ่มการแข่งขัน และหนึ่งชั่วโมงหลังจบการแข่งขัน

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 18 พฤศจิกายน หรือสองวันก่อนการแข่งขัน กาตาร์กลับออกมาประกาศกฎใหม่ที่ห้ามไม่ให้มีการดื่มหรือซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ทุกชนิดในบริเวณสนามแข่ง และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์จะมีจำหน่ายในบริเวณ Fan Parks ที่จัดไว้ให้ และสถานที่รอบเมืองโดฮาที่ได้รับอนุญาติจากรัฐบาลเท่านั้น

นอกจากนี้ ใน FIFA Fan Festival แฟนๆ ยังสามารถหาดื่มเบียร์ Budweiser ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ของการแข่งขันระหว่างเวลา 1 ทุ่มถึงตีหนึ่งได้ทุกวัน เพราะฉะนั้นผู้เข้าชมการแข่งขันสามารถหาเบียร์ดื่มได้แน่นอนหากต้องการ เพียงแต่ไม่ใช่ในสนามระหว่างการแข่งขัน

ไม่มีเบียร์ ไม่มีปัญหา

ถึงแม้จะเป็นกฎที่มีแฟนบอลจากหลายประเทศรุมวิจารณ์ จากการรายงานของสำนักข่าว CNN ที่ได้ลงพื้นที่ไปเก็บบรรยากาศบอลโลก แฟนบอลหลายๆ คนกลับพบว่าการทำให้พื้นที่รอบๆ สนามการแข่งขันปลอดการดื่มแอลกอฮอลล์นั้น ทำให้บรรยากาศโดยรวมสงบ และเป็นมิตรกับ ‘ครอบครัว’ มากยิ่งขึ้น

“ปกติผมจะดื่มเบียร์บ้างเวลาเชียร์กีฬา แต่ผมว่าทุกคนที่นี่ก็จอยไปกับงานได้นะถึงจะไม่มีเบียร์” แฟนบอลชาวอังกฤษคนหนึ่งกล่าวกับ CNN พร้อมแสดงความคิดเห็นต่อว่าทุกคนที่อังกฤษทำให้เรื่องการแบนแอลกอฮอลล์เป็นเรื่องลบเกินสมควร เพราะถึงแม้มันจะทำให้บรรยากาศดูไม่คึกคักเท่าปกติ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแย่ 

นอกจากนี้เขายังคิดว่ามันเป็นเรื่องดี เพราะการแบนแอลกอฮอลล์เหมือนเป็นการคัดผู้ชมไปในตัวเลยว่าเป็นผู้ชมที่อยากมาเชียร์กีฬาจริงๆ ไม่ได้อยากมาเพราะอยากเมาแล้วสร้างความวุ่นวาย

ความเห็นนี้ของแฟนบอลรายนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากแฟนบอลหลายๆ คนที่แสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่าการแบนแอลกอฮอลล์ทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยขึ้น และบางคนก็กล่าวว่าพวกเขาไม่สนใจอยู่แล้วว่าจะมีแอลกฮอลล์หรือไม่ เพราะพวกเขาตั้งใจมาเชียร์ฟุตบอล ไม่ได้มาดื่ม

นอกจากนี้ Sean Mottaleb เจ้าหน้าที่อาวุโสที่ทำหน้าที่ดูแลเหตุฉุกเฉินในงานบอลโลกในปีนี้ยังกล่าวกับ CNN อีกว่าการห้ามไม่ให้มีการดื่มแอลกอฮอลล์ในพื้นที่ทำให้เหตุการณ์วิวาท หรือกระทบกระทั่งภายในงานลุกลามไปเป็นปัญหาใหญ่โต และบอกว่าการห้ามไม่ให้ดื่มแอลกอฮอลล์นี้เป็น ‘การรักษาสิทธิให้แก่คนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอลล์’

“‘บอลโลกไม่ใช่งานของแฟนบอลเท่านั้น แต่เป็นงานของทุกคนทั่วโลก และทุกคนมีสิทธิที่จะมีความสุข สนุกสนานไปกับงานนี้ และมีสิทธิที่จะรู้สึกปลอดภัยไปพร้อมๆ กันได้” เขากล่าว

ผู้หญิงรู้สึกปลอดภัยขึ้นเมื่อไม่มีเบียร์

การแบนแอลกอฮอลล์ในบริเวณที่จัดการแข่งขันทำให้บรรยากาศโดยรวมเป็นมิตรขึ้น แต่แฟนบอลกลุ่มหนึ่งที่น่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการนี้มากที่สุดก็คือ ‘ผู้หญิง’ ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะกลายเป็นเหยื่อของความรุนแรงทางเพศในงานแข่งขันกีฬา

โดยจากการรายงานของ The Times ของอังกฤษ และ Doha News แฟนบอลหญิงหลายคนที่ไปร่วมเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลในกาตาร์เผยว่าพวกเธอรู้สึกว่าบรรยากาศในงานบอลโลกครั้งนี้ดูเป็นมิตร และไม่อันตรายหรือดูน่ากลัวเท่ากับงานแข่งกีฬาที่อื่น 

Ellie Molloson นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรีผู้เริ่มแคมเปญ HerGameToo กล่าวว่า เธอรู้สึกกังวลมากก่อนมาถึงกาตาร์ แต่เมื่อมาถึงและได้อยู่ในบรรยากาศการแข่งขันบอลโลกจริงๆ แล้ว เธอรู้สึกประหลาดใจมากที่ตัวเองไม่ถูกผู้ชายพูดแซวคุกคาม ผิวปากใส่ หรือเจอกับการกระทำเหยียดเพศในรูปแบบไหนเลย

นอกจากนี้ แฟนบอลหญิงจากอังกฤษบางคน ซึ่งเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่าผู้ชมดื่มแอลกอฮอลล์หนักที่สุดระหว่างการชมฟุตบอล ยังกล่าวอีกด้วยว่า การแบนแอลกอฮอลล์ของกาตาร์ในครั้งนี้ควรจะเป็นต้นแบบให้ผู้จัดการแข่งขันฟุตบอลในอังกฤษทำตาม เพราะที่กาตาร์เธอไม่เจอการคุกคามทางเพศจากแฟนบอลชายเลย ซึ่งแตกต่างจากสถานการณ์ที่อังกฤษมาก

โดยที่อังกฤษ ผู้หญิงมักจะเป็นเหยื่อของความรุนแรงเสมอเมื่อมีงานแข่งขันฟุตบอล โดยเฉพาะหลังงานจบ โดยจากสถิติของ National Centre for Domestic Violence (NCDV) ของอังกฤษ เคสความรุนแรงภายในครอบครัวจะเพิ่มขึ้นเสมอหลังจบการแข่งขันฟุตบอล 

โดยจะเพิ่มขึ้นถึง 38% ถ้าทีมอังกฤษแพ้ และเพิ่มขึ้น 26% ไม่ว่าทีมอังกฤษจะแพ้หรือชนะ จนในอังกฤษมีแคมเปญออกมามากมาย เช่น ‘He’s Coming Home’ ของ ‘Women’s Aid’ เพื่อรณรงค์ให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหา และช่วยกันเป็นหูเป็นตาผู้หญิงหรือเด็กที่อาจเป็นเหยื่อหลังการแข่งขันฟุตบอลจบ

ที่มา: CNN, The Times, Doha News, Deccan Chronicle