จากกรณีนายภณ ไชยสวัสดิ์ อายุ 57 ปี ช่างซ่อมอาคารของแมนชันหรูแห่งหนึ่งสูง 15 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 18 ใช้อาวุธปืนยิง นางสาวอุไร จันทรลิต อายุ 47 ปี อาชีพสาวโรงงาน สภาพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดลายสีน้ำตาล กางเกงยีนขาสั้น มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะด้านซ้าย 1 นัด ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นสามีของผู้เสียชีวิตยืนรอมอบตัว ก่อเหตุจากปมหึงหวง
วันที่ 21 เม.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่แมนชั่นที่เกิดเหตุ ซึ่งค่อนข้างเงียบ เจ้าหน้าที่ รปภ.ของอาคารที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ช่วงก่อเกิดเหตุตนเองนั่งอยู่โต๊ะทำงานกับลูกน้อง ก่อนได้ยินเสียงดัง ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเสียงขวดหล่นจากที่สูง ไม่นานนายภณเดินมายืนอยู่หลังรถที่จอดอยู่ในลานจอด ตนหันไปมอง นายภณชี้นิ้วไปที่ห้องตัวเอง ตอนแรกตนเข้ามจว่าให้ไปดูเสียงขวด ตนก็เดินไปดู หลังจากนั้นตนเองกำลังเดินกลับ เพื่อไปบอกกับนายภณว่าคงไม่มีอะไร จากนั้นเดินผ่านหน้าห้องของผู้ตาย ห้องปิดเงียบ ตนเองจึงไม่ได้บอกอะไรกับนายภณ
ไม่นานลูกชายนายภณขับรถจักรยานยนต์เข้ามา และบอกว่าเป็นลูกของนายภณ ก่อนจะวิ่งไปที่ห้องเกิดเหตุ ตอนนั้นตนเองเดินตามไปดู พบกับป้าแม่บ้านที่อาศัยอยู่ที่อาคาร ใกล้กับห้องผู้ตาย เดินมาบอกตนว่านายภณยิงภรรยาตัวเองตาย จากนั้นนายภณก็เดินมา บอกให้ตนเองแจ้งตำรวจ ตนเองก็โทรแจ้งบริษัท และแจ้งตำรวจ โดยตัวนายภณก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน
ทั้งนี้ ไม่เคยเห็นผู้ตายทะเลาะกับภรรยา ตนยังงงว่ามาเกิดเรื่องได้อย่างไร ปกตินายภณพักกับภรรยา 2 คน ซึ่งก็ยังขับรถไปรับภรรยาหลังเลิกงานเป็นประจำ ก็ไม่คิดว่ามาเกิดเรื่องแบบนี้ ส่วนตัวเห็นนายภณและภรรยาก็เป็นคนนิสัยดี ส่วนตัวยังไม่ได้ถามอะไรนายภณ ส่วนตัวทราบว่านายภณเป็นคน จ.ขอนแก่น ส่วนนางอุไรเป็นคน จ.นครราชสีมา
นายสิทธิชัย ไชยสวัสดิ์ ลูกชายของผู้ก่อเหตุ เดินทางมาเยี่ยมผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า วานนี้หลังจากที่พ่อก่อเหตุแล้วได้โทรศัพท์มาหาตน โดยบอกว่า "ให้มาหา พ่อยิงน้าแล้ว" ส่วนตัวตอนแรกยังคิดว่าพ่อพูดเล่น แต่ตนเองก็รีบขับรถจักรยานยนต์มาหาพ่อที่เกิดเหตุ
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนก็พบว่านางอุไรเสียชีวิตแล้ว ตอนนั้นพ่อไม่ได้เล่าอะไร ถามอะไรพ่อก็ไม่บอก แต่เท่าที่ตนได้คุยกับพ่อหลังจากมาเยี่ยมเมื่อเช้า พ่อบอกว่ามีการนัดกับนางอุไรมาพูดคุยเจรจากัน ตอนนั้นมีปากเสียงกัน ส่วนหนึ่งพ่อตนน่าจะดื่มสุราเข้าไป เท่าที่ทราบเป็นเรื่องปัญหาชู้สาว และก่อเหตุขึ้น
ตอนนี้พ่ออาการก็เครียด ปกติพ่อจะร่าเริ่ง ถามอะไรตอนนี้พ่อก็ไม่ตอบ ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ส่วนตัวก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ ใจหนึ่งอยากประกันตัวพ่อออกมา แต่ก็ไม่มีเงินจะประกันตัว ตนเองต้องมาเดินเรื่องคนเดียว อย่างไรก็ตาม ตนไม่ค่อยได้คุยกับผู้ตาย เพราะเป็นภรรยาใหม่ของพ่อ ตนเองยังไม่ได้เจอครอบครัวคนตาย ตนเองอยากขอโทษแทนพ่อที่ก่อเหตุแบบนี้ ส่วนเรื่องอาวุธปืน ตนเองก็ไม่ทราบว่าพ่อเอามาจากไหน ที่ผ่านมาไม่เคยรู้ว่าพ่อมีอาวุธปืน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ระบุว่า เบื้องต้นไม่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และคาดว่าจะส่งตัวผู้ต้องหาไปศาลในวันพรุ่งนี้
น.ส.วรารัตน์ จันทรจิต น้องสาวผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนเองปกติอยู่ที่ จ.นครราชสีมา ตนเองเพิ่งรู้เรื่องเมื่อช่วงเช้า หลังจากตำรวจติดต่อไปหาน้องชาย และน้องชายติดต่อมาหาตนว่านางอุไรถูกยิง ตนเองเจอกับผู้ตายครั้งล่าสุดเมื่อสิ้นเดือนที่แล้ว โดยผู้ตายเดินทางกลับบ้านไปเลือกตั้งยังมีการคุยกันอยู่ ไม่คิดว่าผ่านมาแค่ 10 กว่าวันจะมาจากกันไป ผู้ตายเคยเล่าปัญหาให้ตนฟังว่ามีปัญหาเล็กน้อยกับสามี เป็นปัญหาที่นายภณเป็นคนหึงหวง เคยทะเลาะมีปากเสียงกันและผู้ตายถูกทำร้ายร่างกาย นายภณจ้องแต่จับผิดและก็จะลงมือทำร้ายร่างกาย ทุบตี แต่ไม่เคยเห็นหนักถึงขั้นเอาชีวิตแบบนี้
ตนเองมองว่าคนก่อเหตุเป็นคนเห็นแก่ตัว คิดแต่มุมตัวเอง พี่สาวตนก็ไม่ได้มีชายอื่น ตนทราบว่าคบกันมาได้ราว 2-3 ปี และแต่งงานกันเมื่อปีที่แล้ว พี่สาวตนจะพักอยู่สมุทรปราการ จะแวะเวียนมาหาคนก่อเหตุบ้าง เป็นคนชอบคุย ร่างเริง ชอบช่วยเหลือ ไม่มีอะไรเป็นลางบอกเหตุเลย ตนเองขอให้ผู้ตายไม่ต้องห่วงให้ไปสบาย ตนเองก็เสียใจ ครอบครัวก็ทำใจไม่ได้ ทุกอย่างมันเร็ว
นอกจากนี้ ตนเองมองว่าถ้าคนรักกันก็ไม่จะทำแบบนี้ ตอนนี้ห่วงแค่ลูกของผู้ตายที่ต้องขาดแม่ อายุ 10 ขวบ กับ 20 ปี ตนทราบว่าพี่สาวรักนายภณมาก และเคยบอกว่า "จะฝากขีวิตไว้ที่เขา" ก็ไม่คิดว่าพี่จะมาจากไปไว
