กรณีเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ก.ค.64 ร.ต.ท.ศิวกร พลศักดิ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ครบุรี รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิต 3 ศพ ในโรงเพาะเห็ดแห่งหนึ่ง ใน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา จึงพร้อมอาสากู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิฮุก 31 โคราช จุดครบุรี ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 3 ศพ เป็นชาย 1 คน นอนหงาย และอีก 2 คน นั่งคว่ำหน้าทับร่างส่วนบนของชายที่นอนหงาย อยู่ด้านในโรงเพาะเห็ดฟาง ขนาดความกว้างประมาณ 6 เมตรยาว 12 เมตร ปิดด้วยผ้าใบโดยรอบทั้งโรงเรือน เสียชีวิตจากแก๊สพิษภายในโรงเห็ด
ทราบชื่อต่อมา 1.น.ส.สายพิณ อัคคีสำโรง อายุ 43 ปี 2.นายบุญเหลือ ชันนอก อายุ 47 ปี สามี 3.นายณัฐพล อัคคีสำโรง อายุ 27 ปี หลานชาย
วันที่ 12 ก.ค. 64 เวลา 15.30 น. ครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน ได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 1 รูป มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ที่จุดเกิดเหตุ บริเวณโรงเพาะเห็ดฟาง ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
เมื่อญาติผู้เสียมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ระหว่างรอศพของทั้ง 3 มาถึง นางจอมขวัญ อัคคีสำโรง อายุ 61 ปี แม่ของสายพิณผู้เสียชีวิต พร้อมกับญาติ ได้เข้าไปในที่เกิดเหตุ และร้องเรียกดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ให้กลับบ้าน บอกว่า "กลับบ้านนะลูก ตายายมารับแล้ว อย่าวนเวียนอยู่แถวนี้เลย เดี๋ยวก็เอาร่างมารับแล้ว" ภรรยาและลูกสาวของนายณัฐพลวัย 7 ขวบ ก็ได้มาเรียกวิญญาณพ่อกลับบ้านอีกด้วย
เวลา 15.40 น. ศพของนายบุญเหลือ นางสาวสายพิณ และนายณัฐพล มาถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้จอดรถที่ขนโลงศพทั้ง 3 ไว้บริเวณถนนข้างโรงเพาะเห็ดที่เกิดเหตุ จากนั้นพระสงฆ์ได้เดินถือธูป 1 ดอก ไปปักที่จุดเกิดเหตุที่พบศพผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน เพื่อเป็นการเชิญดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ออกจากจุดเกิดเหตุ หลังจากนั้นนางจอมขวัญ อัคคีสำโรง อายุ 61 ปี แม่ของสายพิณผู้เสียชีวิต และครอบครัวผู้ตาย ได้พากันจุดธูป และแบ่งกันคนละ 1 ดอก ก่อนจะเดินสลับสับเปลี่ยนกันเข้าไปปักธูป ที่จุดพบศพของทั้ง 3 คน
ทางด้านนางสาวอ้อย น้องสาวของนางสาวสายพิณ ก็ได้นำธูปจำนวน 1 ดอก ไปปักในที่เกิดเหตุ ก่อนจะพูดบอกพี่สาวที่เสียชีวิตด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า "ไม่ต้องห่วงลูกนะ กูจะดูแลมันเหมือนลูกคนหนึ่ง กูจะรักมันเหมือนที่มึงรักมัน พ้นกรรมแล้วนะพี่"
ต่อมา นางจอมขวัญ แม่ของสายพิณผู้เสียชีวิต เดินไปที่ด้านหลังรถกู้ภัย มีโลงศพของทั้ง 3 วางเรียงกันอยู่ จากนั้นจอมขวัญ ก็ร้องห่มร้องไห้ ใช้มือลูบโลงศพ พร้อมกับพูดว่า "กลับบ้านเราเด้อ" จากนั้น ชาวบ้านก็ทยอยเดินเข้ามาที่หลังรถกู้ภัย เพื่อลูบโลงศพทั้ง 3 บางคนก็ใช้มือเคาะโลงศพ เพื่อให้ดวงวิญญาณทั้ง 3 กลับเข้าร่างและกลับบ้าน
นางสาวดารินทร์ อัคคีสำโรง แม่นายณัฐพล ก็เข้ามาใช้มือจับโลงศพของทั้ง 3 พร้อมกับร้องไห้เสียใจ และกล่าวว่า "พี่มารับกลับบ้านแล้ว แม่มารับกลับบ้านแล้ว" ส่วนลูกสาววัย 7 ขวบของนายณัฐพลก็ยืนร้องไห้ดูโลงศพของพ่อ
หลังเสร็จพิธีเชิญวิญญาณ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำศพไปที่วัดอำภาผล ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา เมื่อมาถึงวัดอำภาผล ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ญาติของผู้ตาย ได้แบกหามโลงศพทั้ง 3 คนออกมาวางเรียงกัน ที่ศาลาวัด บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นางสาวณิชา จันนอก ลูกสาวของนายบุญเหลือ และนางสาวสายพิณ เมื่อเห็นโลงศพของพ่อแม่และน้าวางเรียงกัน ก็แสดงอาการร้องไห้ จนญาติต้องมาประคองร่างไว้
จากนั้น ครอบครัวผู้ตาย ญาติผู้ตาย และชาวบ้านกว่า 30 คน ได้นั่งล้อมโลงศพของทั้ง 3 ศพ เพื่อทำพิธีขอขมาลาโทษ ศพผู้เสียชีวิตทั้ง 3 โดยลูกสาวของนายบุญเหลือและนางสาวสายพิณ รวมถึงพี่สาวของณัฐพล จะถือพวงมาลัยไว้ในข้อมือ คนละ 1 พวง ธูปคนละ 1 ดอก ส่วนญาติคนอื่น ๆ และชาวบ้านจะมีธูปคนละ 1 ดอกเท่านั้น จากนั้นทุกคนได้พนมมือและกล่าวคำขอขมาศพ โดยการท่องนโม 3 จบ แล้วมีการกล่าวขอขมาว่า "ถ้าข้าพเจ้าได้ล่วงเกิน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง นายบุญเหลือ นางสาวสายพิณ และนายณัฐพล ก็ขอให้กลับกลาย หายบาป ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป"
หลังจากนั้น นางสาวณิชา ลูกบุญเหลือ และสายพิณก็ได้นำพวงมาลัยไปวางที่โลงศพ จากนั้นได้นำโลงศพทั้ง 3 เข้าไปไว้ในโลงเย็น โดยศพนายณัฐพล ตั้งด้านหน้า ศพนายบุญเหลือ และนางสาวสายพิณตั้งคู่กันที่ด้านหลัง โดยศพทั้ง 3 ศพไม่มีพิธีรดน้ำศพ จะมีการสวดอภิธรรมคืนแรกในเวลา 19.00 น. และเผาศพทั้ง 3 ในวันพฤหัสบดีที่ 15 ก.ค. 24 พร้อมกัน
นางจอมขวัญ อัคคีสำโรง อายุ 61 ปี แม่ของนางสาวสายพิณ ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังจากเสร็จงานศพของทั้ง 3 แล้ว ตัวเองและญาติจะทำการรื้อโรงเพาะเห็ดฟางที่เกิดเหตุออกทั้งหมด รวมถึงนำซากโครงไม้ที่ทำโรงเห็ดไปเผาทิ้ง เนื่องจากไม่อยากให้เห็นภาพที่ทั้ง 3 คน นอนเสียชีวิตที่โรงเพาะเห็ดดังกล่าว เพราะตัวเองรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลำพังแค่ตัวเองเห็นโลงศพ 3 โลง ตั้งเรียงกันตัวเองก็ทำใจไม่ได้แล้ว
ส่วนบ้านของนางสาวสายพิณ และนายบุญเหลือที่เขาอยู่ด้วยกัน ตัวเองก็จะรื้อทิ้ง เพราะตามความเชื่อแต่โบราณเชื่อว่าเป็นสิ่งไม่ดี ถ้าไม่รื้อทิ้งผีจะมาอยู่ หลังจากรื้อเสร็จ ก็จะสร้างบ้านหลังใหม่ให้นายพูน จันทร์นอก พ่อของนายบุญเหลืออาศัยอยู่อีกครั้ง
สำหรับนางสาวสายพิณ ลูกสาวของตัวเองและสามีของเขา ทำอาชีพเพาะเห็ดเป็นอาชีพเสริมมากว่า 10 ปี ส่วนนายณัฐพล หลานชายที่เสียชีวิต เห็นน้าทำโรงเพาะเห็ดจึงอยากทำกับน้า และน้าก็แบ่งโรงเห็ดให้โรงหนึ่ง ตอนนั้นณัฐพลขายเห็ดได้ 10,000 บาท พอมาทำโรงเห็ดโรงที่ 2 ก็มาเกิดเหตุสลดเกิดขึ้น
สำหรับศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน ก็จะเผาพร้อมกันในวันที่ 15 ก.ค. นี้ ที่เผาพร้อมกันเพราะเห็นว่าทั้ง 3 ตามไปพร้อมกัน คิดว่าเขาคงทำบุญมาด้วยกัน จึงไม่อยากแยกพวกเขาออกจากกัน ยืนยันว่าตั้งแต่ชาวบ้านในหมู่บ้านทำโรงเพาะเห็ดมา ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์สลดแบบนี้มาก่อน เหตุนี้เป็นครั้งแรกที่มีผู้เสียชีวิตจากโรงเพาะเห็ด และเป็นคนในครอบครัวตัวเองอีกด้วย
นางสาวอริสา ยอมกระโทก พี่สาวณัฐพล กล่าวว่า นอนที่ตัวเองพบร่างทั้ง 3 คน ในโรงเพาะเห็ดตัวเองแทบช็อก โดยช่วงเช้าเมื่อวานนี้ ลูกสาวผู้เสียชีวิตได้มาช่วยให้ตัวเองตามหาพ่อและแม่ กระทั่งตัวเองได้ไปตามหาผู้สูญหายทั้ง 3 ที่โรงเพาะเห็ด จึงเห็นภาพ 3 คนนอนกองกันอยู่ ตัวเองได้วิ่งเข้าไปจับร่างทั้ง 3 คน ก็พบว่าร่างกายของพวกเขาได้แข็งตัวแล้ว จึงมีการแจ้งญาติและเจ้าหน้าที่ให้มายังที่เกิดเหตุ
สำหรับโรงเพาะเห็ดดังกล่าว หลังจากเสร็จงานศพทั้ง 3 ตัวเองก็จะทำการรื้อทิ้ง เพื่อไม่ให้เห็นภาพที่สลดใจดังกล่าว ซึ่งเวลาตัวเองหลับตาทีไร ตัวเองก็จะเห็นภาพศพทั้ง 3 นอนกองกันทุกครั้ง คืนก่อนจะเจอศพทั้ง 3 ขณะตัวเองนอนอยู่ในบ้าน เวลาประมาณเที่ยงคืน ตัวเองก็จะได้กลิ่นเหม็นสาป ก่อนจะมาพบว่าทั้ง 3 กลายเป็นศพในช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ ตัวเองจึงคิดว่าทั้ง 3 น่าจะมาสื่อสารกับตัวเอง เพื่อให้รู้ว่าพวกเขาเสียชีวิตแล้ว
เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 02.00 น. ระหว่างที่ตัวเองนอนอยู่ที่วัด เพื่อเฝ้างานศพตัวเองก็ได้กลิ่นเหม็นอีกครั้ง โดยเป็นกลิ่นเหม็นคล้ายกลิ่นของเห็ด ตอนนั้นในใจตัวเองรู้ว่าน้าชายน้าสาว และน้องชายมาหา ตัวเองจึงได้กล่าวบอกพวกเขาว่า "เจอร่างทั้ง 3 แล้ว รู้แล้วว่าเสียชีวิต หลับให้สบายนะ ไม่ต้องห่วงทางนี้"
สำหรับนายณัฐพลน้องชาย เป็นคนนิสัยร่าเริง ก่อนหน้านี้น้องชายทำโรงเพาะเห็ดโรงแรก ขายเห็ดได้เงิน 10,000 บาท ตอนนั้นน้องชายดีใจมาก เขาบอกกับตัวเองว่าเขาตั้งใจจะเก็บเงินเพื่อซื้อรถยนต์ เพราะน้องชายฝันอยากมีรถเป็นของตัวเอง กระทั่งน้องขายมาทำโรงเพาะเห็ดรอบ 2 และเกิดเหตุการณ์สลดเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตัวเองก็ฝากกรณีของน้องชายและน้าทั้ง 3 คน ให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่ทำอาชีพเพาะเห็ดขาย ให้ระมัดระวังด้วย