"เมียหลวง" จับได้ผัวพา "เมียน้อย" ไปเลือกตั้ง ควงปืนดักเจอหน้า ยิงไม่เลี้ยง

14 พ.ค. 66

ผัวพาเมียน้อยไปเลือกตั้ง เมียหลวงตามไปพบกระโดดขึ้นรถกระบะ รัวยิงไม่ยั้ง ชักมีดแทงซ้ำ โชคดีชาวบ้านห้ามไว้ทัน ไม่หนี รอมอบตัวตำรวจ

ภาพวงจรปิดริมถนนในซอยด่านสำโรง ตำบลด่านสำโรง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ จับภาพได้มุมแรกพบว่ามีรถกระบะอีซุซุตอนเดียวสีบรอนด์ขับมาบนถนนในซอยดังกล่าวด้วยความเร็วผ่านหน้ากล้องไป

จากนั้น กล้องอีกมุมในจุดเดียวกันจับภาพได้ในขณะที่รถกระบะคันดังกล่าวเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทาง ซึ่งมีหญิงสวมเสื้อสีแดงนั่งเกาะอยู่ที่ด้านหลังของกระบะ ส่วนกล้องวงจรปิดอีกมุมที่อยู่ฝั่งตรงข้ามใกล้เคียงปากซอยด่านสำโรง 58 จับภาพได้อย่างชัดเจน

ในขณะที่รถกระบะคันดังกล่าวเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทาง โดยมีหญิงเสื้อแดงที่นั่งเกาะกระบะท้ายพยามทุบกระจกด้านหลังของคนขับแล้วชักปืนที่พกติดตัวมายิงใส่คนขับรถไปหลายครั้ง กระทั่งคนขับต้องเปิดประตูลงหนีตายลงมา

ส่วนฝั่งซ้ายในรถกระบะคันดังกล่าวจะเห็นว่ามีหญิงสาวอีกราย สวมเสื้อแขนยาวสีขาวเปิดประตูฝั่งซ้ายวิ่งหนีตายออกมาจากที่เกิดเหตุเช่นกัน ท่ามกลางสายตาของประชาชนจำนวนมากในละแวกที่เกิดเหตุ

ในขณะที่ภาพจากมือถือของพลเมืองดีสองมุมบันทึกภาพเอาไว้ได้พบว่าหญิงเสื้อสีแดงที่นั่งเกาะมาในท้ายกระบะรถ กระโดนตามชายคนขับลงมาจากรถ จากนั้นใช้มีดพยามจ้วงแทงชายคนดังกล่าวอีกหลายครั้งจนชาวบ้านต้องเข้ามาห้ามปรามให้แยกย้ายและรีบแจ้งตำรวจและกู้ภัยมาช่วยเหลือคนเจ็บและควบคุมตัวหญิงเสื้อแดง รอตำรวจเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 14 พ.ค.66 ตามเวลาในกล้องวงจรปิด

หลังเกิดเหตุไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สำโรงเหนือเข้าควบคุมตัวหญิงเสื้อแดงคนดังกล่าว ส่วนชายคนขับรถเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ความช่วยเหลือส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ

ด้านแม่ค้าอาหารตามสั่งที่ขายอยู่ข้างทางตรงที่เกิดเหตุบอกว่า ขณะขายของอยู่ หันไปสังเกตเห็นรถกระบะคันดังกล่าวขับส่ายไปมาจนมาพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทางก่อนถึงร้านตนเอง จากนั้นก็เห็นชายคนขับเปิดประตุรถลงมาและหญิงเสื้อแดงก็ตามลงจากรถใช้มีดแทงฝ่ายชายจนมีคนเข้าไปห้ามยังถือว่าดวงดี สำหรับตนหากรถไม่ชนเสาไฟก่อนอาจจะพุ่งเข้ามาชนตนเองและร้านก็เป็นได้

นางสมร อายุ 61 ปี หญิงเสื้อแดงผู้ก่อเหตุซึ่งถูกตำรวจควบคุมตัวได้พร้อมของกลางทั้งอาวุธปืนลูกโม่และมีปลายแหลมที่ใช้ก่อเหตุโดยนางสมรผู้ก่อเหตุรายนี้ให้การด้วยสีหน้าขึงขังว่า ตนเองยอมรับว่าก่อเหตุจริง คนที่ตนเองก่อเหตุนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนก็คือ นายสมคิด อายุ 63 ปี เป็นสามีแท้ๆ ของตนเองนี่แหล่ะ ที่ต้องลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ก็เพราะต้องการหวังสั่งสอนกะทำให้แค่บาดเจ็บไม่กะให้ถึงตาย แต่ถ้าต้องตายไปจริงก็ไม่เสียดาย เหตุผลเพราะว่าตนเองเกิดความแค้นที่สามีไปมีเมียน้อยหลายต่อหลายครั้ง หลายคน

ตนเองเจอสามีครั้งสุดท้ายเมื่อปี 62 หลังจากที่สามีไปมีเมียน้อยก็แยกย้ายกันอยู่กับตนเอง ที่ผ่านมาจับได้หลายครั้งที่สามีไปติดหญิงอื่นจนหมดเนื้อหมดตัวแถมยังเอารถไปขายเลี้ยงดูผู้หญิงอื่น แต่งงานกันมาตั้งแต่ปี 2525 จนมีลูกจนลูกโตหมดแล้วกระทั่งมาทราบภายหลังว่าสามีไปมีเมียน้อยและเอารถคันเกิดเหตุไปรับส่งเมียน้อย แอบไปเช่าบ้านเห้องอยู่ที่ลาดกระบัง

ที่ผ่านมาตนเองพยามให้มาเคลียร์ให้จบปัญหาเนื่องจากมีการจดทะเบียนสมรสกัน แต่ฝ่ายสามีไม่มาเคลียร์ กระทั่งทราบว่าวันนี้สามีจะพาเมียน้อยมาเลือกตั้งที่ซอยวัดด่าน ตนเองจึงนั่งรถมาจากจังหวัดอยุธยาเพื่อมาดักรอหวังเคลียร์ปัญหาครอบครัว

กระทั่งมาเจอสามีขับรถอกมาจากหน่วยเลือกตั้งตนพยามเรียกให้จอดแต่สามีไม่จอด จึงยิงปืนใส่ไปหนึ่งนัดแล้วกระโดดขึ้นท้ายรถและยิงซ้ำใส่สามีจากกระจกด้านหลังจนรถเสียหลักชนเสาไฟฟ้า จึงตามลงไปใช้มีดแทงซ้ำไปอีกสองครั้ง ส่วนปืนยิงไปจนหมดโม่ไม่ได้นับว่ากี่นัด ปืนที่ใช้ก็เหตุก็เป็นปืนของสามีที่เคยซื้อมาไว้นานแล้ว

ตำรวจจึงคุมตัวภรรยาใจเด็ดรายนี้ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.สำโรงเหนือ และตรวจยึดของกลางเป็น ปืนลูกโม่ ขนาด.38 พร้อมปลอกกระสุนที่ยิงแล้วคาลูกโม่จำนวน 5 นัดกระสุนที่ยังไม่ยิงอีก 5 นัด มีดปลายแหลมเปื้อนเลือดจำนวน 2 เล่ม เบื้องต้นตำรวจจึงแจ้งข้อหาพยามฆ่าโดยเจตนาและพ.ร.บ.อาวุธปืน

ผัวพาเมียน้อยไปเลือกตั้ง

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส