ราคาข้าวพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงนับตั้งแต่รัสเซียใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน เทรดเดอร์เชื่อว่า ข้าวจะกลายเป็นทางเลือกที่ประชาชนหันมาบริโภคแทนข้าวสาลีซึ่งได้กลายมาเป็นสินค้าราคาแพงในช่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งน้ำมัน ทองคำ ไม่เว้นแม้แต่ ข้าวและข้าวสาลี ทั้งนี้เพราะข้าวสาลีเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของทั้งรัสเซียและยูเครนทั้งคู่ โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 25% ของการค้าข้าวสาลีทั่วโลก ขณะที่ยอดส่งออกข้าวโพดคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของตลาดโลก ขณะที่การขนส่งสินค้าในภูมิภาคทะเลดำกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการณ์ตึงเครียดในครั้งนี้
อาร์แลน ซูเดอร์แกน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จากบริษัทสโตนเอ็กซ์ บอกว่า "ทุกคนพยายามซื้อธัญพืชทุกชนิดที่สามารถนำไปผลิตแป้งได้ การที่อุปทานข้าวสาลีในตลาดโลกประสบปัญหาตึงตัวอย่างหนักได้ทำให้ทุกประเทศหันไปซื้อข้าวแทน เพื่อที่จะรองรับความต้องการของประชาชน"
ราคาสินค้าทุกประเภทตั้งแต่ข้าวสาลีไปจนถึงน้ำมันและปุ๋ยกำลังปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนได้จุดชนวนความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวยิ่งทำให้ภาวะเงินเฟ้อรุนแรงขึ้นในช่วงเวลาที่ความต้องการเร่งด่วนก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย
ล่าสุด ขณะนี้ราคาข้าวพุ่งขึ้น 4.2% แตะที่ 16.89 ดอลลาร์/100 ปอนด์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2563 และตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ราคาข้าวจะพุ่งขึ้นถึง 11% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2561
อย่างไรก็ดี ปริมาณข้าวในตลาดโลกยังคงมีอยู่มาก เนื่องจากอินเดียซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่สุดของโลกมีการส่งออกข้าวมากขึ้น และคาดว่าสต็อกข้าวทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นราว 4 แสนตัน ส่วนในสหรัฐนั้น การเพาะปลูกข้าวในฤดูใบไม้ผลิได้เริ่มขึ้นแล้วในรัฐลุยเซียนาและพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่งของรัฐเท็กซัส โดยผลผลิตราวครึ่งหนึ่งในพื้นที่เหล่านี้จะถูกส่งออกไปยังตลาดโลก
ขณะที่ นาย ชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ประเมินว่า สถานการณ์ราคาข้าวมีโอกาสจะปรับราคาสูงขึ้นได้จากภาวะสงคราม แต่จะไม่มากนัก เพราะ กลุ่มผู้บริโภคข้าวสาลี เป็นคนละกลุ่มกับ ข้าว ความต้องการข้าว จึงไม่น่าสูงอย่างก้าวกระโดด ที่สำคัญ ปริมาณสต็อกข้าวโลกยังสูงมาก และอินเดีย ยังส่งออกข้าวได้อย่างมาก โดยในปี ที่แล้ว อินเดียส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลก ที่ 20 ล้านตัน มากกว่า ที่ 2 และที่ 3 รวมกันด้วยซ้ำ โดยอันดับ 2 เวียดนามส่งออกข้าว 6.5 ล้านตัน ส่วนไทย ส่งออกที่ 3 6.1 ล้านตัน ส่วนในปี 2565 ไทยตั้งเป้าส่งออกข้าว 7 ล้านตัน สูงขึ้นจากปีก่อน ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์สงครามรัสเซีย ยูเครนใกล้ชิดต่อไป