การเงิน

นิยามกลุ่มเปราะบาง ที่แบงก์จะช่วยลดดอกเบี้ย 0.25% ใครมีสิทธิ์บ้าง?

7 พ.ค. 67
นิยามกลุ่มเปราะบาง ที่แบงก์จะช่วยลดดอกเบี้ย 0.25% ใครมีสิทธิ์บ้าง?

ระหว่างที่กำลังถกเถียงกันเรื่องความเหมาะสมของดอกเบี้ยนโยบายของแบงก์ชาติที่รัฐบาลอยากจะให้ลดลงจาก 2.50% ปัจจุบันลงอีกเพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ฝั่งแบงก์ชาติยังคงมีมุมมองและเหตุผลในการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจและเห็นว่าดอกเบี้ยนโยบายในระดับปัจจุบันเหมาะสมแล้ว 

สมาคมธนาคารไทยได้ประชุมร่วมกันภายหลังเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน และได้เคาะมาตรการลดดอกเบี้ย MRR หรือดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดีลงอีก 0.25% เป็นระยะเวลา 6 เดือนเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชนโดยทุกธนาคารที่ประกาศลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ มีการระบุว่า เป็นการให้สิทธิ์และช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางทั้งลูกค้าบุคคลและธุรกิจ ซึ่งไม่ได้เป็นการลดดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้ทุกคน 

ดังนั้นSPOTLIGHT พาส่องนิยามความหมายของ “กลุ่มเปราะบาง”ของแต่ละธนาคารว่ามีคุณสมบัติอย่างไรจึงจะเข้าเกณฑ์ได้รับความช่วยเหลือจากการลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ 

ธนาคารกรุงเทพ 

ธนาคารกรุงเทพ เป็นธนาคารแรกที่ออกมาประกาศลดดอกเบี้ย MRR  0.25% ลดภาระทางการเงินของลูกค้าโดยมีผลไปเมื่อ  29 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา 

ทั้งนี้ธนาคารระบุว่า ได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าครอบคลุมทั้งลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ SME และลูกค้ารายย่อย ซึ่งรวมถึงกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ลูกค้าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การปรับลด MRR 0.25 % ในครั้งนี้ จึงเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของธนาคารที่จะช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการในระหว่างที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ อีกทั้งยังเป็นการช่วยกระตุ้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยภาพรวมในช่วงที่มีความเปราะบางทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ

นอกจากนี้ธนาคารยังมีโครงการช่วยเหลือลูกค้า SME ด้วยการให้สินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษภายใต้โครงการ “สินเชื่อบัวหลวงเพื่อการปรับตัวธุรกิจ (Bualuang Transformation Loan)” วงเงินโครงการ 20,000 ล้านบาท โดยพิจารณาให้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 10 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ 5% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี ผู้ประกอบการที่สนใจ ทั้งลูกค้าปัจจุบันหรือลูกค้าใหม่ สามารถติดต่อสมัคร สินเชื่อบัวหลวงเพื่อการปรับตัวธุรกิจ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 - 31 มกราคม 2568 (หรือเมื่อมีลูกค้าใช้สินเชื่อเต็มวงเงินของโครงการ) เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจ SME ในการฟื้นฟูธุรกิจและปรับตัวเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน

ธนาคารกรุงเทพลดดอกเบี้ย

ธนาคารกสิกรไทย 

ธนาคารกสิกรไทยประกาศปรับลดดอกเบี้ยช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง  0.25% สำหรับเงินกู้ที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เป็นระยะเวลา 6 เดือน ทั้งลูกค้าบุคคลและ SME ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด โดยกำหนดจำนวนประมาณ 200,000 ราย วงเงินสินเชื่อรวมประมาณ 82,000 ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 เพื่อช่วยเหลือลูกค้าในช่วงที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ซึ่งลูกค้าจะได้รับการปรับลดดอกเบี้ยแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องลงทะเบียน

ธนาคารกสิรกไทยลดดอกเบี้ย

ลูกค้ากลุ่มเปราะบางของธนาคารกสิกรไทย 2 กลุ่ม โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้

1.ลูกค้าบุคคล
-ลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อบ้าน” หรือ “สินเชื่อบ้านช่วยได้”  
-มีวงเงินอนุมัติรวมกับธนาคารกสิกรไทย ไม่เกิน 2,000,000 บาท ตามข้อมูลธนาคาร ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567
-มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน ตามการประเมินของธนาคาร ณ วันที่ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อดังกล่าวครั้งล่าสุด

2.ลูกค้า SME 

-มียอดค้างชำระเงินกู้กับธนาคารกสิกรไทย และวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนกับธนาคารกสิกรไทย รวมกันแล้วไม่เกิน 2,000,000 บาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 
-มียอดขายไม่เกิน 200,000 บาทต่อเดือน ตามการประเมินของธนาคาร ณ วันที่ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อดังกล่าวครั้งล่าสุด

โดยลูกค้ากลุ่มเปราะบางทั้ง 2 กลุ่มที่จะได้รับความช่วยเหลือ ต้องมีสถานะหนี้เป็นปกติ และยังไม่ได้รับการช่วยเหลือตามมาตรการอื่นๆ ของธนาคาร นอกจากนี้ถ้าลูกค้ากลุ่มเปราะบางใช้ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ประเภท ทั้งสินเชื่อบ้าน และ สินเชื่อ SME และเข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว จะได้รับการลดดอกเบี้ยทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้การคัดเลือกลูกค้าขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของธนาคารเป็นที่สิ้นสุด

ทั้งนี้ลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่ได้รับการพิจารณาจากธนาคารในโครงการความช่วยเหลือนี้จะได้รับการปรับลดดอกเบี้ยแบบอัตโนมัติ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ และไม่ต้องลงทะเบียน ซึ่งธนาคารจะดำเนินการส่ง SMS แจ้งให้ลูกค้าท่านนั้นทราบ (โดยไม่มีการแนบ Link) ตามเบอร์โทรศัพท์ที่ได้ให้ไว้กับธนาคาร และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ LINE @kbanklive หรือลูกค้าบุคคลติดต่อได้ที่ K-Contact Center 02-8888888 ลูกค้า SME ติดต่อได้ที่ K-BIZ Contact Center 02-8888822  ได้ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป

ธนาคารไทยพาณิชย์ 

SCB ช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคลและ SME รายย่อย โดยลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% ระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ซึ่งดอกเบี้ยจะปรับลดลงให้อัตโนมัติ ลูกค้าไม่ต้องลงทะเบียน

ลูกค้ากลุ่มเปราะบางของธนาคารไทยพาณิชย์ มี 2 กลุ่ม โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้

1.ลูกค้าบุคคล

สินเชื่อบ้าน และ My Home My Cash สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 2 ล้านบาท

2.ลูกค้า SME รายย่อย

สินเชื่อธุรกิจ ประเภทเงินกู้ระยะยาว (Long-Term Loan) สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินสินเชื่อรวม ไม่เกิน 2 ล้านบาท

โดยพิจารณาจากยอดค้างชำระเงินกู้ระยะยาว และวงเงินสินเชื่อหมุนเวียน ลูกค้าสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SCB Call Center โทร. 02-777-7777

ธนาคารไทยพาณิชย์ลดดอกเบี้ย

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MRR MLR และ MOR ลง 0.25% เป็นระยะเวลานาน 6 เดือน สำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และผู้ประกอบการ SME เป็นเวลา 6 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 67 – 15 พ.ย. 67

สำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่ได้รับความช่วยเหลือภายใต้มาตรการดังกล่าว มีดังนี้

  1. ลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นลูกค้าปัจจุบันที่มีวงเงินอนุมัติรวมไม่เกิน 2 ล้านบาท (ตามข้อมูลธนาคาร ณ วันที่ 31 มี.ค. 2567) และมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน (ตามการประเมินของธนาคาร ณ วันที่ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อดังกล่าวครั้งล่าสุด)
  2. ลูกค้าผู้ประกอบการ SME ซึ่งเป็นลูกค้าปัจจุบันครอบคลุมทั้งที่เป็นลูกค้าบุคคลและนิติบุคคล ที่มีวงเงินสินเชื่อธุรกิจรวมไม่เกิน 2 ล้านบาท (ตามข้อมูลธนาคาร ณ วันที่ 31 มี.ค. 2567) และมียอดขายไม่เกิน 200,000 บาทต่อเดือน (ตามการประเมินของธนาคาร ณ วันที่ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อดังกล่าวครั้งล่าสุด)

ทั้งนี้ ลูกค้าต้องมีบัญชีสถานะปกติ (ไม่มีการค้างชำระ) โดยธนาคารจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบางทั้ง 2 กลุ่มอัตโนมัติ ลูกค้าไม่ต้องลงทะเบียน ดูข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ https://bit.ly/announce-interestrate-fbสำหรับลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ติดต่อสอบถาม Krungsri Call Center 1572 สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการ SME ติดต่อสอบถามโทร 0 2296 6262 หรือ 0 2626 2626

ธนาคารกรุงศรีฯลดดอกเบี้ย

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี

ประกาศพร้อมช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง จากปัญหาสภาพคล่องทางการเงินและภาระหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น โดยการลดดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี สำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย MRR, MLR และ MOR โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 2567 - 15 พ.ย. 2567 เป็นระยะเวลา 6 เดือน

โดยลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่จะได้รับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้แก่ 

  1. ลูกค้าสินเชื่อบ้าน ที่มีรายได้รวมเฉลี่ยต่อเดือน ไม่เกิน 30,000 บาท และมีวงเงินอนุมัติไม่เกิน 2 ล้านบาท 
  2. ลูกค้าสินเชื่อเอสเอ็มอี ที่มีรายได้ในปี พ.ศ. 2565 ไม่เกิน 30 ล้านบาท และมีวงเงินอนุมัติไม่เกิน 5 ล้านบาท

ทั้งนี้หากดูเฉพาะธนาคารพาณิชย์ที่มีการเปิดเผย “ลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง” ที่จะได้รับการลดดอกเบี้ยครั้งนี้ทั้งลูกหนี้บุคคลรายย่อย และลูกหนี้เอสเอ็มอี มีบัญชีที่เข้าข่ายอยู่ราว 7.4 แสนบัญชี หรือคิดเป็นวงเงินสินเชื่อรวมเกือบ 4 แสนล้านบาท

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT