คดีพลิก! เจ้าของที่โฮถูกด่า "หนักแผ่นดิน" ขวางทำสะพาน อดีตยกที่ให้หลวงแต่คนลืม (คลิป)

กรณีชาวบ้าน จ.อ่างทอง ถ่ายภาพขณะที่รถแบ็กโฮขนาดใหญ่ของผู้รับเหมาเทศบาลเมืองอ่างทอง และแขวงการทางอ่างทอง ซึ่งจะเข้าทำลายอาคารพาณิชย์ ที่อยู่ติดกับสะพานอ่างทอง หลังถูกเวนคืนเพื่อสร้างเป็นจุดกลับรถ

โดยภาพแสดงให้เห็นหญิงสาว 3 คนที่เป็นเจ้าของอาคารดังกล่าว พยายามเข้าขัดขวางเจ้าหน้าที่ ซึ่ง 2 ใน 3 คนนั่งขวางไม่ให้รถแบ็กโฮเข้าไปทำงาน โดยมีชาวบ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามเจรจาก่อนที่ชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จะพยายามอุ้มหญิงสาวทั้ง 2 คนออกจากจุดบริเวณดังกล่าว ก่อนที่จะเกิดการกระทบกระทั่ง และเกิดการทำร้ายร่างกายกันจนเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เทศบาลต้องเข้าห้าม และพยายามเจรจากับหญิงสาวทั้ง 2 ราย โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ทั้งคู่จึงยอมลุกออกจากพื้นที่

ล่าสุดวันที่ 30 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพูดคุยกับนายเตือนใจ ทรงไตร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอ่างทอง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ตนเริ่มดำรงตำแหน่งนายกเทศบาลเมืองอ่างทอง ก็เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ซึ่งหากมีการสร้างจุดกลับรถบริเวณใต้สะพาน จะทำให้การสัญจรได้ง่ายขึ้น และเศรษฐกิจดีขึ้น ส่งผลให้ชุมชนเข้าถึงความเจริญมากขึ้น โดยแขวงทางหลวง เป็นเจ้าของโครงการก่อสร้าง

โดยพื้นที่ดังกล่าวแขวงการทางมาการเวนคืนที่ดิน และจ่ายเงิน ทดแทนไปตั้งแต่ วันที่ 19 ก.ย.2548 จำนวน ประมาณ 6-7 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่ได้มีการทำที่กลับรถดังกล่าว และตั้งแต่ตนมาดำรงตำแหน่ง ทางเจ้าของที่ก็ขอเลื่อนการก่อสร้างมาหลายครั้ง ซึ่งในจำนวนหลายครั้งที่ทางแขวงทางหลวงและเทศบาล จะมีการดำเนินการก่อสร้าง แต่หญิง 3 คนนี้จะมาขัดขวางการทำงานตลอด

กระทั่งวันเกิดเหตุคือวันที่ 27 ก.ย.64 เวลาประมาณ 08.00 น. ขณะที่รถแบ็กโฮเข้าพื้นที่ แต่หญิง 2 คน มีการมานั่งขวางการทำงานตั้งแต่เช้า มีชาวบ้านหลายคนเข้าไปสอบถามเหตุการณ์จึงเริ่มบานปลาย ขณะที่แขวงการทางได้ลงบันทึกประจำวันในการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่แล้ว หากหญิงสาวคนดังกล่าวมีความประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีกับตนก็ยินดี แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเรียกจากตำรวจแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าชาวบ้านจำนวนมากที่เดินทางไปยังจุดนั้นเดินทางมากันเอง เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน ตนไม่ได้มีการเกณฑ์ไปแต่อย่างใด และไม่ได้มีผลประโยชน์ใด ๆ กับการก่อสร้างครั้งนี้หลังจากนี้ก็จะเดินหน้าดำเนินการทำที่กลับรถให้เสร็จต่อไป

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปจุดที่มีการสร้างทางกลับรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่ อ.เมือง จ.อ่างทอง โดยน.ส.ศศิธร จันทรัตน์เจริญ อายุ 56 ปี เจ้าของที่ดินพาทีมข่าวเดินดูบริเวณใกล้เคียง พบว่ามีรถแบ็กโฮจอดอยู่ 1 คัน และกำลังดำเนินการก่อสร้าง มีการทุบอาคารด้านหน้าไปทั้งหมดแล้ว ยังเหลืออาคารอีก 2 คูหา

น.ส.ศศิธร กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุตนออกมาขวางไม่ให้รถแบ็กโฮทำงาน เพราะทางแขวงมีการขอเวนที่ดินคืน จำนวน 168 ตารางวา เพื่อที่จะสร้างจุดกลับรถใต้สะพาน ตนยืนยันว่ายินยอมให้ทำจุดกลับรถ แต่ขอผลัดผ่อนไปก่อน เพราะต้องการกั้นรั้วบริเวณข้างบ้านก่อน ซึ่งเหลืออีก 3 วันรั้วก็จะเสร็จ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ไม่สามารถใช้ไฟฟ้ายิงตะปูได้ เพราะหากทุบอาคารและพื้นที่ข้างสะพานไป ก็จะเป็นหลังบ้านของตน ไม่มีรั้วกั้น จึงสร้างรั้วเพื่อความปลอดภัย เพราะที่บ้านมีผู้หญิงอยู่ทั้งหมด 4 คน กลัวขโมย และกลัวสุนัขของตนจะออกไปกัดคนอื่น แต่วันดังกล่าวทางเทศบาล นำรถเข้ามาทำงานโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า จึงทำให้เหตุการณ์ออกมาดังที่ปรากฏในคลิป

ทั้งนี้ ตนมองว่านายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอ่างทอง ปฏิบัติหน้าที่ไม่มีจริยธรรม เพราะพาชาวบ้านคนอื่น ๆ มากลั่นแกล้ง และด่าทอตน มองว่าเป็นการรังแกประชาชน หากให้ตนทำรั้วเสร็จก่อน 3 วัน ก็จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนได้รับบาดเจ็บช่วงชุลมุนเล็กน้อย มีการลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ต้องการเอาผิดนายกเทศบาลเนื่องจากปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก่อนหน้านี้ที่กินของพ่อตนยาวไปถึงอีกด้าน จำนวนกว่า 13 ไร่ และพ่อก็บริจาคที่ดินไปเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ให้ทำสะพานฟรี ๆ แต่กลับถูกรังแกแบบนี้ ล่าสุดที่ดินบ้านตนเหลือประมาณแค่ 3 ไร่เศษ ๆ