กรณี วันที่ 20 พ.ค.65 ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ต.สวรรยา เอียดตรง สว.กก.6 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายสมชาย อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ที่ 168/2564 ลงวันที่ 21 ก.ค.64 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ จับกุมได้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 64 นายสมชาย ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง น.ส.อรอุมา อายุ 42 ปี ภรรยาจนเสียชีวิตต่อหน้าลูกสาววัย 9 ขวบ ก่อนทิ้งศพไว้ในรถกระบะถูกจอดทิ้งไว้ริมถนนพื้นที่หมู่ 1 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง แล้วหลบหนีไป
พ.ต.ต.สวรรยา เอียดตรง สว.กก.6 บก.ป. ซึ่งเป็นชุดจับกุม ให้ข้อมูลว่า หลังจากกนายสมชายก่อเหตุ ตำรวจได้ติดตามตัว และหาเบาะแสอยู่หลายเดือน กระทั่งช่วงเดือน พ.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเบาะแสว่านายสมชาย มิตรสาร ผู้ก่อเหตุ ได้หลบหนีไปทำงานกรีดยาง กับคนรู้จัก ในพื้นที่ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 9 พ.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสว่านายสมชาย ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ารักษาตัวที่ รพ.แห่งหนึ่งในอำเภอฉวาง โดยป่วยติดเชื้อในปอด และได้ใช้ ชื่อ-สกุล ของบุคคลอื่น ในการรักษาตัว วันที่ 14 พ.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมนายสมชาย ได้ขณะนอนรักษาตัวอยู่บนเตียง ก่อนพาตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.สิเกา จ.ตรัง
เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุโดยไม่ได้ตั้งใจ ก่อนเกิดเหต นางสาวอรอุมา ผู้ตาย และลูกสาววัย 9 ขวบ ได้เดินทางมาเยี่ยมนายสมชายที่บ้าน หมู่ 1 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง จากนั้นเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงด้วยเรื่องหึงหวง ระหว่างที่ผู้ตายจะพาลูกสาวกลับบ้าน นายสมชายไม่ยอม พร้อมกับสั่งห้าม ก่อนจะนำอาวุธปืนออกมาจ่อ ผู้ตายเข้ายื้อแย่งจนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายสมชายส่งฝากขัง และส่งตัวไปเรือนจำจังหวัดตรังตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. 65 ที่ผ่านมาแล้ว
นางราศรี มิตรสาร อายุ 77 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ลูกชายก่อเหตุฆ่าภรรยาของเขาไป ตัวเองก็ไม่ได้พูดคุย และไม่ได้ติดต่อลูกชายอีกเลย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าลูกชายหลบหนีไปอยู่ที่ไหน กระทั่งเมื่อประมาณวันที่ 15 พ.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์มาบอกตัวเองว่าได้ตัวลูกชายแล้ว โดยจับกุมได้ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จากนั้นตำรวจก็ได้พาลูกชายมารักษาตัวต่อที่ รพ.สิเกา ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางไปเยี่ยมลูกชายที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมาก เพราะลูกชายอยู่ในสภาพที่อ่อนแรง และเจ้าหน้าที่ก็ให้ได้เจอหน้ากันแค่ประมาณ 10 นาที
ส่วนที่ลูกชายหลบหนีไปที่ อ.ฉวางนั้น คาดว่าน่าจะไปอยู่กับคนรู้จัก เพราะตัวเองก็ไม่มีญาติอยู่ที่นั้น สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นตัวเองเชื่อว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ลูกชายทำอะไรไว้ เขาก็ต้องเดินไปตามนั้น ยอมรับว่าหัวอกคนเป็นแม่ ก็ย่อมห่วงลูกชายเป็นธรรมดา ที่เห็นสภาพลูกชายป่วย แต่สิ่งที่ลูกชายทำไว้ มันก็หนักหนาเกินไป ส่วนทางด้านญาติฝั่งคนตาย ตั้งแต่เกิดเหตุตัวเองก็ยังไม่ได้พูดคุยกัน เพราะเขาก็ไม่ใช่คนที่นี่
ด้านนายพีระศักดิ์ อายุ 54 ปี สามีของนางอรอุมาตามกฎหมาย กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวนายสมชาย ผู้ต้องหาได้นั้น ตัวเองก็รู้สึกสบายใจ ส่วนที่เหลือก็ปล่อยเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะโทรมาบอกความคืบหน้าทางคดี ให้ตัวเองรับทราบข้อมูลอยู่เรื่อย ๆ กระทั่งวันที่ตำรวจจับคนร้ายได้
ตอนนี้ตัวเองต้องดูแลลูกที่มีกับนางสาวอรอุมา 2 คน ซึ่งลูกสาวคนโตอายุ 10 ขวบ คนที่อยู่ในเหตุการณ์วันเกิดเหตุนั้น เขาก็สภาพจิตใจย่ำแย่ และชอบบ่นคิดถึงแม่ ตั้งแต่ภรรยาตัวเองเสียชีวิต ตัวเองก็ไม่เคยฝันเห็นภรรยาเลย
