อินไซต์เศรษฐกิจ

ย้อนรอย 80 ปี ประวัติศาสตร์ AI สู่วันที่จะมาเปลี่ยนโลก

12 ม.ค. 67
ย้อนรอย 80 ปี ประวัติศาสตร์ AI สู่วันที่จะมาเปลี่ยนโลก

ความป๊อป ความฮอตฮิตของ ‘AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์’ กำลังค่อยขยับเข้าสู่สปอตไลท์มากขึ้นเรื่อยๆ แม้ ChatGPT จะทำให้ทั้งธุรกิจ และคนทั่วไปตื่นตัวเรื่อง AI และศักยภาพที่ ‘GenAI’ สามารถทำได้ แต่แท้จริงแล้ว AI เป็น ‘พระเอกหลังม่าน’ ที่มีวิวัฒนาการมานานเกือบ 80 ปีแล้ว

 

Spotlight จะพานั่ง ‘Time Machine’ ไปยังช่วงเวลาสำคัญของพัฒนาการ AI ตั้งแต่ทำได้เพียงกิจกรรมง่ายๆ จนถึงวันที่ AI กำลังจะกลายเป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกอยากในปัจจุบัน

 

AI Eliza

 

 

รุ่งอรุณของ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ (1950s - 1970s)

 

ย้อนกลับไปช่วงปี 1950 ‘Alan Turing’ นักคณิตศาสตร์ผู้ถูกยกย่องให้เป็น ‘บิดาของวิทยาการคอมพิวเตอร์’ ได้ตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ในการที่คอมพิวเตอร์จะสามารถ ‘คิด’ ด้วยข้อมูล และตรรกะ เหมือนมนุษย์ได้ไหม ในเอกสารวิจัย ‘Computing Machinery and Intelligence’ ของเขา ซึ่งได้กลายเป็นชนวนสำคัญให้กับนักคิดในยุคนั้น นำไปสู่ถือการกำเนิดของ ‘Logic Theorist’ ที่ถือได้ว่าเป็น ‘โปรแกรม AI ชิ้นแรกของโลก’ ซึ่งมีความสามารถในการพิสูจน์สมการคณิตศาสตร์ ตรรกศาสตร์ โดยฝีมือของ Allen Newell, Herbert A. Simon และ Cliff Shaw นอกจากนี้ยังมี ‘ELIZA’ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิด NLP (Natural Language Processing - สามารถถาม-โต้ตอบด้วยภาษามนุษย์ได้ ไม่ต้องคุยผ่าน Coding) ตัวแรกๆ ที่สามารถพิมพ์โต้ตอบกับผู้ใช้ด้วยเนื้อหาในเชิงการตอบปัญหาชีวิตทั่วไปได้ ซึ่ง ELIZA ยังไม่ได้เข้าใจบทสนทนาจริงๆ เพียงจับคู่คำสำคัญในคำถามกับคำตอบในคลังข้อมูลเท่านั้น

ด้วยข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี และต้นทุนที่สูงลิ่ว ทำให้การใช้งานโปรแกรมเช่นนี้ ถูกจำกัดอยู่ในสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง กับบริษัทเจ้าใหญ่กระเป๋าหนาเท่านั้น นับเป็นยุคที่ผู้คนฝันใหญ่ แต่ขาดเครื่องมือ วิธีการ และเงินทุนที่จะไปให้ถึง จนทำให้เข้าสู่ยุคของ ‘AI winter’ หรือหน้าหนาว AI ที่คนเริ่มถอดใจ และถอยจากการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้

 

 

AI หมากรุก

 

AI เริ่มฉายแวว (1980s- 1990s)

 

ล่วงเลยสู่ปีช่วงปี 1980 ฤดูหนาวของ AI เริ่มผ่านพ้นไป จากการที่เทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์เริ่มพัฒนาขึ้น ผู้เชี่ยวชาญจึงกลับมาให้ความสนใจ และพัฒนา AI มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งส่งผลให้ AI ถูกพัฒนาให้สามารถลอกเลียนกระบวนการคิดของมนุษย์ และเริ่มถูกนำไปใช้กับการใช้งานในโลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้น หนึ่งในความพยายามครั้งใหญ่ในการพัฒนา AI คือโปรเจกต์ ‘Fifth Generation Computer Project (FGCP)’ ของประเทศญี่ปุ่น ที่ทุ่มทุนวิจัยไปกว่า 400 ล้านดอลลาร์ (1.4 หมื่นล้านบาท) เพื่อยกระดับการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ แต่แม้งานวิจัยดังกล่าวจะไม่ประสบผลสำเร็จดังคาด แต่ก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักคิดรุ่นต่อมา

และเป็นในยุคนี้เองที่ AI สร้างประวัติศาสร์ สามารถเอาชนะ ‘แชมป์หมากรุกสากล’ Garry Kasparov ได้ ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ‘Deep Blue’ จาก IBM ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการที่ AI สามารถเฉือนคมสมองของมนุษย์ได้ ผ่านเกมที่ต้องอาศัยการวางกลยุทธ์ซับซ้อน แต่ในปลายยุค 1990 ก็ต้องกลับมาพบกับฤดูหนาวของ AI อีกครั้งหนึ่ง

 

iPhone AI

 

AI ใกล้ตัวมากขึ้น (ต้นปี 2000s)

 

การเข้าสู่สหัสวรรษใหม่ก็ได้พา AI ขยับจากห้องแล็บวิจัย มาสู่ฝ่ามือของเรา และใกล้ตัวเรามากยิ่งขึ้น AI ถูกนำมาใช้เป็นเบื้องหลังของหลายวงการ ตั้งแต่การเพิ่มศักยภาพการวินิจฉัยในแวดวงการแพทย์ไปจนถึงการสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งเฉพาะบุคคล โดยการมาของ ‘iPhone’ เป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่ทำให้เทคโนโลยีขยับเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของคนมากขึ้นไปอีก โดยการเปิดตัว ‘Siri’ ในปี 2011 นั้น ทำให้มนุษย์เริ่มที่จะสนทนา, ถามทาง, นัดหมายสำคัญ โดยการสื่อสารผ่านภาษาพูด ให้ AI ที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลให้

ไม่เพียงแค่การใช้งานทางตรงเช่นนี้เท่านั้น แต่หลายบริการที่ใช้ระบบ AI เป็นหลังบ้าน ทั้งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย, แพลตฟอร์มวิดีโอและเพลง, แพลตฟอร์มออนไลน์ช้อปปิ้ง ไปจนถึง Search Engine ล้วนใช้ AI เข้ามาร่วมสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างกันสำหรับลูกค้าแต่ละคน ที่แม้จะดูแสนธรรมดาในปัจจุบัน แต่นวัตกรรมเหล่านี้รากฐานให้กับการพัฒนา Machine Learning ให้ฉลาดล้ำยิ่งขึ้น

 

AI Autopilot

 

กำเนิด GenAI (2014 - 2020)

 

ยิ่งเวลาดำเนินไป ผลกระทบที่ AI มีต่อโลกยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ และสำคัญขึ้นมากกว่าที่เคยเป็นมาในประวัติศาสตร์ การมาของ Generative Adversarial Networks (GANs) ในปี 2014 ถือเป็นการปลดล็อครั้งสำคัญของวงการการสร้างสรรค์ โดย GAN อาศัยการทำงานร่วมกันของสองส่วนคือ ‘นักสร้าง (Genarator)’ ที่จะสร้างผลงานที่คล้ายกับข้อมูลที่ถูกเทรน และ ‘นักวิจารณ์ (Discriminator)’ ที่จะคอยแยกว่าอันไหนคือต้นฉบับ อันไหนคือสิ่งที่สร้างขึ้น ซึ่ง GAN จะถูกป้อนข้อมูลเรื่อยๆ เพื่อให้ส่วนนักสร้างฝึกสร้างงานชิ้นใหม่ๆ และให้นักวิจารณ์พยายามแยกให้ออก ซึ่งผลลัพธ์ในอุดมคติก็คือ ส่วนที่เป็นนักสร้างสามารถสร้างผลงานได้ดีมาก จนส่วนนักวิจารณ์แยกไม่ออกนั่นเอง

การกำเนิดของ GAN นั้นนำไปสื่อพัฒนาการด้านงานสร้างสรรค์ของ AI ทั้งในด้านงานศิลปะ, เพลง, และงานเขียน ด้านธุรกิจนั้น AI ถูกนำไปพัฒนากระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล, แชทบอทตอบลูกค้า และเครื่องมือทางการตลาด ยกระดับความสามารถของภาคธุรกิจ ในวงการการแพทย์ก็ได้ประโยชน์จากการนำ AI ไปช่วยทำนายโรคที่อาจจะเกิดกับคนไข้ได้ด้วย
และเป็นในยุคนี้เองที่การพัฒนาของ ‘รถยนต์ไร้คนขับ’ เติบโตมากขึ้นและถูกขับเคลื่อนด้วย AI นำทีมโดยค่ายยานยนต์แห่งอนาคตอย่าง Tesla

นอกจากการใช้งานดังที่กล่าวมาแล้ว ในช่วงเวลานี้เองที่มีพัฒนาการที่น่าสนใจ ที่ AI เอาชนะมนุษย์ เช่น ในปี 2016 ในการแข่งขัน โดย AlphaGo จาก Google สามารถเอาชนะเทพหมากล้อม Lee Sedol ในการแข่งขันหมากล้อม ซึ่งต้องใช้กลยุทธ์ซับซ้อน และประสบการณ์ไปได้ หรือในปี 2020 หรือในปี 2020 ที่ญี่ปุ่นเปิดตัวแอปพลิเคชันคัดเกรดปลาทูน่าด้วย AI โดยการประเมิณจากปริมาณไขมัน และสี ซึ่งปกติงานเช่นนี้จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ฝึกฝนมาแรมปีเท่านั้น

 

ChatGPT

 

AI เปลี่ยนโลก (2021 - อนาคต)

 

นี่คือยุคที่ AI ขยับจากหลังม่าน มาสู่หน้าม่านอย่างแท้จริง จากการมาของ GPT-3 โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่พัฒนาโดย OpenAI นำไปสู่ผลิตภัณฑ์แชทบอท ‘ChatGPT’ ที่แพร่หลายอย่างรวดเร็ว และรุนแรงในระยะเวลาอันสั้น ส่งผลกระทบต่อวงการการบริการลูกค้า, การสร้างสรรค์คอนเทนต์, แวดวงการศึกษา ซึ่งสามารถสร้างผลงานได้ในระดับที่ไม่แพ้สติปัญญาของมนุษย์เลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้น AI ยังเข้าไปมีส่วนสำคัญในแวดวงอื่นๆ มากขึ้นเรื่อยๆ อาทิ ในวงการการเงิน AI เข้าไปช่วยตรวจจับการฉ้อโกง, ประเมิณความเสี่ยงทางการเงิน, บริหารการเงินส่วนบุคคล

ด้านการแพทย์ AI ในยุคปัจจุบัน และอนาคต ได้เข้ามาช่วยเพิ่มความแม่นยำให้การวินิจฉัย, สร้างแผนการรักษาเฉพาะบุคคล, และเร่งให้การค้นพบยาใหม่ๆ เป็นไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมไปถึงปัญหาที่เป็นวาระระดับโลกอย่างสิ่งแวดล้อม AI ก็เข้ามาช่วยทำความเข้าใจผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมผ่านการสร้างแบบจำลอง, ปรับปรุงการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น, สนับสนุนกระบวนการเพื่อความยั่งยืน ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา การเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่าง Copilot ของ Microsoft ยังทำให้เราเห็นอย่างเป็นรูปธรรมถึงการนำ AI ไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และยังมีการใช้งานอีกมากมาย ที่เกิดขึ้นได้ด้วยศักยภาพที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของ AI

และท่ามการพัฒนาการของการใช้งาน AI ยังมีเรื่องที่ต้องจัดการให้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริยธรรมของการใช้ AI ซึ่งหมายรวมถึงเรื่องความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย การแย่งงานมนุษย์ ซึ่งจะต้องสร้างสมดุลให้ดีระหว่างการกำกับดูแล และการพัฒนา AI ไม่ให้สกัดกั้นหรือขัดขวางซึ่งกันและกัน

 

AI

 

พัฒนาการของ AI ระยะเวลาอันสั้น รวมถึงความตื่นตัวของประชากรโลกที่เกิดขึ้นหลังการแพร่หลายของ ChatGPT เป็นสัญญาณที่ทำให้เห็นว่า เรายังอยู่ในยุคเริ่มต้นของการพัฒนาของ AI ซึ่งคงจะมีความสามารถที่ทำให้เราประหลาดใจได้อีกมากมายในอนาคต เราจึงควรที่จะเตรียมความพร้อม หมั่นอัพเดตความรู้และทักษะของตัวเองอยู่เสมอ เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับ AI เพื่อให้เราอยู่ในฝั่งผู้ชนะ ในโลกที่ AI จะเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน และการใช้ชีวิตของเรามากขึ้นในทุกขณะ

 



ที่มา : Harvard, Our World in Data, Time

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT