ธุรกิจการตลาด

เปิดวิธีปั้นคอนเทนต์มัดใจลูกค้าให้ปังและเป็นที่จดจำ ตามหลัก 'Interesting Base'

17 พ.ย. 66
เปิดวิธีปั้นคอนเทนต์มัดใจลูกค้าให้ปังและเป็นที่จดจำ ตามหลัก 'Interesting Base'

ในปัจจุบัน คอนเทนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการทำการตลาดให้กับสินค้าหรือแบรนด์ เพราะมันเป็นสิ่งที่จะสื่อสารทั้งตัวตน เอกลักษณ์ และความเชี่ยวชาญของตัวแบรนด์ให้กับผู้บริโภค ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคชื่นชอบ และเชื่อถือตัวแบรนด์จนตัดสินใจเข้ามาซื้อสินค้าและบริการได้

แต่ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่สำคัญในการทำการตลาดยุคใหม่ การปั้นคอนเทนต์ให้ประทับใจผู้ชม หรือมีอิมแพคจนเป็นที่พูดถึงเป็นวงกว้างนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำกันง่ายๆ อีกทั้งยังดูเหมือนไม่มีสูตรสำเร็จช่วย เพราะคอนเทนต์ที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบันนั้นก็มีลักษณะเด่นแตกต่างกันไป จนเหมือนเป็นเรื่องของโชค จังหวะ หรือ ‘ของ’ ที่มีอยู่ในตัวครีเอเตอร์แต่ละคนมากกว่า

อย่างไรก็ตาม สำหรับ คุณคิว-ธีระฑัต หนูดำ เจ้าของเพจ คยต Live ใดๆ ในโลกล้วนการตลาด และ CEO จงทำ คอมเมิร์ซ บริษัทฝึกอบรมการตลาดด้วยหลักสูตรคนจีน ซึ่งได้มาเป็นวิทยากรในหัวข้อ ‘ปั้นคอนเทนต์อย่างไรให้ปัง! ในโลกธุรกิจออนไลน์ยุคต่อไป’ ในงาน Spotlight Day 2023 คอนเทนต์ดีๆ นั้นมีหลักการในการออกแบบอยู่ และใครๆ ก็เป็นครีเอเตอร์เจ้าของคอนเทนต์ปังๆ ได้หากจับจุดถูกว่าลูกค้านั้น ‘สนใจ’ และ ‘อยากได้’ อะไร

 

คอนเทนต์คือข้อมูลที่ปั้น ‘มุมมอง’ ของคนที่มีต่อแบรนด์

สำหรับคุณคิว คอนเทนต์คือข้อมูลที่นักการตลาดสื่อสารเกี่ยวกับแบรนด์ไปยังลูกค้า เพื่อสร้าง ‘มุมมอง’ ของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ ซึ่งในที่สุดจะส่งผลต่อความรู้สึกของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ ก่อนที่ความรู้สึกนี้จะเป็นตัวกำหนดว่าลูกค้านั้นชอบแบรนด์เรา และอยากจะเข้ามาซื้อของหรือบริการของเราหรือไม่

ดังนั้น สิ่งที่นักการตลาดต้องคำนึงถึงเมื่อออกแบบคอนเทนต์คือตัวตนหรือเอกลักษณ์ของแบรนด์หรือสินค้าที่เราอยากให้ลูกค้าเป้าหมายของเรารู้จัก ที่เมื่อชัดเจนแล้วเราจะสามารถกำหนดเนื้อหาและโทนได้ว่าคอนเทนต์ที่เราต้องทำนั้นต้องเป็นอย่างไร และต้องสื่อสารอะไรให้ลูกค้ารู้บ้าง

 

ตัวตนและคอนเทนต์ต้องอยู่ในบริบทที่ลูกค้า ‘สนใจ’

อย่างไรก็ตาม คำถามต่อมาก็คือแล้วตัวตนหรือข้อความที่เราจะสื่อออกไปนี้ต้องเป็นอย่างไรล่ะจึงจะมัดใจลูกค้าได้ 

สำหรับข้อนี้ คุณคิวมองว่าเราในฐานะครีเอเตอร์ไม่สามารถดึงให้ลูกค้ามาสนใจเราได้ แต่เราต้องดูว่าลูกค้านั้นสนใจอะไรอยู่แล้วปรับคอนเทนต์ของเราให้เข้ากับความสนใจของลูกค้า หรือเรียกว่า การสร้างคอนเทนต์แบบ ‘interesting base’

เช่น หากต้องการขายสินค้าสำหรับเด็ก คอนเทนต์ที่เราต้องทำก็คือคอนเทนต์เลี้ยงเด็ก ซึ่งเราจะต้องทำซ้ำๆ อย่างสม่ำเสมอจนคนมีภาพจำว่าเรานั้นเป็นคนมีครอบครัว หรือเป็นคนเลี้ยงเด็ก และหากคนติดภาพเราและชื่นชอบในตัวตนของเราไปแล้ว ไม่ว่าเราจะใช้สินค้าอะไร คนดูของเราก็จะอยากใช้ตามไปด้วย เพราะคนดูรู้สึกดีกับเรา และอารมณ์ความรู้สึกดีนี้จะส่งผลในทางจิตวิทยาให้อยากใช้ของตามที่เราใช้

 

คนไม่ได้ซื้อสินค้ามาแก้เพนพอยต์ แต่เพราะอยากเข้าถึง ‘อุดมคติ’

นอกจากนี้ สิ่งหนึ่งที่ครีเอเตอร์ต้องคำนึงถึงในการขายสินค้าคือ ในปัจจุบันนั้น ผู้บริโภคส่วนมากไม่ได้ซื้อสินค้าเพราะจำเป็นต้องใช้ เพราะสินค้านั้นมีคุณภาพกว่ายี่ห้ออื่น หรือเพื่อมาแก้ ‘เพนพอยต์’ อย่างเป็นเหตุเป็นผล แต่ปัจจุบันคนซื้อของเพราะต้องการเข้าถึง ‘อุดมคติ’ อะไรบางอย่าง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ หรืออื่นๆ ที่ไม่ได้มีคุณภาพแตกต่างกันนัก

อย่างเช่น การที่ผู้บริโภคบางคนอาจตัดสินใจเลือกซื้อลิปสติกเพราะเห็นคนดัง คนที่ชอบ หรือนางเอกในซีรีส์ที่ได้จูบกับพระเอกที่เราชอบใช้ ไม่ใช่เพราะไปนั่งดูและเปรียบเทียบคุณภาพจริงจังว่าลิปสติกอะไรเหมาะกับตัวเองที่สุด หรือการที่คนไปซื้อรถตามที่โทนี่ สตาร์กใช้ในเรื่องไอรอนแมน เพราะอยากทำให้ตัวเองเข้าใกล้อุดมคตินั้น

ดังนั้น เมื่อคิดจะสร้างคอนเทนต์เพื่อปั้นตัวตนของตัวเองขึ้นมาในสายตาผู้บริโภค เราต้องทำตัวให้กลายเป็น ‘อุดมคติ’ ของผู้ชมที่เขาอยากไปให้ถึง ไม่ว่าจะเป็นคนสวย คนเก่ง คนที่มั่นใจในตัวเอง คนดัง หรือคนแบบใดก็ตาม 

เพราะฉะนั้นการสร้างคอนเทนต์ที่ดีจึงไม่ใช่การแสดงตัวตนที่แท้จริงของตัวเองแบบไม่ปรุงแต่ง แต่เกิดจากการวางแผนสร้างตัวตนนั้นขึ้นมาอย่างมีเป้าหมายและระบบ เพื่อให้ตัวตนของเราเป็นสิ่งที่คนชื่นชอบ และมีความรู้สึกที่ดีกับเรา และสิ่งเหล่านี้เองจะทำให้เรามีความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับฟอลโลเวอร์ ที่ไม่ว่าเห็นเราใช้อะไรก็อยากใช้ตาม หรือเชื่อในสิ่งที่เราบอกว่าดี

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT