กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยผลการเจรจา FTA ไทย-EFTA รอบที่ 5 ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย มีความคืบหน้าเกินครึ่งทาง สามารถยกร่างข้อบทความตกลงที่คงค้างได้เพิ่มเติม พร้อมวางแผนจัดประชุมอีก 4 รอบ ตั้งเป้าสรุปผลการเจรจากลางปี 67

นางอรมน ทรัพย์ธวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association : EFTA) รอบที่ 5 ระหว่างวันที่ 13-16 มิ.ย.2566 ณ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ โดยการประชุมครั้งนี้ มีความคืบหน้าเกินครึ่งทางแล้ว โดยไทยและ EFTA สามารถทำความเข้าใจ และได้ข้อสรุปในการยกร่างข้อบทความตกลง ในส่วนที่ยังค้างอยู่เพิ่มเติมจากรอบที่ผ่านมา

สำหรับการประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วยการประชุมระดับหัวหน้าคณะผู้แทนเจรจา และการประชุมกลุ่มย่อย 12 คณะ ได้แก่ 1.การค้าสินค้า 2.กฎว่าด้วยถิ่นกาเนิดสินค้า 3.มาตรการอุปสรรค เทคนิคต่อการค้า 4.มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช 5.การค้าบริการ 6.การลงทุน 7.พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 8.ทรัพย์สินทางปัญญา 9.การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ 10. การค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน 11.ความร่วมมือด้านเทคนิคและการเสริมสร้างศักยภาพ และ 12.ข้อบทเชิงสถาบันและการระงับข้อพิพาท

ทั้งนี้ สองฝ่ายยังได้วางแผนการประชุมในปี 2566 อีก 2 รอบ ในเดือนก.ย. และพ.ย. และในปี 2567 จะจัดขึ้นอีก 2 รอบ ในเดือนม.ค. และมี.ค. เพื่อเดินหน้าสรุปผลการเจรจาภายในกลางปี 2567 ตามที่ทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าไว้

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2561-2565) การค้าระหว่างไทยและ EFTA มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 9,857.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในปี 2565 EFTA เป็นคู่ค้าอันดับที่ 14 ของไทย สำหรับในช่วง 4 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-เม.ย.) การค้าระหว่างไทยและ EFTA มีมูลค่า 3,043.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไป EFTA มูลค่า 1,833.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจาก EFTA มูลค่า 1,209.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เครื่องใช้สำหรับเดินทาง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และอาหารทะเลกระป๋องแปรรูป และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ นาฬิกาและส่วนประกอบ เนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค และผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม