สะเทือนขวัญ! ลูกจ้างโหดใช้เลื่อยยนต์ตัดคอนายจ้าง ก่อนรีบยืมจอบชาวบ้านขุดหลุมฝังร่างในสวนยางพารา ตำรวจรวบทันควันคาดเมายา
วันที่ 11 มีนาคม 66 เมื่อเวลา 11:30 น. พ.ต.ต.กฤษฎา ทองสกุล สว.(สอบสวน) สภ.บ้านนาเดิม รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายในสวนยางพารา ในพื้นที่บ้านหนองเรียน ม.7 ต.นาใต้ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรงค์ รักประทุม ผกก.สภ.บ้านนาเดิม พ.ต.ท.วิทยา พิทักษ์ รองผกก. สส.กก1 บก.สส.ภ.8 พิสูจน์หลักฐาน 8 และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี
ที่เกิดเหตุ ภายในสวนยางพาราที่มีการโค่นแล้ว เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ บริเวณท้ายสวนพบมีรอยเลือดอยู่จำนวนมาก นอกจากนั้นพื้นดินยังมีรอยขุดและเกลี่ยดินถมไว้ และพบ จอบ เลื่อยยนต์ มีดพร้า เปื้อนเลือดอยู่บนรถกระบะรั้วบรรทุกไม้ยางพารา เจ้าหน้าที่จึงได้ขุดดินลึกลงไปประมาณ 20 เซนติเมตร พบร่า งนายพงษ์ศักดิ์ สงวนนามสกุล อายุ 55 ปี หมู่ที่ 1 ต.นาใต้ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี เป็นนายจ้างรับโค่นไม้ยางพารา สภาพศพมีร่องรอยถูกเลื่อยยนต์ตัดที่ต้นคอ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงได้ตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้น และเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุ ก่อนนำร่างส่งชันสูจน์ต่อที่ รพ.บ้านนาเดิม ต่อไป
ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายวรพจน์ สงวนนามสกุล หรือ พจน์ อายุ 30 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 4 ต.ควนสุบรรณ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี เป็นลูกจ้างโค่นไม้ยางพารา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวได้ ขณะที่กำลังเก็บของเพื่อที่จะหลบหนี อยู่ในที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นได้คุมตัวนายพจน์เพื่อไปสอบปากคำที่ สภ.บ้านนาเดิม
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าผู้ตายได้รับจ้างโค่นไม้ยางพาราในสวนดังกล่าวมา 4 วันแล้ว และวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 ใกล้จะเสร็จโค่นไม้ยางท้ายสวน โดยมีผู้ก่อเหตุและนายบอย เป็นลูกจ้างช่วยกันโค่นไม้ 2 คน ในขณะที่ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตกำลังตัดต้นไม้กันอยู่ ผู้เสียชีวิตได้ก้มลงไปเพื่อจะใช้มีดพร้าฟันกิ่งไม้ ผู้ก่อเหตุจึงได้ใช้เลื่อยยนต์ตัดเข้าไปที่ต้นคอ จนผู้เสียชีวิตล้มฟุบลง และใช้มีดฟันเข้าที่คออีกครั้ง ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเดินไปยืมจอบที่บ้านของชาวบ้าน ที่อยู่ห่างกันเพียง 20 เมตร มาขุดหลุมและฝั่งร่างของผู้เสียชีวิต
ทางด้านนายชัย (นามสมมติ) เป็นเจ้าของบ้านที่ผู้ก่อเหตุไปยืมจอบเล่าให้ฟังว่า ขณะที่ตนกำลังนั่งอยู่หน้าบ้านตนได้ยินเสียงเลื่อยยนต์ดัง ก็คิดว่าคนงานตัดไม้กันตามปกติ พอเสียงเลื่อยยนต์เงียบลงก็ได้ยินเสียงผู้ก่อเหตุพูดว่า “ขาดแล้ว’’ หลังจากนั้นประมาณ 4-5 นาที ลูกจ้างตัดไม้อีกคน(นายบอย)ได้วิ่งมาบอกตนว่าให้โทรแจ้งตำรวจให้หน่อย แต่ผู้ก่อเหตุได้เดินตามหลังมาติดๆ และได้ขอยืมจอบของตน ก่อนจะเดินกลับไปขุดหลุมฝังร่างของผู้เสียชีวิต โดยใช้เวลาขุดอยู่ประมาณ 20 นาที ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึง หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้เก็บเลื่อยยนต์ขึ้นรถ เพื่อที่จะขับหลบหนีไป แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวไว้ได้
นางจารีย์ สงวนนามสกุล อายุ 49 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิตกล่าวว่า นายพจน์มาทำงานอยู่กับสามีตนได้ประมาณ 1 ปี ปกติแล้วนายพจน์เป็นคนร่าเริง แต่บางครั้งก็มักจะมีพฤติกรรมคล้ายคนเมายา ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นว่ามีปัญหาหรือทะเลาะกับสามีตน ส่วนปมก่อเหตุนั้นตนคาดว่าน่าจะเพราะนายพจน์เมายา จึงลงมือก่อเหตุ ซึ่งตนก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปหน้าที่ของกฎหมายลงโทษนายพจน์ เพราะต่อให้แลกด้วยชีวิตนายพจน์ สามีตนก็คงไม่กลับมาได้ ตอนนี้ก็ยังไม่สามารถทำใจได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
