ปิดตำนานกะเพราอ้วนตรึ้มแห่อาลัย "น้องทีน" ตี๋อ้วนเผยประทับใจเด็กสู้ชีวิต (คลิป)

เป็นเรื่องที่น่าเศร้าอีกหนึ่งเรื่องหลัง “ตี๋อ้วน” หรือ “นำชัย จรรยาฐิติกุล” พิธีกรชื่อดังได้ออกมาโพสต์ถึงการเสียชีวิตของ “น้องทีน ร้านอ้วนตรึ้ม กะเพราตะหลิวตัด” เด็กชายชีวิตลำบาก ที่ได้รับความช่วยเหลือจากตี๋อ้วน จนกลับมามีชีวิตที่ดีขึ้นได้

วันที่ 17 ก.พ. 66 ที่วัดนินสุขาราม ย่านบางบอน กทม. ได้รับร่างน้องทีนให้สามารถจัดบำเพ็ญกุศลศพที่วัดได้ โดยบรรยากาศการรดน้ำศพเป็นไปอย่างโศกเศร้า

นายไชยนันต์ ศุภผลศิริ อายุ 42 ปี พ่อน้องทีน เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่ได้อยู่กับลูก ในวันที่ลูกชายเสียชีวิตคนดูแลได้แจ้งตนว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว เพราะหมอไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกชายพยายามปิดบังเรื่องอาการป่วยมาตลอด บอกตนว่าป่วยไม่เยอะเพราะไม่อยากให้ตนเป็นห่วง ซึ่งตนก็ยังอวยพรให้ลูกหายไว ๆ เพื่อจะได้กลับมาขายผัดกะเพราให้เอฟซ

ก่อนหน้านี้ไม่มีลางสังหรณ์อะไร เพียงแต่รู้สึกว่าลูกชายไม่ค่อยตอบไลน์ ตนกพยายามทักหาแต่ก็ไม่มีใครตอบ จนสุดท้ายคนดูแลบอกว่าลูกชายตนตายแล้ว อย่างไรก็ตาม นิสัยใจคอของลูกชายนั้นเป็นคนใจบุญ ชอบให้และชอบช่วยเอื้อเฟื้อกับคนอื่น ๆ
สุดท้าย

สำหรับการเผาศพลูกชายนั้น ยังคงปรึกษากันอยู่ว่าจะทำอย่างไร เพราะร่างของลูกชายค่อนข้างใหญ่ ไม่สามารถนำร่างเข้าเตาเผาได้ ดังนั้นหลังจากนี้จะมีการปรึกษาหารือกันว่าจะเผาศพอย่างไร แต่ศพจะตั้งบำเพ็ญกุศลเอาไว้ที่วัดนินสุขารามอย่างแน่นอน

นายต่อศักดิ์ รุ่งทอง หรือ ต่อ อายุ 41 ปี คนดูแลน้องทีน เปิดเผยว่า ตนอุปการะน้องทีนมากว่า 8 ปี ก่อนหน้าที่น้องทีนจะอาการเข้าขั้นวิกฤติ น้องได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล มีแผลขนาดใหญ่ที่ขา ซึ่งก็ได้ดูแลรักษาทำแผลมาระยะหนึ่ง กระทั่งเมื่อวันที่ 16 ก.พ.66 ก่อนเสียชีวิต 1 วัน น้องทีนมีอาการจุกท้องแล้วก็อ้วก 2 ครั้ง มีอาการอ่อนแรงมาก คาดว่าเป็นผลจากน้ำหนักลงเร็ว หลังจากนั้นหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน แพทย์ทำการช่วยเหลือราว 1 ชั่วโมงกว่า ก็ไม่ตอบสนอง สุดท้ายได้เสียชีวิตลง

ในช่วงสุดท้ายของชีวิตน้องทีน ตนโทรไปตามพ่อเขาให้มาเยี่ยม แต่พ่อกลับอ้างว่าไม่ว่า จะขอมาพรุ่งนี้ หลังจากนั้นน้องทีนก็เสียชีวิต หลังจากนั้นพ่อน้องทีนก็จะรีบมา แต่ตนก็แจ้งว่าไม่ทันแล้วและให้มาเจอกันที่วัดเลย อย่างไรก็ตาม วันนี้ต้องตระเวณหาวัดจนถึงวัดที่ 3 เขาจึงยอมรับทำศพ เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีวัดที่จะเผาร่างของน้องทีนได้ เพราะน้องทีนตัวใหญ่

“ตี๋อ้วน” เผยกับทีมข่าวอมรินทร์ว่า จุดเริ่มต้นของการช่วยเหลือตนเห็นน้องเขาในเพจคนบางแค น้องเขาประกาศว่าน้องเขาขายกะเพราอยู่ ขายไม่ได้เลย แล้วตัวอ้วนด้วยหนัก 200 กิโลกรัม เป็นหนี้เป็นสินด้วย และตนไม่รู้ว่าน้องเคยออกรายการ ปัญญาปันสุข มาก่อน ตนก็ทำรายการขึ้นมาชื่อว่า “ช่วยด้วย” เอาไว้ช่วยคน เลยเอาเคสน้องทีนเป็นเคสแรก และได้เข้าไปช่วย ก็เห็นว่าน้องลำบากจริง เวลาขายกะเพรา ก็ต้องไปกู้เงินเขามา ถ้าขายไม่หมดก็ต้องกินเอง และที่จะขายพรุ่งนี้ก็ไม่มีทุน ก็ต้องไปกู้มาอีก จะซื้อขนมที่อยากกินก็ไม่ได้ซื้อ แล้วก็เป็นหนี้ไปเรื่อย ๆ

เมื่อคลิปตนได้ออกรายการไป คนก็ดราม่าถามมาว่า เงินที่ได้จากรายการปัญญาปันสุขไปไหน ตนก็ตอบไปว่ามันหลายปีแล้ว ก็ต้องเอาไปใช้หนี้ เขาเป็นหนี้รายวัน เป็นหนี้ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน แล้วตอนนั้นก็ช่วงโควิดต้องใช้จ่ายเงินตลอด ขายของก็ไม่ได้ แม้กระทั่งมือถือก็ต้องขายทิ้ง ตนยังเคยซื้อมือถือใหม่ให้เขาเลย

“ตี๋อ้วน” บอกอีกว่า เด็กคนนี้ถูกทิ้งอยู่ข้างถนน โชคดีที่มีพี่ที่ชื่อ “ต่อ” เขาไปเจอตอนตี 2 ถามว่ามานั่งทำอะไร น้องทีนก็บอกว่ามานั่งเล่น แล้วพี่ต่อเขาก็เก็บไปเลี้ยง พาไปขายอาหารตามสั่งด้วยกัน ถ่ายทอดวิชาผัดกะเพราให้ ตอนที่ตนไปถ่ายทำรายการก็ได้รู้ว่าพี่ต่อคนที่ช่วยน้องก็เป็นเด็กที่เคยถูกเก็บมาเลี้ยงเหมือนกัน สุดท้ายก็มาอยู่ด้วยกัน ขายผัดกะเพราด้วยกัน แต่มันหนี้เยอะ ตนก็ไปช่วย ไปมอบเงินให้ ซื้ออุปกรณ์ขายของไปให้ ด้วยความโชคดีพอคอนเทนต์มันออกไปก็มีน้อง ๆ ที่เป็นยูทูเบอร์ตามไปถ่ายคลิปกับน้อง เลยช่วยทำให้เป็นที่รู้จัก และขายดีขึ้น ตนก็คิดชื่อร้านให้ทำป้ายให้ และความฝันของเขาคือเขาอยากมีร้านกะเพรา และเมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา น้องเขาก็โทรมาหาทีมงานของตน ฝากบอกตนว่ามีร้านแล้ว และตนก็กำลังจะไปเยี่ยม จนเมื่อคืนก็ได้รับข้อความมาบอกว่าน้องทีนเสียชีวิตแล้ว

“ตี๋อ้วน” บอกว่า สิ่งหนึ่งที่ตนเสียดายในเด็กคนนี้คือเขาเพิ่งมีความสุขไม่ถึงเดือน เพิ่งจะมีร้าน เขาเพิ่งจะมีเงินซื้อของเล่น ทีมงานตนไปเจอน้องยืนซื้อของเล่นอยู่ ก็ถ่ายรูปมาให้ตนดู ตนก็บอกกับทีมงานว่า น้องมันมีความสุขแล้ว มันขายของได้ มีคนไปกินไปช่วย ตนดีใจที่ตนไปปลุกผีขึ้นมา จนน้องมีชีวิตที่ดีขึ้น เราก็ดีใจ แต่พอวันนี้ได้ข่าวตนก็น้ำตาร่วงเลย สงสารน้องมัน ยังไม่น่าตาย อายุยังน้อย กำลังจะมีความสุข

ในส่วนของสาเหตุการเสียชีวิต ตอนที่ตนเจอน้องยังไม่ป่วย แต่ตนเคยถามว่าน้องไม่ไปหาหมอเหรอ เพราะน้ำหนัก 200 กิโลกรัม น้องก็บอกไม่มีเงินไปหา แต่คนอ้วนเวลาป่วยมันก็จะมีโรคมารุมเร้าทีเดียวเลย ตนเลยคาดว่าน้องน่าจะติดเชื้อในกระแสเลือด ที่เท้าก็เป็นแผลพุพอง อาจทำให้ติดเชื้อง่าย แต่สาเหตุจริง ๆ ตนยังไม่ทราบ นิสัยใจคอของน้องทีนน้องเป็นคนมีความสามารถ มนุษย์สัมพันธ์ดี มีมุกตลก เป็นคนน่ารัก ไม่ก้าวร้าว พูดจาดี กตัญญูมาก ดูแลยายมาตั้งแต่เด็กจนยายเสีย พ่อแม่ไม่เคยมาดูแล ส่วนเรื่องหนี้สินตนเชื่อว่าน้องน่าจะขายของใช้หนี้หมดแล้ว เลยมีร้านใหม่ที่เป็นความฝันของน้อง

"น้องเป็นเด็กกตัญญู ขยัน อดทน สู้ชีวิต ผ่านมรสุมมามากมาย เป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็ก ๆ หลายคน รู้จักทำมาหากิน สร้างเนื้อสร้างตัว ไม่คิดยุ่งอบายมุข แต่อีกมุมเรื่องสุขภาพที่ต้องดูแลด้วย ที่น้องเขาพลาดเรื่องสุขภาพ เพราะเขาไม่มีเงินด้วย ไม่มีญาติ ไม่มีคนดูแล และเขายังเป็นเด็กน้อย และสุดท้ายเขาอยู่ได้ด้วยสังคมดูแลเขา ไม่ใช่ญาติ"