จากกรณีนายประธาน จรจังหรีด ผู้บาดเจ็บ เดินทางมาหาแฟนสาว แต่แฟนสาวไม่เปิดประตู ไม่รับสายโทรศัพท์ จนสุดท้ายตัดสินใจปีนข้ามรั้วเหล็กกันขโมย แต่พลาดเหล็กเสียบขาได้รับบาดเจ็บ โดยเป็นรั้วเหล็กสูงราว 2 เมตร ด้านบนเป็นเหล็กแหลม ถูกตัดออก 2 ซี่
วันที่ 8 ธ.ค. 63 ทีมข่าวเดินทางมาที่เกิดเหตุ บ้านพัก 2 ชั้น ในพื้นที่มีการสร้างเป็นห้องเช่าหลังบ้าน แฟนสาวผู้บาดเจ็บระบุว่าตัวเองมีอาการป่วยซึมเศร้า ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นตัวเองไม่ทราบ เพราะตอนเกิดเหตุอาบน้ำอยู่หลังบ้าน เปิดเพลงไว้ ทำให้ไม่ได้ยินเสียง
นายออย (นามสมมติ) ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนเองอาศัยอยู่หอพักใกล้ที่เกิดเหตุ ราว 19.00 น. ตนเองได้ยินเสียงคนเรียกคล้ายให้เปิดประตู แต่เสียงก็เงียบไป ก่อนจะมีเสียงคนร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดเสียงดัง ตนเองจึงลงมาดู เห็นคนเจ็บห้อยตัวอยู่ในรั้ว ลักษณะห้อยอยู่ด้านในประตู ทำให้ไม่สามารถช่วยอะไรได้ โดยคนเจ็บก็ร้องขอความช่วยเหลือ ในขณะที่ขาข้างซ้ายเสียบอยู่กับเหล็กแหลมบนรั้ว
ตนเองจึงมีการเรียกกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ซึ่งกู้ภัยเดินทางมาถึงก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะยังไม่มีคนออกมาเปิดประตูออก โดยประตูเหล็กถูกโซ่คล้องไว้ กู้ภัยพยายามเรียกแฟนของคนเจ็บอยู่นาน ก็ไม่มีใครออกมา จนกระทั่งตำรวจมาถึง แฟนสาวของคนเจ็บจึงยอมออกมา
เท่าที่ตนได้ยินคนเจ็บพูด ระบุว่าที่ต้องรีบปีนรั้วเข้าไป เนื่องจากแฟนสาวได้ไลฟ์สดเรียกให้ตัวคนเจ็บมาหา และบอกว่าจะทำร้ายตัวเอง ทำนองจะฆ่าตัวตาย ทำให้คนเจ็บต้องรีบเดินทางมา แต่แฟนสาวก็ไม่ออกมาเปิดประตู สุดท้ายแฟนสาวคนเจ็บออกมาก็ระบุว่าตัวเองอาบน้ำอยู่ ทำให้ไม่ได้ยินเสียง ซึ่งตนเองก็ไม่แน่ใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุอะไรกันแน่
นายณัชพล แซ่โซ อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้ง รหัสคำรพ 13 ปฏิบัติหน้าที่ในที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนเองได้รับแจ้งเหตุ ก็เข้าไปที่เกิดเหตุ พบคนเจ็บขาติดกับประตูบ้านชี้ขึ้นฟ้า โดยคนเจ็บระบุว่าตอนนั้นมาตามแฟน มาเรียกแฟนอยู่หน้าบ้านอยู่นาน จึงมีความเป็นห่วงแฟน จากนั้นตัดสินใจปีนข้ามรั่ว แต่จังหวะที่ข้ามรั้วไปคว้ากิ่งต้นมะยม เกิ่งเกิดหักทำให้พลาดตกลงมาเหล็กเสียบที่ขา
ผู้บาดเจ็บเดินทางมาด้วยความคิดถึงและดื่มสุรามา ตอนนั้นกว่าจะเรียกแฟนผู้บาดเจ็บออกมาได้ ก็ค่อนข้างนาน 20-30 นาที ทำให้ผู้บาดเจ็บติดคาอยู่บนรั้วประตูดังกล่าว
