หิ้วกะโหลกฝั่งลาวกลับไทย พ่อบุกป่าหาร่าง ผอ.อ้อย - สามีดำน้ำพิสูจน์จุดฆ่าถ่วงศพ (คลิป)

2 ก.ย. 60
ความคืบหน้าการค้นหนา น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ อ้อย อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำนานร่วม 2 เดือน ล่าสุด วันนี้ (1 ก.ย. 60) เวลา 07.30 น. บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน พ่อของผอ.อ้อย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ และชุดทหารพราน รวมกว่า 30 คน ออกเดินทางไปหลัก 16-28 ช่องนางอิง เขตชายแดนระหว่างประเทศไทยกับลาวเพื่อขอรับศพที่พบบริเวณดังกล่าว โดยต้องเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์เข้าไปที่แก่งกะเลา เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นทางธรรมชาติที่ค่อนข้างแคบ ต้องขี่ผ่านลำธาร และต้นไม้ที่ล้มบางช่วง เมื่อขี่เข้าไปประมาณ 7 กิโลเมตร จึงจะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติยอดลำโดมน้อย ซึ่งเป็นหน่วยลาดตระเวนสุดท้ายของเจ้าหน้าที่ที่ใกล้กับชายแดนประเทศลาวมากที่สุด ทีมค้นหาทั้งหมดได้แวะพักและจอดรถจักรยานยนตร์บริเวณดังกล่าว ก่อนเดินเท้าต่อไปด้านในป่า เนื่องจากทางมีต้นไม้หักล้มเป็นจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดได้เดินเข้าไปอีกกว่า 3 กิโลเมตร เส้นทางเป็นป่ารกสลับกับลำธารน้ำไหล บางช่วงเป็นหน้าผา ทำให้ต้องเดินด้วยความยากลำบาก ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง กว่าจะไปถึงบริเวณช่องนางอิง
นายเตือน ทองด้วง ชาวบ้านเปว เมืองมูนละปาโมก ผู้ที่พบศพ
นายเตือน ทองด้วง อายุ 31 ปี ชาวบ้านเปว เมืองมูนละปาโมก ผู้ที่พบศพดังกล่าว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารของลาว ได้มารอรับญาติและเจ้าหน้าที่ไปที่จุดนัดพบบริเวณหลัก 16-28 โดยนายเตือน เปิดเผยว่า ช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ตนและเพื่อนอีก 5 คน ได้เข้ามาหาของป่า ก่อนพบศพที่บริเวณผานางอิงฝั่งลาว ซึ่งสภาพเป็นกระดูก กะโหลก เสื้อผ้ากระจาย ไม่สามารถยืนยันเพศได้
พันโท บุญหลี แก้วมณีวง รองหัวหน้าห้องการป้องกันชาติป้องกันความสงบ แขวงจำปาศักดิ์
พันโท บุญหลี แก้วมณีวง รองหัวหน้าห้องการป้องกันชาติป้องกันความสงบ แขวงจำปาศักดิ์ ซึ่งมาให้การต้อนรับคณะ ชี้แจงว่า ขณะนี้ศพเหลือเพียงแค่กะโหลกศีรษะ ฟันกราม และเสื้อผ้าเท่านั้น เพราะชิ้นส่วนที่เหลือถูกสัตว์กินไปหมดแล้ว โดยศพดังกล่าวถูกพบที่ผานางอิงฝั่งลาว ห่างจากหลัก 16-28 ประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งทางการลาวได้เก็บชิ้นส่วน และเสื้อผ้าทั้งหมดมาวางให้ญาติ และเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยได้ดูที่จุดนัดพบ โดยมีกะโหลก ศีรษะมีฟันกรามติดอยู่ 1 ซี่ ฟันที่แตกออกมาอีก 2 ซี่ เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีแดง
นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน พ่อของผอ.อ้อย และ พ.ต.ต.คำหล้า ชิดถาวร รองแผนกสอบสวน แขวงจำปาศักดิ์
นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน พ่อของผอ.อ้อย ได้ลองจับกะโหลกและเสื้อผ้าพลิกไปมา ก่อนเปิดเผยว่า กะโหลกดังกล่าวไม่ใช่ลูกสาวตัวเอง เพราะดูสภาพเก่าแล้ว คาดว่าน่าจะเกิน 5 เดือน แต่ก็ต้องเก็บไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจดีเอ็นเอเพื่อเป็นหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งศพดังกล่าวตนสิ้นข้อสงสัยแล้ว เพราะได้มาเห็นกับตา หลังจากนี้จึงต้องค้นหาเบาะแสอื่น ๆ ต่อไป ด้าน พ.ต.ต.คำหล้า ชิดถาวร รองแผนกสอบสวน แขวงจำปาศักดิ์ ได้มาร่วมตรวจพิสูจน์ในครั้งนี้ด้วย โดยได้ชี้ให้ดูฟันกรามติดกะโหลก ที่มีลักษณะมีหินปูนเกาะ คล้ายฟันผู้ชาย พร้อมเปิดเผยว่า ยังไม่สามารถยืนยันเพศได้ แต่ลักษณะของฟัน คาดว่าน่าจะเป็นผู้ชาย แต่ไม่ได้เห็นกระดูกทั้งหมด ซึ่งตนได้มาตรวจที่เกิดเหตุตั้งแต่เมื่อวาน พบว่าชิ้นส่วนกระจัดกระจาย เพราะถูกน้ำพัด จึงไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้
กะโหลก เสื้อผ้า และซี่ฟันที่แตก (ภาพเล็ก)
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ฝั่งลาวได้ทำบันทึกเพื่อส่งมอบกะโหลกศีรษะให้ทางการไทยนำไปตรวจพิสูจน์ โดยญาติระบุ ว่าหากไม่ใช่ ผอ.อ้อย ก็จะทำบุญเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับศพดังกล่าวต่อไป ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางกลับ
นายวิทยา เกษแก้ว สามีของผอ.อ้อย
ขณะที่นายวิทยา เกษแก้ว สามีของผอ.อ้อย พร้อมด้วยญาติ ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่อุทยาน รวมกว่า 40 คน ลงพื้นที่ค้นหาร่าง ผอ.อ้อย บริเวณลำห้วยผึ้ง ซึ่งเป็นจุดที่มีพยานเห็นรอยเลือดและทหารจำนวน 4 คนเดินออกมาจากป่า ซึ่งทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้นำเสนอไปแล้วนั้น (อ่าน: เจอห้วยจุดทิ้งกระสอบ ญาติเชื่อถ่วงร่างผอ.อ้อย – คนชี้เจอชายตัวเปื้อนเลือดโยงสังหาร) ทีมค้นหาได้จุดธูป พร้อมวางตุ๊กตาผู้หญิงบริเวณปากทางเข้าป่า เนื่องจากมีความเชื่อว่า ผอ.อ้อย อาจถูกเจ้าที่จับตัวไว้ไม่ยอมปล่อยออกมา จึงต้องเอาตุ๊กตามาเป็นตัวแทนในการแลกเปลี่ยน ก่อนที่ทั้งหมดจะเริ่มทำการค้นหา ด้วยการแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด เพื่อเริ่มค้นหาทั้งทางน้ำและทางบก โดยทางบก ได้ปูพรมค้นหารอบพื้นที่ป่าเข้าไปทางลำห้วยผึ้ง ส่วนทางน้ำ นายวิทยาพร้อมชาวบ้านอีก 8 คน ได้ลงไปดำในจุดที่พบกระสอบทรายเมื่อวานนี้เพื่อพิสูจน์จุดดังกล่าว ในรัศมี 50 เมตร ทั้งนี้จุดดังกล่าวเป็นทางน้ำไหล กระแสน้ำแรง ทำให้การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก ใช้เวลาในการค้นหาบริเวณดังกล่าวประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ไม่พบเบาะแสแต่อย่างใด จึงได้ยุติการค้นหา

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ