จากกรณีที่นางต้อย แววโคกสูง อายุ 52 ปี ชาวบ้าน ต.ทองหลวง อ.จักราช จ.นครราชสีมา ได้นำเอกสารเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จักราช หลังพบว่าบัญชีเงินฝากของนายปกรณ์ แววโคกสูง อายุ 15 ปี ผู้เป็นหลาน ได้ถูกถอนออกไปเป็นจำนวนเงิน 5 แสนบาท จนเงินเหลือแค่ 2,000 บาท ซึ่งได้นำเอกสารเข้าสอบถามกับธนาคาร ทำให้ทราบว่าเงินในบัญชีมีลายมือชื่อของนายปกรณ์ เจ้าของบัญชีถอนออกไปจริง และเมื่อสอบถามไปที่นายปกรณ์ ทราบว่านางอ้อ เยี่ยงอย่าง ที่เป็นเพื่อนบ้านและเป็น อสม.ประจำหมู่บ้าน ได้หลอกล่อให้นายปกรณ์นำสมุดบัญชีมาให้ และถอนเงินออกไป โดยเจ้าตัวอ้างว่าจะนำไปใช้หนี้เงินกู้นอกระบบนั้น (อ่าน :
“ยายอ้อ” เปิดใจโกงเงินเด็ก 5 แสนช่วยลูกสมองตีบ แถมส่งดอกวันละ 4 พัน)
นางหลอด จุมพิฎกะพันธ์ แม่ของนางอ้อ
วันที่ 1 พ.ค. 62 นางหลอด จุมพิฎกะพันธ์ แม่ของนางอ้อ อสม. ประจำหมู่บ้านที่หลอกถอนเงิน เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องตนก็ไม่เคยเจอลูกสาวและสามีอีก ไม่มีการติดต่อมาบอกเรื่องราวใด ๆ ตนก็ไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งนี้ เงิน 500,000 บาท ที่ลูกสาวตนไปลวงน้องปกรณ์มานั้น ตนไม่เคยทราบ ส่วนที่ลูกบอกว่านำเงินจำนวนดังกล่าวมาใช้หนี้ และลงทุนหมุนเวียนค้าขายก๋วยเตี๋ยวและอาหารตามสั่งนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะนางอ้อไม่ได้ค้าขายมาหลายปีแล้ว ส่วนที่อ้างว่านำเงินไปใช้หนี้นั้น ตนไม่ทราบ เพราะลูกไม่เคยบอกหรือปรึกษาเรื่องหนี้สิน
นางหลอด ยอมรับว่า เสียใจและผิดหวังในตัวลูกมาก โดยยืนยันว่าจะไม่ให้ท้าย หรือเข้าข้างคนผิดแน่นอน และจะไม่ให้การช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้น หากเจอตัวลูกสาวหรือกลับมาบ้าน จะเรียกตำรวจมาจับทันที ตนขอตัดแม่ตัดลูกกับนางอ้อ เพราะทำให้ตนและครอบครัวเสียชื่อเสียง สร้างความอับอายมาก ส่วนนางอ้อย ลูกสาวคนโต ขณะนี้ย้ายไปอยู่ที่ จ.ระยอง
นางบุญเลิศ ชอบทดกลาง เจ้าหนี้ของนางอ้อ
ด้าน นางบุญเลิศ ชอบทดกลาง อายุ 48 ปี เจ้าหนี้ของนางอ้อ เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกับนางอ้อ และน้องปกรณ์ โดยเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 60 นางอ้อเข้ามาหาตนที่บ้านพร้อมกับนางอ้อย พี่สาว เข้ามาขอยืมเงินครั้งแรกจำนวน 10,000 บาท ด้วยความที่คุ้นเคยกันจึงให้ยืมเงิน จากนั้นไม่กี่เดือนต่อมา เข้ามาขอยืมเงินอีกจำนวน 10,000 บาท อ้างว่าจะนำเงินไปใช้หนี้ จากนั้นไม่นาน นางอ้อร้องไห้เสียใจเข้ามาขอความช่วยเหลือจากตน อ้างว่าลูกชายคนโตขับขี่รถจักรยานยนต์ชนคนบาดเจ็บ ขอยืมเงินอีกจำนวน 30,000 บาท โดยตั้งแต่นางอ้อยืมเงินไปแล้ว 50,000 บาท ตนคิดดอกเบี้ยร้อยละ 5 นางอ้อติดหนี้เกือบปี รวมต้นและดอกแล้วเป็นเงิน 80,000 บาท แต่ไม่เคยได้รับเงินคืน
ซึ่งที่นางอ้อเล่าว่านำเงินไปใช้หนี้นอกระบบ ตนไม่ทราบว่ามีกี่เจ้า ทั้งนี้ ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่หวังได้เงินคืน เพราะแม้แต่ที่ซุกหัวนอน นางอ้อยังไม่มี
นายปกรณ์ แววโคกสูง ผู้เสียหาย
นายปกรณ์ แววโคกสูง อายุ 15 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่นางอ้อบอกว่าจะนำเงินมาคืนก่อน 200,000 บาท ภายในเดือนนี้ ตนยอมรับว่าไม่คาดหวัง แต่ก็อยากได้เงินคืนเพื่อใช้ในการเรียน และเป็นทุนการศึกษา เครื่องแบบนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ
ทั้งนี้ แต่ละครั้งที่นางอ้อพาตนไปถอนเงิน นางอ้อและนางอ้อย พี่สาว จะบอกเสมอว่า “ขอยืมเงินก่อนนะ จะเอาไปใช้หนี้ และเอาไปจ่ายค่าเทอมให้ลูก” และมักจะกำชับว่าห้ามไปบอกใคร ด้วยความสงสารและปักใจเชื่อ ตนจึงไม่เคยบอกเรื่องนี้กับครอบครัว
รายการสมุดบัญชีธนาคารเล่มใหม่
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่มาออกรายการ “ต่างคนต่างคิด” ทางอมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ออกอากาศวันจัทนร์ - ศุกร์ เวลา 18.20 น. แล้วนั้น ก็ได้รับเงินบริจาคช่วยสมทบทุนการศึกษา ยอมรับว่าดีใจ และขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ โดยจะนำเงินไปซื้ออุปกรณ์การเรียนต่อไป
ช่องทางการช่วยเหลือ เลขที่บัญชี 020237316425 ธนาคารออมสิน ชื่อบัญชี ด.ช. ปกรณ์ แววโคกสูง
