ข่าวเศรษฐกิจ

มติเป็นเอกฉันท์ 'สีจิ้นผิง’ อยู่ต่อเป็นประธานาธิบดีจีนสมัยที่ 3 ตามคาด

10 มี.ค. 66
มติเป็นเอกฉันท์ 'สีจิ้นผิง’ อยู่ต่อเป็นประธานาธิบดีจีนสมัยที่ 3 ตามคาด

ประธานาธิบดี ‘สีจิ้นผิง’ ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 3 ของจีนอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดตัวคณะกรรมการกรมการเมืองระดับสูงประจำพรรคคอมมิวนิสต์ชุดใหม่

วันนี้ (10 มี.ค.) นาย สีจิ้นผิง ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีของจีนเป็นสมัยที่ 3 อย่างเป็นทางการ หลังผู้เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 ทั้ง 2,952 คนลงมติเป็นเอกฉันท์ให้สีจิ้นผิงไปต่อในฐานะผู้นำอีก 5 ปีอย่างไร้เงาคู่แข่ง

การขึ้นดำรงตำแหน่งของสีจิ้นผิงในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ยาวนานที่สุด นับตั้งแต่มีการจัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนขึ้นมา เมื่อปี 1949 เพราะก่อนหน้านี้รัฐธรรมนูญของจีนห้ามไม่ให้ผู้ใดดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเกิน 2 สมัย แต่กฎนี้ก็ถูกยกเลิกไปเมื่อวันที่ 25 ก.พ.2018 หลังจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ลงมติยกเลิกบทบัญญัติดังกล่าว ทำให้สีจิ้นผิงสามารถดำรงตำแหน่งได้ยาวนานตลอดชีพหากไม่มีใครขึ้นมาแข่ง

โดยภายหลังจากที่ได้รับโหวตให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อเป็นสมัยที่ 3 แล้ว สีจิ้นผิงก็ได้ทำพิธีปฏิญาณตน โดยมีการแตะมือลงบนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเป็นเอกสารที่เปิดทางให้มีการสืบต่ออำนาจครั้งประวัติศาสตร์ในครั้งนี้

33aw3fj-highres

นอกจากตำแหน่งประธานาธิบดีของจีนแล้ว สีจิ้นผิงยังดำรงตำแหน่งสำคัญอีก 2 ตำแหน่ง คือ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลางของจีน ที่เขาได้รับเลือกดำรงตำแหน่งต่อทั้ง 2 ตำแหน่งในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา

 

เปิดตัวคณะบริหารใหม่ คาด ‘หลี่ เฉียง’ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่

นอกจากการลงมติเลือกประธานาธิบดีคนใหม่แล้ว ในวันนี้ยังมีการลงมติเลือกผู้ดำรงตำแหน่งใหม่อีก 3 ตำแหน่ง คือ ‘ประธานรัฐสภา’ และ ‘รองประธานาธิบดี’ ซึ่งได้ 2 สมาชิกคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนมารับตำแหน่งตามคาด

จากรายงานของ SCMP ผู้ดำรงตำแหน่ง ประธานรัฐสภาคนใหม่ คือ ‘จ้าว เล่อจี้’ (Zhao Leiji) อดีตเลขาธิการของคณะทำงานปราบปรามคอรัปชั่นของจีน (CCDI) ส่วนรองประธานาธิบดีคนใหม่ คือ ‘หาน เจิ้ง’ (Han Zheng) อดีตรองนายกรัฐมนตรีที่กลับมาร่วมงานกับสีจิ้นผิงอีกครั้ง

หลังจากแต่งตั้งสองตำแหน่งดังกล่าวแล้ว ในอีกสองวันหลังจากนี้ สีจิ้นผิงก็จะเริ่มแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญอื่นๆ ในกลุ่มผู้บริหารระดับสูง เช่น นายกรัฐมนตรี และ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งสื่อต่างๆ คาดว่าจะกลายเป็นของกลุ่มผู้ภักดีกับสีจิ้นผิงทั้งหมด แบบไม่มีขั้วอำนาจอื่นมาคานหรือขัดขวางการทำงาน

โดยคาดการณ์ว่า สีจิ้นผิงน่าจะแต่งตั้ง ‘หลี่ เฉียง’ (Li Qiang) นักการเมืองคนสนิท และอดีตเลขาธิการพรรคประจำมหานครเซี่ยงไฮ้ขึ้นดำรงตำแหน่ง ‘นายกรัฐมนตรี’ ถือได้ว่า เป็นตำแหน่งที่มีอำนาจสูงสุดเป็นลำดับที่ 2 รองจากประธานาธิบดี และแต่งตั้ง ‘ติง ซู่เสียง’ (Ding Xuexiang) นักการเมืองสายวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ ขึ้นเป็นรองนายกรัฐมนตรีคนใหม่

33aw2dg-highres

 

มุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เน้นปฏิรูปและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หลังการฟอร์มทีมบริหารระดับสูงในครั้งนี้ นักวิเคราะห์ คาดว่าภารกิจสำคัญของคณะบริหารชุดใหม่ ก็คือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการระบาดของโควิด ซึ่งทั้งหมดจะต้องแสดงฝีมืออย่างเต็มที่ เพราะล้วนแต่เป็นคนสนิทใกล้ชิดกับสีจิ้นผิง ทำให้ผลงานของผู้บริหารชุดนี้ จะสะท้อนความสามารถในการเป็นผู้นำของสีจิ้นผิงโดยตรง

วันเดียวกัน มีการประชุมของสมาชิกสมัชชาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน ได้ลงมติเห็นชอบให้มีการปฏิรูปสถาบันหลายสถาบันภายใต้คณะมนตรีรัฐกิจสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึง การจัดตั้งหน่วยงานเพื่อดูแลด้านการเงิน หน่วยงานด้านข้อมูลแห่งชาติ และการปฏิรูปหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อทำให้การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับสูงเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากปัญหาด้านเศรษฐกิจแล้ว ปัญหาอื่นๆ ที่ต้องเร่งแก้ไข คือ ปัญหาประชากรที่มีจำนวนลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปีเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ด้วยอัตราเกิดลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เหลือ 6.77 คน ต่อประชากร 1,000 คน

สำหรับรัฐบาลชุดนี้ยังต้องเร่งแก้ไข้ คือ ปัญหาที่เกิดจากความขัดแย้งด้านการทูต และการค้ากับสหรัฐฯ และชาติตะวันตกอื่นๆ อีก หลังจากความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับชาติตะวันตกเลวร้ายลงอย่างมากใน 1-2 ปีที่ผ่านมา เพราะข้อขัดแย้งเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน ความขัดแย้งทางการทหาร รวมไปถึงการที่จีนยังคงแสดงท่าทีเป็นมิตรกับรัสเซียหลังรัสเซียเข้าบุกยูเครนเมื่อต้นปี 2022 ที่ผ่านมา

โดยในการประชุมเมื่อวันจันทร์ที่ 6 มกราคม สีจิ้นผิงได้ออกปากกล่าวหาสหรัฐฯ อย่างเปิดเผยว่า เป็นผู้นำแผนการที่ขัดขวางการเจริญเติบโตของจีน และทำให้จีนมีปัญหาด้านการพัฒนาภายในประเทศมากมายในปัจจุบัน

 

ที่มา: SCMP, CNN



advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT