จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้" ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพ กรณีที่ชายคนหนึ่งถูกรถชนแล้วหนี แล้วปล่อยน้อง 16 ปีคนเจ็บทิ้งไว้ในป่าข้างทาง จนน้องต้องเสียขาข้างหนึ่ง
วันที่ 15 มี.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ต.ทัพหลวง อ.เมือง จ.นครปฐม ที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 เลน ตรงกลางมีเกาะกลางถนน ข้างทางจุดที่พบร่างของผู้บาดเจ็บเป็นพงหญ้า ป่าอ้อยข้างทาง ห่างจากถนนประมาณ 2 เมตร
ส่วนกล้องวงจรปิดที่จุดเกิดเหตุไม่พบ จะมีแต่กล้องวงจรปิดของชาวบ้านฝั่งตรงข้าม จุดเกิดเหตุซึ่งกล้องวงจรปิดตัวดังกล่าวเห็นภาพไม่ถึงจุดที่มีอุบัติเหตุ
นางธัญญรัตน์ อายุ 43 ปี แม่ของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุ 1 มี.ค. 64 นายกฤษฎา หรือ โก้ อายุ 16 ปี ลูกชายของตนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพื่อไปหาเพื่อน แต่เพื่อนไม่อยู่บ้าน เวลาประมาณ 19.00 น. จึงขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่บ้าน ช่วงระหว่างทางบริเวณถนนมาลัยแมน-กำแพงแสน มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครปฐม วิ่งรถที่เลนซ้ายสุด ถูกรถยนต์ไม่ทราบชนิดกลับรถและตัดหน้าชนกับรถจักรยานยนต์ทางด้านขวา จนร่างกระเด็นไปไกลกว่า 2 เมตร เข้าพงหญ้าข้างทางด้านซ้าย จนสลบไป
กระทั่งช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.00 น. รวมระยะเวลา 14 ชั่วโมง มีคนพบรถจักรยานยนต์จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย ให้ค้นหาว่ามีคนบาดเจ็บหรือไม่ จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงสอบถามตนเองว่าเป็นรถจักรยานยนต์ของตนเองหรือไม่ ตนเองจึงยืนยันว่าใช่ เจ้าหน้าที่จึงค้นหาก็พบร่างของลูกชายตนเองอยู่ในป่าข้างทาง และนำส่งโรงพยาบาลนครปฐมอย่างเร่งด่วน
โดยช่วงกลางคืน วันที่ 1 มี.ค. 64 ตนเองกลับจากทำงานเวลา 22.30 น. แต่ไม่พบลูกชาย จึงโทรศัพท์ไปหา แต่พบว่าลูกชายไม่ได้นำโทรศัพท์ไปด้วย ตนเองจึงนอนไม่หลับ เพราะลูกชายไม่เคยออกจากบ้านตอนกลางคืน
อาการบาดเจ็บของลูกชายตนเองคือ ต้องเอ็กซ์เรย์สมอง 3 รอบ สมองปกติ เอ็กซ์เรย์ขาขวา 3 รอบฟันหน้าหัก 3 ซีก ศีรษะด้านหน้าเย็บ 10 เข็ม ริมฝีปากเย็บ 12 เข็ม ตัดขาขวา ช่วงเย็นของวันที่ 2 มี.ค. 64 เนื่องจากเนื้อตาย เพราะถ้าหากไม่ตัดขาลูกชายอาจจะเสียชีวิต ตนเองทำใจไม่ได้ ร้องไห้ทั้งวัน ตนเองจำเป็นต้องให้หมอตัดขาลูกชาย แต่หมอก็ปลอบใจตลอดว่าต่อจากนี้สามารถใส่ขาเทียมได้ และให้กำลังตลอดเวลา ล่าสุดลูกชายสภาพจิตใจดีขึ้น แต่เหงาและซึมไปเยอะกว่าเมื่อก่อน
ทั้งนี้ ตนเองมาทราบว่าลูกชายถูกรถชน เพราะลูกชายเล่าให้ฟังหลังจากผ่าตัดขาเสร็จว่าถูกรถยนต์ตัดหน้า แต่ลูกชายก็จำรายละเอียดใด ๆ ไม่ได้ และมาสังเกตรถว่าฝั่งขวาละเอียดยับเยิน แต่ฝั่งซ้ายมีความเสียหายเล็กน้อย
ตนเองอยากให้ผู้ที่ชนลูกชายตนเองออกมารับผิดชอบบ้าง เพราะตนเองทำงานคนเดียว อยู่กับลูกชาย 2 คน แยกทางกับสามีตั้งแต่ลูกชายอายุ 8 ปี และทำงานค่าแรงก็ไม่มาก ไม่มีเงินพอในการเลี้ยงครอบครัว และรักษาลูกชาย เพราะว่าลูกชายตนเองคงต้องรักษาไปตลอดชีวิต ตนเองยอมรับว่าเครียดมาก
เช้ามาตนเองต้องป้อนข้าวอาบน้ำให้ลูก ช่วงเที่ยงต้องพาลูกไปล้างแผล และป้อนข้าว ตนตนเองแทบไม่ได้กินข้าว เพราะต้องรีบไปทำงาน ตกเย็นตนเองต้องรีบมาป้อนข้าว และอาบน้ำให้ลูก และไปทำงานอีก ล่าสุดคู่กรณีคนที่ชนลูกชายตนเองก็ยังไม่ทีทีท่าจะแสดงตัวหรือรับผิดชอบ ส่วนตำรวจก็ไม่เคยติดต่อตนเองกลับมาอีกเลย
นายกฤษฎา หรือ โก้ ผู้บาดเจ็บ ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ตนเองจำเหตุการณ์ได้เพียงช่วงที่ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน เพราะไปหาเพื่อนแล้วเพื่อนไม่อยู่ ก่อนที่วูบไป และจำอะไรไม่ได้อีกเลย จนกระทั่งมารู้สึกตัวช่วงเช้าที่เจ้าหน้าที่มาพบ และหลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดเวลา หลังจากตนเองรู้ว่าต้องตัดขาขวาตนก็เงียบไป และรู้สึกเฉย ๆ ไม่ได้ร้องไห้ ไม่ได้เสียใจ และต้องเข้มแข็งที่สุดให้ได้
ต่อจากนี้ก็คงออกไปไหนไม่ได้อีกแล้ว สภาพจิตใจล่าสุดดีขึ้นมาก แต่ก็สงสารและเป็นห่วงแม่ที่ต้องลำบากมาดูแลตนเอง อยากบอกแม่ว่าไม่ต้องเป็นห่วงตนเองมาก พร้อมทั้งอยากฝากไปถึงคนที่ชนตนเองให้มารับผิดชอบด้วย
ด้าน ร.ต.อ. เสริมศิริ แต่งตั้ง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองนครปฐม เปิดเผยว่า แม่ผู้บาดเจ็บมาลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อจะนำไปทำเอกสารกับ พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 64 ว่าลูกชายรถล้มเองเท่านั้น แต่ถ้าหากครอบครัวยังติดใจก็จะมีการตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ และนำตัวผู้กระทำผิดมาสอบสวนต่อไป
นอกจากนี้ ยังพบว่าบริเวณจุดที่เกิดเหตุห่างกันเล็กน้อยนั้น เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 64 เคยเกิดการรถสิบล้อขับชนเสาไฟมาก่อน จนเกิดเพลิงไหม้ขึ้นไฟคลอดร่าง คนขับเสียชีวิตบริเวณจุดเกิดเหตุ
