"เต้ มงคลกิตต์" มองตำรวจบอกตกท้ายเรือโดยใบพัด ชี้หากท้ายเรือต้องมีรอยนิ้วมือ คราบยูเรีย และรอยเท้า อาจจะตกจากหน้าเรือหรือไม่ เพราะแผลเหวอะโดนหลังขาทั้งสองข้าง วอนตำรวจตรวจโทรศัพท์มือถือครบทุกคน และตรวจดูคลิปที่มีการลบออกไป
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.สังกัดพรรคไทยศรีวิไลย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเองได้ฟังคำแถลงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนเองประเมินเอาไว้แล้วว่าเจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจจะยึดตามคำให้การของ นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน เป็นหลักในการดำเนินคดี ซึ่งตนเองมองว่าไม่ได้เกินความคาดหมาย โดยสรุปรวมได้อย่างเดียวว่า "แตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ" ซึ่งตำรวจจะเชื่อหรือไม่นั้นก็ปฏิเสธอะไรไม่ได้ เพราะคือคำให้การของผู้ต้องหา อีกทั้งจุดตกพื้นที่ตกน้ำนั้นก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นจุดไหน เพราะภาพไม่ชัด จึงไม่สามารถสรุปจุดตก และจุดที่เสียชีวิตที่ใด
เรื่องของสรุปว่าการประมาททำให้ตกเรือนั้น ตนเองมองว่าสรุปไม่ได้อีกเช่นเคย ได้เพียงแค่ว่าคาดการณ์ว่าตกยังจุดใด อีกทั้งบาดแผลที่บอกว่าเข้าได้กับคดี ตนเองมองว่ายังคงต้องตั้งคำถาม เพราะถ้าหากตกเรือจากบริเวณท้ายเรือจริงนั้น แผลจะมีทั้งขา 2 ข้างเลยหรือ ถ้าตกเรือโดยใบพัดแผลจะต้องเป็นรอยบาดที่เท่ากัน และมีระยะห่างของใบพัด 4-5 นิ้ว แต่ลักษณะนี้อาจจะตกจากหน้าเรือหรือไม่ เพราะบาดแผลมีด้านหลังขา 2 ข้าง หรือแล้วเรื่องขับผ่านคล้อมร่างไป ทำให้เกิดบาดแผลเหวอะ ถือว่าเชื่อได้ยากว่าโดนใบพัดและตกจากด้านหลัง คงเป็นไปไม่ได้ทีคุณแตงโมจะมาขึ้นคล่อมเรือช่วงระหว่างใบพัดแล้วปัสสาวะ
จากงานวิจัยการโดนใบพัดเรือนั้น จะต้องต้องบริเวณด้านหน้าเรือและเรือทับ ทำให้แผลเหวอะหวะแผลฉกรรจ์ อีกทั้งถ้าเป็นรอยแผลจากใบพัดเรือจริง แล้วใบพัดเรือตรวจคราบเลือดหรือยัง หรือชิ้นส่วนของใบพัดติดไปกับเนื้อตัวของแตงโมหรือไม่ อีกทั้งท้ายเรือจะต้องมี DNA รอยเท้าคุณแตงโมต้องมีคราบรอยยูเรีย ที่จะสามารถตรวจสอบว่ามีการฉี่จริงหรือไม่ ซึ่งลายนิ้วมือ รอยเท้า รอยยูเรียจะต้องมีอย่างแน่นอน
ส่วนคลิปที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จะเปิดออกมานั้นเป็นคลิปของเพื่อนคุณปอ มองว่าเป็นพยานแวดล้อมเป็นส่วนสำคัญของคดี ปัจจุบันนี้เราสงสัยอะไรส่งข้อมูลให้ตำรวจไม่ได้ ตอนนี้ต้องรวบรวมคำถามส่งให้อัยการ และอัยการจะนำไปสู่คณะทำงานกับพนักงานสอบสวนไปสอบสวนเพิ่มเติม ตอนนี้ยอมรับว่าข้อสงสัยต่าง ๆ มีเยอะมาก อยากจะให้นำคลิปที่มีอยู่กับคุณกระติกและคุณแซน นำออกมาเปิดเผย อยากฝากถามถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ว่าได้มีการเก็บโทรศัพท์ไปทั้งหมดกี่เครื่อง ตรวจสอบแล้วเจออะไรที่ถูกลบไป กู้คืนคลิปมาได้กี่คลิป และมีการโทรหาใครบ้าง ในคืนดังกล่าวไปพักที่ไหนบ้าง และถ่ายโอนข้อมูลไปไว้ที่ไหนบ้าง ตำรวจได้ทำการตรวจสอบแล้วหรือยัง ตอนนี้ตนเองมองว่ายังไม่สามารถปิดคดีได้ ส่วนนี้เป็นเพียงแค่ส่งสำนวนให้กับทางอัยการ และจะตีกลับมาเพื่อสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง
ด้านนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา บอกว่า การแถลงดังกล่าวทำให้ภาพลักษณ์ของตำรวจเป็นไปในทิศทางที่แย่ลง เพราะสังคมนั้นมองว่าความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีเพียงเท่านี้ เนื่องจาก 1.เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งธงว่าคดีแตงโมเป็นคดีเกี่ยวกับความประมาท ทำให้การสืบสวนสอบสวนทำไปตามธงที่ตั้งเอาไว้ 2.การแถลงคำพูดที่ใช้เป็นการคาดการณ์โดยส่วนใหญ่ 3.เจ้าหน้าที่ไม่เปิดหลักฐานและไม่ให้เหตุว่าใครประมาทอย่างไร โดยอ้างว่าจะเป็นข้อได้เปรียบของผู้ต้องหา ทั้ง ๆ ที่หากหลักฐานชัดเจนเพียงพอ ผู้ต้องหาก็ต้องจำนนต่อหลักฐานนั้นไปโดยไม่มีข้อโต้แย้ง 4.เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ชี้แจงข้อสงสัยต่าง ๆ ของสังคม เช่น แชตที่บุคคลบนเรือพูดคุยกัน คุยกับใคร คุยอะไร
นอกจากนี้ แผลบนร่างกายของแตงโมที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าเกิดจากการตกเรือแล้วถูกใบพัด เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ได้ชี้แจงอย่างละเอียดว่าพิสูจน์และตรวจเทียบอย่างไร ทั้งนี้ แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะปิดสำนวนคดีได้ แต่ตนเชื่อว่าคดียังไม่จบ เพราะสังคมจะทำการวิเคราะห์สำนวนดังกล่าว และพร้อมชี้แจงข้อสงสัยต่ออัยการจังหวัดนนทบุรี ตนเชื่อว่าอัยการจะต้องสั่งสอบเพิ่มเติมอย่างแน่นอน โดยหากประชาชนมีหลักฐานเพิ่มเติม ก็สามารถส่งมอบให้กับอัยการได้ สุดท้าย หากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะแถงเช่นนี้ ก็ควรส่งสำนวนคดีไปตั้งแต่ 15 วันแรกหลังเกิดเหตุ เพราะไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่าเดิม
