ข่าวเศรษฐกิจ

สรุปโครงการ แจกเงิน  Digital Wallet 10,000 บาท ใครได้บ้างไม่ได้บ้าง

10 พ.ย. 66
สรุปโครงการ แจกเงิน  Digital Wallet 10,000 บาท ใครได้บ้างไม่ได้บ้าง

ในที่สุดนโยบายเรือธงอย่าง เงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาทก็ชัดเจนซักที เมื่อวันนี้ นายกรัฐมนตรี  เศรษฐา ทวีสิน ประกาศพร้อมเดินหน้า นโยบาย Digital Wallet 10,000 บาทหวังกระตุ้นเศรษฐกิจไทยครั้งใหญ่ให้เติบโต 5% 

โดยมีการสรุปเงื่อนไขทั้งคุณสมบัติของผู้ได้รับสิทธิ์ หลังจากถกเถียงกันมาระยะหนึ่ง สรุปแล้วคือ ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไป มีเงินเดือนต่ำกว่า 70,000 บาท หรือมีเงินในบัญชีรวมกันทุกบัญชีน้อยกว่า 500,000 บาท คือผู้ที่ได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 

SPOTLIGHT สรุปความชัดเจนของนโยบายเงินดิจิทัล วอลเล็ต กันแบบชัดๆ 

 

สรุปโครงการ แจกเงิน  Digital Wallet 10,000 บาท

สรุปโครงการ แจกเงิน  Digital Wallet 10,000 บาท ใครได้บ้างไม่ได้บ้าง

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ณ ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลสรุปการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ครั้งที่ 2/2566 จากเหตุที่เวลานี้ ประเทศไทยต้องกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่  เนื่องจาก 10 ปีที่ผ่านมาเติบโตเฉลี่ยเพียง 1.9% รั้งท้ายประเทศในกลุ่มอาเซียน  เกิดความเหลื่อมล้ำ หนี้ครัวเรือนสูง ภาคการผลิตอ่อนแอ ปัจจัยภายนอกรุมเร้า ทำให้รัฐบาลจะเร่งดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว ระยะสั้นเน้นลดค่าใช้จ่ายประชาชน และ หนึ่งในนั้นคือ  นโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท โครงการนี้จะสามารถ กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่มีความสำคัญต่อประเทศไทย จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสให้ประชาชน ได้

 

เงินดิจิทัลวอลเล็ตใครได้สิทธิบ้าง 

-ประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
- มีเงินเดือนต่ำกว่า 70,000 บาท หรือมีเงินในบัญชีรวมกันทุกบัญชี น้อยกว่า 500,000 บาท

โดยคิดเป็นจำนวนประชากรผู้ได้รับสิทธิ์จำนวน 50 ล้านคน ถือว่าเป็นไปตามคำแนะนำของธนาคารแห่งประเทศไทยและสภาพัฒน์ฯ   นายกฯระบุว่า ตัดสินใจเลือกเกณฑ์นี้ เพราะ คนกลุ่มรายได้ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากกว่าอีกกลุ่มอย่างมีนัยยะสำคัญ 

เงินดิจิทัลวอลเล็ตใช้อย่างไร 

  • ใช้ผ่านแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง
  • ต้องมีการลงทะเบียนรับสิทธิ์

เพราะเวลานี้คนไทยได้ลงทะเบียนในโครงการที่ผ่านมาแล้วกว่า 40 ล้านคน อีกทั้งยังมีร้านค้าร่วมลงทะเบียนมากถึง 1.8 ล้านราย ดังนั้นการเลือกใช้ ระบบเป๋าตัง จะช่วยลดเวลา ประหยัดงบประมาณ และลดความซ้ำซ้อนในการสร้างและรักษาระบบลงไปได้

สรุปโครงการ แจกเงิน  Digital Wallet 10,000 บาท ใครได้บ้างไม่ได้บ้าง

เงินดิจิทัลวอลเล็ตใช้ซื้ออะไรได้บบ้าง?

  • เงินดิจิทัล ซื้อได้เฉพาะอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภค บริโภค และใช้ได้กับร้านค้าที่อยู่ในอำเภอเดียวกับบัตรประชาชนเท่านั้น ใช้ได้ทุกร้าน ไม่ได้จำกัดแต่ร้านที่อยู่ในระบบภาษี ไม่จำเป็นต้องจด VAT


เงินดิจิทัลวอลเล็ตใช้ซื้ออะไรไม่ได้? 

  • ไม่สามารถซื้อการบริการต่างๆ 
  • ไม่สามารถซื้อสินค้าออนไลน์ ได้
  • ไม่สามารถซื้อเหล้า บุหรี่ กัญชา กระท่อม  
  • ไม่สามารถซื้อบัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย 
  • ไม่สามารถจ่ายเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเทอม 
  • ไม่สามารถซื้อน้ำมันเชื้อเพลิง แก๊ส 
***ทั้งนี้ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์เงินดิจิทัลจะแลกเป็นเงินสดไม่ได้ แลกเปลี่ยนในตลาดต่างๆ ไม่ได้
เฉพาะร้านค้าที่จะขึ้นเงินได้ต้องอยู่ในระบบภาษีเท่านั้น ***

ใช้ได้กับร้านค้าที่อยู่ในอำเภอเดียวกับบัตรประชาชนเท่านั้น โดยสามารถใช้ซื้อสินค้าได้ทุกร้านค้า ไม่ได้จำกัดแต่ร้านที่อยู่ในระบบภาษี ไม่จำเป็นต้องจด VAT แต่ต้องมีการลงทะเบียนรับสิทธิ และร้านค้าที่จะขึ้นเงินได้ต้องอยู่ในระบบภาษีเท่านั้น 

 

เงินดิจิทัลวอลเล็ตใช้ได้เมื่อไหร่ 


โครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะเริ่มใช้ได้จริงประมาณ เดือนพฤษภาคม 2567  โดยการอัดฉีดครั้งแรกมีระยะเวลา 6 เดือนเพื่อให้เงินมีการหมุนเวียน และสามารถใช้จับจ่ายต่อได้จนถึงเดือนเมษาปี 2570 

 

เงินดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบาลเอาเงินมาจากไหน

สรุปโครงการ แจกเงิน  Digital Wallet 10,000 บาท ใครได้บ้างไม่ได้บ้าง

วงเงินรวมที่ใช้ในโครงการนี้คือ 6   แสนล้านบาท แบ่งเป็น รัฐบาลนำเงิน มาจาก พรบ.การกู้เงิน วงเงิน 500,000 ล้านบาท ผสมกับงบประมาณ 100,000 ล้านบาท  ระบุวัตถุประสงค์ของการกู้เงิน ระยะเวลาในการกู้เงิน แผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้ วงเงินที่อนุญาตให้ใช้จ่ายเงินกู้ และหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินแผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้ในโครงการ Digital Wallet  

อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะทำการกู้เงิน ก็ต่อเมื่อ มีการนำเงินไปใช้และนำมาขึ้นเป็นเงินสด ซึ่งนี่จะเป็นการทำให้เงินในระบบทั้งหมดใหญ่ขึ้นกว่า 500,000 ล้าน ซึ่งจะหมุนเวียนและกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยยะ ผสมกับงบประมาณ 100,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการที่กล่าวไปทั้งหมด 

“ทุกท่านไม่ต้องห่วงเรื่องของการใช้เงินคืน รัฐบาลจะมีแผนจัดสรรเงินงบประมาณมาเพื่อจ่ายคืนเงินส่วนที่เป็นเงินกู้ตลอดระยะเวลา 4 ปี”นายกฯ กล่าว 

นายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า นโยบาย Digital Wallet ไม่ใช่การสงเคราะห์ประชาชนผู้ยากไร้ แต่เป็นการเติมเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจผ่านสิทธิการใช้จ่าย เพื่อให้ประชาชนมีบทบาทร่วมกับรัฐบาล (Partnership) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ผ่านสิทธิการใช้จ่าย 10,000 บาท

นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้เสนอนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นและระยะยาวเพิ่มเติมจากกระเป๋าเงินดิจิทัล อีก 2 นโยบาย คือ นโยบาย e-refund เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายร้านค้าออนไลน์ และกองทุนเพิ่มขีดความสามารถ เพื่อนำมาต่อยอดอุตสาหกรรมใหม่ๆของประเทศ เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมดิจิทัล การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ การพัฒนาบุคลากรและการศึกษา เป็นต้น

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT