คุมตัว "พูล้า" มือฆ่าปาดคอชี้จุด สารภาพก่อเหตุจริง ก่อนพาตัวฝากขัง

18 ก.ย. 61
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพยายและหลานสาว ถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิตในบ้านพักที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 ก.ย. 61 ในที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิต ชื่อ นางมะลิ อิ่มสวัสดิ์ อายุ 68 ปี และด.ญ.อิสยา เพิกเฉย อายุ 12 ปี ส่วนอีก 1 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส ชื่อ ด.ญ.อาภารัตน์ สำรวย หรือ น้องข้าวหอม อายุ 9 ปี โดยมีแมวถูกฆ่าตายด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าว
วันที่ 18 ก.ย.61 พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า หลังจับกุมตัวนายพูล้าได้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปชี้จุดตามเส้นทางหลบหนี , ร้านทองใน จ.ยโสธร ที่นำของกลาง สร้อยทองไปขาย และจุดที่นำเสื้อผ้าเปื้อนเลือดไปทิ้ง ก่อนนำตัวมาถึง จ.สมุทรปราการ เมื่อประมาณตี 3 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเปลี่ยนสถานที่ฝากขังผู้ต้องหาจาก สภ.พระประแดง มาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะมีญาติและประชาชนไปรอจำนวนมาก
ของกลาง
ในขณะที่กำลังสอบปากคำนายพูล้า เจ้าตัวไม่มีท่าทางเครียดหรือกังวลแต่อย่างใด ส่วนของกลางทั้งหมด เจ้าหน้าที่สามารถติดตามคืนมาได้แล้ว เบื้องต้นแจ้งข้อหานายพูล่า 4 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา , พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ ข้อหาตาม พรบ.ทารุณกรรมสัตว์
นายพูล้า จำลองสถานการณ์ตอนเกิดเหตุ
เวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายพูล้า มาจำลองเหตุการณ์เพื่อประกอบคำรับสารภาพ คดีที่ก่อเหตุฆ่าปาดคอและชิงทรัพย์ โดยระหว่างการจำลองเหตุการณ์ผู้ต้องหามีสีหน้าเรียบเฉย ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้นำภาพวิดีโอ ตอนเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและจุดต่าง ๆ ตามคำให้การของผู้ต้องหา มาอธิบายลำดับเหตุการณ์ต่อสื่อมวลชน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายพูล้าออกไปทันที โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ และไม่ได้มีการนำตัวมาร่วมแถลงข่าวด้วยแต่อย่างใด โดยระบุเหตุผลว่า ผู้ต้องหาไม่ประสงค์ที่จะแถลงข่าว และไม่ไปขอขมาศพผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหาตามกฎหมาย แต่สมัครใจจำลองเหตุการณ์แต่ให้มีทนายความอยู่ด้วย
พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1
ขณะที่ในส่วนของการแถลงข่าวครั้งนี้ มี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร.พร้อมด้วยพล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกันแถลงข่าวโดยระบุว่าหลังเกิดเหตุ ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวนายพูล้าพร้อมติดตามของกลาง สร้อยคอพร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ ต่างหูทองคำ 1 คู่ และเงินสด 5,629 บาท นายพูล้า ให้การสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุจริง โดยทำเพียงคนเดียว เนื่องจากต้องการเงินไปซื้อยาเสพติด โดยเสพยาบ้าไป 1 เม็ด และเห็นนางมะลิขายของชำ และใส่ทอง จึงคิดว่าน่าจะมีเงิน จึงปีนรั้วบ้านของผู้ตายเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องครัวประมาณตี 3 ใช้มีดในครัวฆ่าแมว เพื่อทดลองคมมีด จากนั้นปีนเข้าไปภายในบ้าน ผ่านทางช่องลม และแอบอยู่ในห้องน้ำ กระทั่งผู้ตายมาเข้าห้องน้ำเจอนายพูล้าจึงใช้มีดปาดคอจนเสียชีวิต ก่อนจะปาดคอ ด.ญ.อิสยา ซึ่งนอนอยู่บนเตียงเสียชีวิต และปาดคอ ด.ญ.อาภารัตน์ บาดเจ็บสาหัส ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่มีเสียงคนร้องตะโกนขึ้นมาข้างบ้าน จึงหยิบทรัพย์สินที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์ของผู้ตาย หลบหนีออกจากบ้านทันที โดยนั่งรถจักรยานยนต์ รับจ้างไปลงหน้าห้างแห่งหนึ่ง และเรียกรถแท็กซี่ไปลงสถานีขนส่งหมอชิต โดยซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยน และนำเสื้อที่ใส่ก่อเหตุ ทิ้งไว้ในห้องน้ำภายในสถานีขนส่ง จากนั้นนั่งรถโดยสารไปลงจังหวัดยโสธรโดยจ่ายเงินให้คนขับ 1,200 บาท เนื่องจากไม่มีบัตรแรงงานต่างด้าว โดยนั่งคู่กับคนขับ และให้คนขับพาไปขายสร้อยที่ร้านทอง อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เงินสด 7,500 บาท จากนั้น นั่งรถโดยสารต่อไปลงที่สถานีขนส่งมุกดาหาร ว่าจ้างรถสามล้อไปส่งริมโขง ชุมชนนาโป โดยติดต่อเช่าเหมาเรือให้พาข้ามไปส่งฝั่งลาว แต่เนื่องจากคนขับเรือเห็นข่าว จึงเเจ้งให้ตำรวจทราบ โดยเบื้องต้นตำรวจแจ้ง 5 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย , ทารุณกรรมสัตว์ และเป็นบุคคลต่างด้าวอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยใบอนุญาตสิ้นสุด ส่วนการนำตัวไปขอขมาศพ เบื้องต้นผู้ต้องหาไม่สมัครใจที่จะเดินทางไป โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายพูล้าไปฝากขังวันนี้ เนื่องจากครบกำหนดการควบคุมตัว 48 ชม  

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ