ลูกหลอนยาหนัก! คลุ้มคลั่งทำร้ายแม่
ครอบครัวหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ สุดท้อหลังลูกชาย ติดยาอย่างหนักทั้งอาละวาดคนในบ้าน ทำร้ายแม่ หนำซ้ำทำลายข้าวของในบ้านพังเสียหาย พ่อเปิดเผยหมดหนทาง เอาไม่อยู่ ไม่รู้จะทำอย่างไร วอนเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ
กรณีเพจเฟซบุ๊ก ข่าวสารเมืองปราการ v.2 โพสต์ภาพบ้านที่ประตูพังข้าวของกระจัดกระจาย พร้อมข้อความ ขอความช่วยเหลือ โดยระบุสมาชิกในครอบครัวเป็นทาสยาเสพติด คลุ้มคลั่งอาละวาดทำร้ายแม่และข้าวของในบ้านบ่อยครั้ง
ล่าสุดวันนี้ ( 15 พ.ค. ) ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่า บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านทาวเฮาส์ชั้นเดียว ซึ่งประตูรั้วเหล็กหน้าบ้านงอจนปิดได้เพียงครึ่งเดียว ส่วนข้าวของอื่นๆถูกเก็บไว้เรียบร้อยแล้ว
สอบถามนายลำพง พรมวัน อายุ 61 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า นายแจ้ ลูกชายวัย 26 ปีของตนติดยาเสพติดอย่างหนัก ชอบทำร้ายร่างกายคนในบ้านและทำลายข้าวของ
โดยวานนี้(14 พ.ค.) เวลา 15.00 น. นายแจ้ไปขอเงินตนที่ตลาดตนจึงให้ไป 50 บาท หลังจากนั้นนายแจ้ก็ไปซื้อน้ำมันก่อนขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างออกไป ส่วนตัวกลัวว่าลูกชายจะนำน้ำมันไปเผาบ้าน จึงรีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ป้อมตำรวจในพื้นที่ แต่กว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปที่บ้านก็ล่วงเลยมากว่าครึ่งชั่วโมง เมื่อเข้าไปถึงปรากฎว่าข้าวของหน้าบ้านกระจาย ประตูรั้วเหล็กล้ม ส่วนภรรยาก็บาดเจ็บที่เท้าจากการเหยียบเศษกระเบื้อง
สอบถามทราบว่านายแจ้จะเข้ามาเอารถจักรยานยนต์ที่จอดในบ้าน แต่ภรรยาตนไม่ยอมและพยายามโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาจับตัวลูกชายออกไป ด้วยความโมโหลูกชายจึงพังประตูบ้าน ทำลายข้าวของ และพยายามเข้าไปแย่งโทรศัพท์ในมือแม่ รวมถึงใช้มีดจะฟันแม่ตัวเอง โชคดีที่หลบทัน
นายลำพง กล่าวตัดพ้อว่า ลูกชายก่อเรื่องตลอดเพราะติดยา หากไม่พอใจหรือไม่ยิมให้เงินก็จะถูกทำร้าย จนต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเคยส่งไปบำบัดนับ 10 ครั้ง แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเพราะลูกไม่ได้กินยาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนตัวอยากให้เจ้าหน้าที่จับตัวลูกชายออกไปบำบัดนานๆเพราะหากยังอยู่ก็จะก่อเหตุซ้ำๆ โดยภรรยาตนก็มีอาการทางประสาทต้องกินยาจิตเวช เกรงว่าอาการจะหนักขึ้นหากลูกชายเข้ามาก่อเหตุซ้ำๆ
ด้านนายเดชณรงค์ พรมวัน อายุ 32 ปี พี่ชายผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนก็เคยถูกน้องชายแทงที่ไหล่ด้านซ้าย เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว(2562) ตนจึงตัดสินใจย้ายออกจากบ้านเพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องใหญ่
ส่วนแม่ตนก็มีอาการทางจิตเวช หลังเกิดเหตุช่วงเช้าแม่ก็บอกว่าจะเดินทางไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อร้องเรียนเรื่องดังกล่าวจนตอนนี้ยังไม่กลับมา
ตอนนี้รู้สึกหมดหนทาง อยากให้สื่อช่วยเป็นกระบอกเสียง ให้ตำรวจเข้ามารับตัวน้องชายออกไปบำบัดรักษา นายเดชณรงค์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ใครไม่เจอแบบตนไม่มีทางรู้ว่าอยู่ยากขนาดไหน
จากนั้นทีมข่าวพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีขาว ที่นายแจ้ขับออกมาจากบ้านวานนี้จอดทิ้งไว้ข้างร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างห่างจากบ้านประมาณ 1 กม. โดยสอบถามทางเจ้าของร้านระบุว่ารถคันดังกล่าวถูกจอดทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และไม่ทราบว่าใครมาจอดทิ้งไว้ พร้อมระบุว่าไม่รู้จักนายแจ้แต่อย่างใด
